บทที่5 บริษัทบันเทิง
by กู่เซียวซาน
10:18,Oct 22,2020
ความงามของหลิวรุ่ย นั้นเป็นที่รู้ดีสำหรับทุกคน ไม่แพ้ดาราแถวหน้าในMagic Entertainment Group
ไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวสวยคนนี้ จะดึงดูดแมวมองของ Magic Entertainment ได้ขนาดนี้
ถึงกระนั้น ทุกคนก็อดอิจฉาไม่ได้
คุณรู้ไหมว่า นั่นคือ Magic Entertainment บริษัทบันเทิงอันดับต้น ๆ ของเมืองซีฉวน หากหลิวรุ่ยเซ็นสัญญาจริงๆ ในนามของ Magic Entertainment Group เธอจะต้องดังเป็นพลุแตกแน่ๆ
เฉินหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างเริ่มสนใจ คิดไท่ถึงว่าหลิวรุ่ยกำลังจะเซ็นสัญญากับ Magic Entertainment และเธอจะเป็นของ Magic Entertainmenหลังจากวันนี้ และจากนั้นเธอก็จะเป็นคนของตนเอง
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ มุมปากของเฉินหยางก็หันขึ้นเล็กน้อย และเขาก็เดินไปต้องการสนทนากับหลิวรุ่ย
เฉินหยางนั่งลง ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด หลิวรุ่ยก็ขมวดคิ้วและขยับหนีอย่าเงียบ เธอมองไปที่เฉินหยางด้วยความรังเกียจ: "คุณมีกลิ่นเหงื่อ อยู่ห่างจากฉันหน่อยได้ไหมคะ "
เฉินหยางสะดุ้ง และอธิบายโดยไม่รู้ตัว: "ฉันขอโทษ ฉันไม่มีเวลาอาบน้ำเมื่อฉันออกไปข้างนอก"
หลิวรุ่ยกำจมูกของเธอ และพูดด้วยความรังเกียจ: "เฉินหยาง คุณอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดแล้วค่อยออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ ดูฝุ่นเต็มไปทั่วตัวคุณ คนไม่รู้เขาจะคิดว่าคุณเป็นแรงงานข้ามชาติเข้ามา”
ให้ตายเถอะ เสื้อผ้าเพิ่งซักเมื่อวาน และไม่มีกลิ่นเหงื่อบนร่างกายของผม กลับมีกลิ่นของน้ำยาซักผ้ามิ้นท์จาง ๆเสียวด้วยซ้ำไป
แล้วยังไง แรงงานข้ามชาติจะไม่มาที่นี่ไม่ได้หรอ?
ขณะที่เฉินหยางกำลังจะพูด เขาก็ถูกซุนจื่อเพื่อนสมัยมัธยมลากออกไป
ตอนที่เขายังเป็นนักเรียนผลการเรียนของเฉินหยางอยู่ในระดับดีเสมอ ตรงกันข้ามผลการเรียนของซุนจื่อนั้นแย่มาก คนสองคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันมาก และมีเกรดที่แตกต่างกันมากเกินไปกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
ซุนจื่อดึงเฉินหยางไปที่อีกมุม เขาถอนหายใจส่ายหัวและพูดว่า "เสี่ยวหยาง ผู้หญิงอย่างหลิวรุยไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถอาจเอื้อมได้
เฉินหยางตกตะลึง มองไปที่ซุนจื่อด้วยความเหงา ดูเหมือนว่าพี่ชายคนนี้จะไม่มีความสุขตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เขายิ้ม ไม่ตอบกลับ และเปลี่ยนเรื่องถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของซุนจื่อ
ทั้งสองไม่ได้เจอกันมาหลายปี และทันทีที้คุยกันพวกเขาก็เริ่มคุยกันไม่รู้จบ ทำให้เฉินหยางเห็นภาพในความทรงจำเก่าในสมัยเรียน
หลังจากที่เหล้าตกถึงท้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในตอนนี้ผู้คนต่างรู้สึกเมาเล็กน้อย และบรรยากาศก็คึกคัก
ในฐานะที่เป็นจุดสนใจของผู้ชมหลิวรุยได้ดื่มด่ำปิ้งย่างกับเพื่อนร่วมชั้นเป็นธรรมชาติ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เธอก็เมาเล็กน้อย
รูปลักษณ์ที่ปิดตา และหน้าพีช ทำให้ผู้ชายที่นั่งจ้องมองมาที่เธอ ช่างงดงามเหลือเกิน
ทุกคนมีความสุขในการรวมตัวครั้งนี้ แต่เนื่องจากต้องไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ทุกคนจึงไม่สามารถสนุกจนเกินไป วังไห่จึงแนะนำให้ทุกคนมารวมตัวกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์หน้า และโทรหาครูประจำชั้น
ไอเดียของวังไห่ได้รับการอนุมัติเป็นเอกฉันท์จากทุกคน
หลังจบเกม เพื่อนร่วมชั้นชายบางคนรีบไปส่งหลิวรุย หลังจาก KTV ออกมา หลิวรุยก็เข้าไปใน Mercedes-Benz G และจากไปโดยไม่หันกลับ
เพื่อนร่วมชั้นเรียนหญิงต่างก็อิจฉาและเกลียดที่ตัวเองไม่มีผิวสวยขนาดนี้
“ ถ้าฉันได้นอนกับผู้หญิงคนนี้แค่ครั้งเดียว ฉันเต็มใจที่จะอายุสั้นไปอีก10ปี” ซุนจื่อกลืนน้ำลายและพูด
เฉินหยางมองไปยังทางที่หลิวรุยกำลังจะจากไป และยิ้มอย่างเย็นชา
ผมหวังว่าวันพรุ่งนี้จะทำให้คุณเซอร์ไพซ์! เฉินซินหัวเราะในใจ
ในขณะนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น และเขามองไปที่จอมือถือ: ภรรยาของคุณ!
เขารีบรับโทรศัพท์ และยังไม่ทันที่จะอ้าปากพู ก็ยินเสียงเยือกเย็นของซูเหมี่ยว: "คุณอยู่ที่ไหน หรือว่าคุณต้องการให้ทุกคนรอคุณคนเดียว คุณจงใจที่จะทำให้ฉันอับอายใช่ไหม"
น้ำเสียงของซูเหมี่ยวเย็นชา คำพูดของเธอเต็มไปด้าวยความผิดหวัง
ซวยแล้ว เฉินหยางตบหน้าผากเขา ผมลืมไปได้ยังไง!
เขารีบบอกลากับซุนจื่อ: แล้วเจอกันอาทิตย์หน้า และรีบหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา และปลดล็อกลา EDonkey เขาเปิดมันสองสามครั้ง อาจเป็นเพราะความรีบบวกกับเครื่องดื่มที่ทำให้เขาปลดล็อกได้ยากขนาดนี้
"ฮ่า ๆ น่าไม่อาย! กล้าขับมอไซค์ไฟฟ้ามางานเลี้ยงรุ่น"
"อย่าหัวเราะเยาะคนอื่น เอ็มม่าเป็นแบรนด์ระดับประเทศ"
"ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ มันเป็นแบรนด์ดังจริงๆ!"
เพื่อนร่วมชั้นหญิงหลายคนหัวเราะเยาะเขาอย่างเปิดเผย
เฉินหยางแม้จะได้ยิน แต่เขาไม่สนใจคำพูดของเพื่อนร่วมชั้นหญิงเหล่านี้ หลังจากปลดล็อกแล้ว เขาก็ขี่ eDonkey ตัวน้อยของเขาออกไป
ที่ทางเข้าของบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ในเมืองซีฉวน ซูเหมี่ยวสวมชุดราตรีสีดำซึ่งทำให้รูปร่างที่สง่างามของเธอเต็มตา
บนคอขาวนวลละเอียดอ่อนดังคอหงส์มีสร้อยคอไพลินแพรวพราว
อัญมณีสีฟ้าอมฟ้าและผิวเนียนละเอียดสะท้อนออกไปราวกับภาพที่สวยที่สุดในโลก
เฉินหยางจ้องมองอย่างว่างเปล่า มันสวยงามมาก งามจนเขาลืมที่จะพูด
ซูเหมี่ยวมองท่าทางงี่เง่าของเฉินหยาง และพูดอย่างเย็นชา: "งานเลี้ยงคืนนี้จะมีผู้อาวุโสมากมายจากครอบครัว ดังนั้นพยายามอย่าพูดหรือทำให้ฉันลำบากใจ"
เฉินหยางกลับมามีสติพยักหน้าเล็กน้อย โดยไม่พูดอะไร หยุดรถมอไซค์ไฟฟ้าที่เพิ่งซื้อมา และเข้าไปในงาน
ยังไม่ทันที่จะนั่งลง แม่ยายของเฉินหยางก็เอ่ยต่อว่า
"แกดมกลิ่นเหล้าบนตัวแกซิ ดูหน้าตายับเยิน สื้อผ้ายับยู่ยี่ของแก แล้วชุดสูทของแกล่ะไปไหน แกจงใจที่จะให้ครอบครัวของเราขายหน้า ให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะ อยากให้ผู้ใหญ่ตระกูลเรามองหน้าใครไม่ติดอย่างงั้นใช่ไหม?”
ชุดราตรีสีขาวของถังจิงและชุดราตรีสีดำของซูเหมี่ยวสะท้อนกันและกัน เมื่อทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันผู้คนต่างก็คิดว่าเป็นพี่น้องกันซะอีก
เฉินหยางเกาหัวและยิ้มแห้งๆอย่างเงียบๆ
ถังจิงมองไปที่ท่าทางหยิ่งผยองของเฉินหยาง ในใจก็โมโหขึ้น เธอแทบจะโยนกระเป๋าใส่หน้าเฉินหยาง
ซูเหี่ยวเมื่อเห็นท่าทางโกรธของแม่ ก็รีบพูดให้แม่สงบลง: "แม่อย่าโกรธเลยค่ะ"
"นี่ลูกรัก ฟังแม่นะ พรุ่งนี้ลูกจะต้องไปอำเภอ ไปหย่ากับไอ้เศษขยะนี้ ถ้าลูกไม่คิดถึงตัวเอง ก็คิดถึงหัวอกแม่บ้างเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้อีกต่อไปแม่คงต้องอกแตกตายซักวัน .”
ซูเหมี่ยวไม่ได้พูดอะไร แต่มองด้านหลังเฉินหยางผ่านกระจก ความผิดหวังในดวงตาของเธอไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้ผิดหวังขนาดนี้
ทั้งสามคนก็กลับถึงคฤหาสน์บ้านซู โดยไม่มีคำพูดใด ๆ
ในเวลานี้ ทางเข้าของคฤหาสน์เต็มไปด้วยรถยนต์ ทุกคันเป็นรถหรู
ในเวลานี้แขกก็ได้มาถึงคฤหาสน์ และสนามหญ้าของคฤหาสน์เต็มไปด้วยผู้คน
พวกเขาถือแก้วไวน์ไว้ในมือและคุยกัน
เมื่อเห็นซูเหมี่ยวเดินใกล้เข้ามา หลายคนก็ทักทายเธอ
ในโอกาสนี้ เฉินหยางเป็นได้แค่แสงที่สว่างได้เพียงเล็กน้อยเขา อยู่ข้างหลังซูเหมี่ยวและทุกคนก็เพิกเฉยต่อเขาโดยไม่รู้ตัว
เฉินหยางลูบท้อง งานเลลี้ยงรุ่นเมื่อกี้เขาเอาแต่ดื่ม ไม่มีอาหารตกถึงท้อง เลยจะหาของกินให้อิ่มท้องก่อน
เฉินหยางแค่อยากจะหาอะไรกิน แต่มีคนเดินมาหาเขา
"โอ้ เฉินหยางสามีของเหมี่ยวเหมี่ยวคนนี้ใช่ไหม" ซูไห่เดินไปหาเฉินหยาง มองไปที่เขาและอุทานทันที: "ว้าว ฉันเคยเห็นชุดนี้ที่ข้างถนน มันป็นชุดของขอทาน แกไปฉกมาจากขอทานหรอ?”
ซูไห่จงใจที่จะทำให้เฉินหยางอับอายเขาจึงพูดเสียงดังมากและดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้าง อยู่พักหนึ่งเฉินหยางก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้ชมโดยปริยาย
เฉินหยางกุมหน้า พลางคิดว่าทำไมทุกครั้งที่เจอซูไห่ เขาต้องทำให้ผมอับอายต่อหน้าผู้คนแบบนี้ด้วยนะ นี่ผมมันขัดตาคนอื่นเขาขนาดนั้นเลยหรอ?
เมื่อเห็นเฉินหยางเงียบไป ซูไห่ยังจงใจพูดอีกว่า: "ดูสิ ฉันพูดแทงใจดำเข้าล่ะสิ ถ้าแกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้า บอกฉันได้นะ ที่บ้านฉันมีเสื้อผ้าอีกเยอะ แล้วฉันจะบริจาคให้"
"ไร้สาระ! ชุดนี้เป็นชุดที่ภรรยาฉันซื้อให้" เฉินหยางกล่าวว่า: "อีกอย่างถ้าฉันไม่มีเสื้อผ้าใส่ ภรรยาของฉันจะซื้อให้ฉันเอง"
“ ฮ่าฮ่า!”
คนรอบข้างหัวเราะและนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนกชเกาะผู้หญิงกิน พูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ มันวิเศษมาก!
“ เฉินหยาง ... มาที่นี่เร็ว ๆ !”
ซูเหมี่ยวรู้สึกร้อนที่ใบหน้าของเธอ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่จ้องมองมาของทุกคน เธอรู้สึกขายหน้าเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะกฎของครอบครัวที่สมาชิกทุกคนต้องมางานประชุมประจำปีของตระกูลซู เธอจะไม่ให้เฉินหยางได้มางานเลย มันก็น่าอายเกินไปที่จะปล่อยให้เขามาอยู่ตรงนี้
ในเวลานี้ซูไห่ลุกขึ้นยืนและกล่าวคำหนึ่ง ทำให้ผู้ชมได้ฮือฮาขึ้นอีกครั้ง!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวสวยคนนี้ จะดึงดูดแมวมองของ Magic Entertainment ได้ขนาดนี้
ถึงกระนั้น ทุกคนก็อดอิจฉาไม่ได้
คุณรู้ไหมว่า นั่นคือ Magic Entertainment บริษัทบันเทิงอันดับต้น ๆ ของเมืองซีฉวน หากหลิวรุ่ยเซ็นสัญญาจริงๆ ในนามของ Magic Entertainment Group เธอจะต้องดังเป็นพลุแตกแน่ๆ
เฉินหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างเริ่มสนใจ คิดไท่ถึงว่าหลิวรุ่ยกำลังจะเซ็นสัญญากับ Magic Entertainment และเธอจะเป็นของ Magic Entertainmenหลังจากวันนี้ และจากนั้นเธอก็จะเป็นคนของตนเอง
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ มุมปากของเฉินหยางก็หันขึ้นเล็กน้อย และเขาก็เดินไปต้องการสนทนากับหลิวรุ่ย
เฉินหยางนั่งลง ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด หลิวรุ่ยก็ขมวดคิ้วและขยับหนีอย่าเงียบ เธอมองไปที่เฉินหยางด้วยความรังเกียจ: "คุณมีกลิ่นเหงื่อ อยู่ห่างจากฉันหน่อยได้ไหมคะ "
เฉินหยางสะดุ้ง และอธิบายโดยไม่รู้ตัว: "ฉันขอโทษ ฉันไม่มีเวลาอาบน้ำเมื่อฉันออกไปข้างนอก"
หลิวรุ่ยกำจมูกของเธอ และพูดด้วยความรังเกียจ: "เฉินหยาง คุณอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดแล้วค่อยออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ ดูฝุ่นเต็มไปทั่วตัวคุณ คนไม่รู้เขาจะคิดว่าคุณเป็นแรงงานข้ามชาติเข้ามา”
ให้ตายเถอะ เสื้อผ้าเพิ่งซักเมื่อวาน และไม่มีกลิ่นเหงื่อบนร่างกายของผม กลับมีกลิ่นของน้ำยาซักผ้ามิ้นท์จาง ๆเสียวด้วยซ้ำไป
แล้วยังไง แรงงานข้ามชาติจะไม่มาที่นี่ไม่ได้หรอ?
ขณะที่เฉินหยางกำลังจะพูด เขาก็ถูกซุนจื่อเพื่อนสมัยมัธยมลากออกไป
ตอนที่เขายังเป็นนักเรียนผลการเรียนของเฉินหยางอยู่ในระดับดีเสมอ ตรงกันข้ามผลการเรียนของซุนจื่อนั้นแย่มาก คนสองคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันมาก และมีเกรดที่แตกต่างกันมากเกินไปกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
ซุนจื่อดึงเฉินหยางไปที่อีกมุม เขาถอนหายใจส่ายหัวและพูดว่า "เสี่ยวหยาง ผู้หญิงอย่างหลิวรุยไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถอาจเอื้อมได้
เฉินหยางตกตะลึง มองไปที่ซุนจื่อด้วยความเหงา ดูเหมือนว่าพี่ชายคนนี้จะไม่มีความสุขตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เขายิ้ม ไม่ตอบกลับ และเปลี่ยนเรื่องถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของซุนจื่อ
ทั้งสองไม่ได้เจอกันมาหลายปี และทันทีที้คุยกันพวกเขาก็เริ่มคุยกันไม่รู้จบ ทำให้เฉินหยางเห็นภาพในความทรงจำเก่าในสมัยเรียน
หลังจากที่เหล้าตกถึงท้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในตอนนี้ผู้คนต่างรู้สึกเมาเล็กน้อย และบรรยากาศก็คึกคัก
ในฐานะที่เป็นจุดสนใจของผู้ชมหลิวรุยได้ดื่มด่ำปิ้งย่างกับเพื่อนร่วมชั้นเป็นธรรมชาติ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เธอก็เมาเล็กน้อย
รูปลักษณ์ที่ปิดตา และหน้าพีช ทำให้ผู้ชายที่นั่งจ้องมองมาที่เธอ ช่างงดงามเหลือเกิน
ทุกคนมีความสุขในการรวมตัวครั้งนี้ แต่เนื่องจากต้องไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ทุกคนจึงไม่สามารถสนุกจนเกินไป วังไห่จึงแนะนำให้ทุกคนมารวมตัวกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์หน้า และโทรหาครูประจำชั้น
ไอเดียของวังไห่ได้รับการอนุมัติเป็นเอกฉันท์จากทุกคน
หลังจบเกม เพื่อนร่วมชั้นชายบางคนรีบไปส่งหลิวรุย หลังจาก KTV ออกมา หลิวรุยก็เข้าไปใน Mercedes-Benz G และจากไปโดยไม่หันกลับ
เพื่อนร่วมชั้นเรียนหญิงต่างก็อิจฉาและเกลียดที่ตัวเองไม่มีผิวสวยขนาดนี้
“ ถ้าฉันได้นอนกับผู้หญิงคนนี้แค่ครั้งเดียว ฉันเต็มใจที่จะอายุสั้นไปอีก10ปี” ซุนจื่อกลืนน้ำลายและพูด
เฉินหยางมองไปยังทางที่หลิวรุยกำลังจะจากไป และยิ้มอย่างเย็นชา
ผมหวังว่าวันพรุ่งนี้จะทำให้คุณเซอร์ไพซ์! เฉินซินหัวเราะในใจ
ในขณะนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น และเขามองไปที่จอมือถือ: ภรรยาของคุณ!
เขารีบรับโทรศัพท์ และยังไม่ทันที่จะอ้าปากพู ก็ยินเสียงเยือกเย็นของซูเหมี่ยว: "คุณอยู่ที่ไหน หรือว่าคุณต้องการให้ทุกคนรอคุณคนเดียว คุณจงใจที่จะทำให้ฉันอับอายใช่ไหม"
น้ำเสียงของซูเหมี่ยวเย็นชา คำพูดของเธอเต็มไปด้าวยความผิดหวัง
ซวยแล้ว เฉินหยางตบหน้าผากเขา ผมลืมไปได้ยังไง!
เขารีบบอกลากับซุนจื่อ: แล้วเจอกันอาทิตย์หน้า และรีบหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา และปลดล็อกลา EDonkey เขาเปิดมันสองสามครั้ง อาจเป็นเพราะความรีบบวกกับเครื่องดื่มที่ทำให้เขาปลดล็อกได้ยากขนาดนี้
"ฮ่า ๆ น่าไม่อาย! กล้าขับมอไซค์ไฟฟ้ามางานเลี้ยงรุ่น"
"อย่าหัวเราะเยาะคนอื่น เอ็มม่าเป็นแบรนด์ระดับประเทศ"
"ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ มันเป็นแบรนด์ดังจริงๆ!"
เพื่อนร่วมชั้นหญิงหลายคนหัวเราะเยาะเขาอย่างเปิดเผย
เฉินหยางแม้จะได้ยิน แต่เขาไม่สนใจคำพูดของเพื่อนร่วมชั้นหญิงเหล่านี้ หลังจากปลดล็อกแล้ว เขาก็ขี่ eDonkey ตัวน้อยของเขาออกไป
ที่ทางเข้าของบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ในเมืองซีฉวน ซูเหมี่ยวสวมชุดราตรีสีดำซึ่งทำให้รูปร่างที่สง่างามของเธอเต็มตา
บนคอขาวนวลละเอียดอ่อนดังคอหงส์มีสร้อยคอไพลินแพรวพราว
อัญมณีสีฟ้าอมฟ้าและผิวเนียนละเอียดสะท้อนออกไปราวกับภาพที่สวยที่สุดในโลก
เฉินหยางจ้องมองอย่างว่างเปล่า มันสวยงามมาก งามจนเขาลืมที่จะพูด
ซูเหมี่ยวมองท่าทางงี่เง่าของเฉินหยาง และพูดอย่างเย็นชา: "งานเลี้ยงคืนนี้จะมีผู้อาวุโสมากมายจากครอบครัว ดังนั้นพยายามอย่าพูดหรือทำให้ฉันลำบากใจ"
เฉินหยางกลับมามีสติพยักหน้าเล็กน้อย โดยไม่พูดอะไร หยุดรถมอไซค์ไฟฟ้าที่เพิ่งซื้อมา และเข้าไปในงาน
ยังไม่ทันที่จะนั่งลง แม่ยายของเฉินหยางก็เอ่ยต่อว่า
"แกดมกลิ่นเหล้าบนตัวแกซิ ดูหน้าตายับเยิน สื้อผ้ายับยู่ยี่ของแก แล้วชุดสูทของแกล่ะไปไหน แกจงใจที่จะให้ครอบครัวของเราขายหน้า ให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะ อยากให้ผู้ใหญ่ตระกูลเรามองหน้าใครไม่ติดอย่างงั้นใช่ไหม?”
ชุดราตรีสีขาวของถังจิงและชุดราตรีสีดำของซูเหมี่ยวสะท้อนกันและกัน เมื่อทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันผู้คนต่างก็คิดว่าเป็นพี่น้องกันซะอีก
เฉินหยางเกาหัวและยิ้มแห้งๆอย่างเงียบๆ
ถังจิงมองไปที่ท่าทางหยิ่งผยองของเฉินหยาง ในใจก็โมโหขึ้น เธอแทบจะโยนกระเป๋าใส่หน้าเฉินหยาง
ซูเหี่ยวเมื่อเห็นท่าทางโกรธของแม่ ก็รีบพูดให้แม่สงบลง: "แม่อย่าโกรธเลยค่ะ"
"นี่ลูกรัก ฟังแม่นะ พรุ่งนี้ลูกจะต้องไปอำเภอ ไปหย่ากับไอ้เศษขยะนี้ ถ้าลูกไม่คิดถึงตัวเอง ก็คิดถึงหัวอกแม่บ้างเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้อีกต่อไปแม่คงต้องอกแตกตายซักวัน .”
ซูเหมี่ยวไม่ได้พูดอะไร แต่มองด้านหลังเฉินหยางผ่านกระจก ความผิดหวังในดวงตาของเธอไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้ผิดหวังขนาดนี้
ทั้งสามคนก็กลับถึงคฤหาสน์บ้านซู โดยไม่มีคำพูดใด ๆ
ในเวลานี้ ทางเข้าของคฤหาสน์เต็มไปด้วยรถยนต์ ทุกคันเป็นรถหรู
ในเวลานี้แขกก็ได้มาถึงคฤหาสน์ และสนามหญ้าของคฤหาสน์เต็มไปด้วยผู้คน
พวกเขาถือแก้วไวน์ไว้ในมือและคุยกัน
เมื่อเห็นซูเหมี่ยวเดินใกล้เข้ามา หลายคนก็ทักทายเธอ
ในโอกาสนี้ เฉินหยางเป็นได้แค่แสงที่สว่างได้เพียงเล็กน้อยเขา อยู่ข้างหลังซูเหมี่ยวและทุกคนก็เพิกเฉยต่อเขาโดยไม่รู้ตัว
เฉินหยางลูบท้อง งานเลลี้ยงรุ่นเมื่อกี้เขาเอาแต่ดื่ม ไม่มีอาหารตกถึงท้อง เลยจะหาของกินให้อิ่มท้องก่อน
เฉินหยางแค่อยากจะหาอะไรกิน แต่มีคนเดินมาหาเขา
"โอ้ เฉินหยางสามีของเหมี่ยวเหมี่ยวคนนี้ใช่ไหม" ซูไห่เดินไปหาเฉินหยาง มองไปที่เขาและอุทานทันที: "ว้าว ฉันเคยเห็นชุดนี้ที่ข้างถนน มันป็นชุดของขอทาน แกไปฉกมาจากขอทานหรอ?”
ซูไห่จงใจที่จะทำให้เฉินหยางอับอายเขาจึงพูดเสียงดังมากและดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้าง อยู่พักหนึ่งเฉินหยางก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้ชมโดยปริยาย
เฉินหยางกุมหน้า พลางคิดว่าทำไมทุกครั้งที่เจอซูไห่ เขาต้องทำให้ผมอับอายต่อหน้าผู้คนแบบนี้ด้วยนะ นี่ผมมันขัดตาคนอื่นเขาขนาดนั้นเลยหรอ?
เมื่อเห็นเฉินหยางเงียบไป ซูไห่ยังจงใจพูดอีกว่า: "ดูสิ ฉันพูดแทงใจดำเข้าล่ะสิ ถ้าแกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้า บอกฉันได้นะ ที่บ้านฉันมีเสื้อผ้าอีกเยอะ แล้วฉันจะบริจาคให้"
"ไร้สาระ! ชุดนี้เป็นชุดที่ภรรยาฉันซื้อให้" เฉินหยางกล่าวว่า: "อีกอย่างถ้าฉันไม่มีเสื้อผ้าใส่ ภรรยาของฉันจะซื้อให้ฉันเอง"
“ ฮ่าฮ่า!”
คนรอบข้างหัวเราะและนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนกชเกาะผู้หญิงกิน พูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ มันวิเศษมาก!
“ เฉินหยาง ... มาที่นี่เร็ว ๆ !”
ซูเหมี่ยวรู้สึกร้อนที่ใบหน้าของเธอ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่จ้องมองมาของทุกคน เธอรู้สึกขายหน้าเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะกฎของครอบครัวที่สมาชิกทุกคนต้องมางานประชุมประจำปีของตระกูลซู เธอจะไม่ให้เฉินหยางได้มางานเลย มันก็น่าอายเกินไปที่จะปล่อยให้เขามาอยู่ตรงนี้
ในเวลานี้ซูไห่ลุกขึ้นยืนและกล่าวคำหนึ่ง ทำให้ผู้ชมได้ฮือฮาขึ้นอีกครั้ง!
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved