ตอนที่ 414 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

by ปลามังกร 08:01,Mar 29,2021
ผมยิ้มออกมาโรงแรมแห่งนี้มีอุปกรณ์ครบครันผมเดินออกไปจากห้องและหยิบนวมมาวางไว้ข้างๆจากนั้นก็ถ่ายรูปที่แลทรงพลังและส่งไปให้ไป๋เหว่ยดู

ผมส่งออกไปอีกว่า"คุณอย่าคิดจะมาขู่ทำร้ายผมนะลูกผู้ชายเขาไม่ทำร้ายผู้หญิงถึงแม้ว่าโลกนี้จะแหลกสลายก็ไม่มีวัน"

ไป๋เหว่ยส่งสติ๊กเกอร์กลับมาและก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเลยคิดไม่ถึงว่าหลังจากจะส่งภาพนั้นไปจะทำให้เป็นการเปรียบเทียบของพวกเราสิ่งนั้นมันทำให้ดูน่าเบื่อ

สุดท้ายผมก็ไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไรเธออยากจะข่มขู่ฉันทั้งๆที่ตัวเธอเองไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยแม้แต่น้อย

ไป๋เหว่ยภูมิใจที่เธอชนะผมได้อยู่สักพักพวกเราก็บอกฝันดีต่อกันเพื่อจะเตรียมตัวไปนอนตอนนี้มันก็จะ4ทุ่มแล้วผมกำลังสงสัยอยู่ว่าถ้าไป๋เหว่ยตื่นขึ้มพร้อมกับรอยคล้ำรอบตาที่เหมือนหมีแพนด้าเธอจะโกรธผมไหม

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นพร้อมกับถุงมือชกมวยที่ยืมมาจากยิมเมื่อคืน

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆอากาศยามเช้าก็สดชื่น

จากนั้นก็เดินไปอาบน้ำจากนั้นก็เดินออกไปเคาะห้องของฉีหยู่เหมิงจู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าไม่มีเรื่องอะไรเร่งด่วนจึงไม่จำเป็นต้องรีบปลุกเธอปล่อยให้เธอได้นอนพักอีกสักหน่อย

คิดไม่ถึงว่าในตอนที่ผมหันหลังกลับประตูห้องของฉีหยู่เหมิงก็เปิดออกเธอเดินออกมาด้วยชุดนอนหาวแล้วพูดออกมาว่า"ฟางหยางนายตื่นเช้าขนาดนี้เลยหรอ?"

ผมตกตะลึงไปชั่วขณะแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายขณะมองทิวทัศน์ที่สวยงามตรงหน้า

ฉีหยู่เหมิงสมควรได้รับการยกย่องให้เป็นตำรวจหญิงที่งดงามที่สุดจากเมืองเยี่ยนจิงไม่ว่าจะรูปร่างหรือหน้าตาก็ไร้ที่ติแต่น่าเสียดายที่จะเห็นเธอใส่ชุดเครื่องแบบในวันธรรมดาเท่านั้นแต่ตอนนี้เธอกำลังสวมชุดนอนสีขาวไม่ได้ติดกระดุมคอส่วนโค้งเรียวและความเย้ายวนของชุดนอนทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายไปหลายอึก

และมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ได้กลิ่นหอมจางๆจากตัวเธอ

ฉีหยู่เหมิงงงงวยอยู่สักพักจากนั้นแก้มของเธอก็มีสีแดงเกิดขึ้นสบถออกมาว่า"คนเลว!"

ตอนนั้นผมรีบวิ่งกลับไปที่ห้องหลังจากนั้นก็ปิดประตูห้องดังปัง!

ผมไอแห้งๆออกมาจากนั้นก็หยุดความคิดของตัวเองและแอบมาสำนึกผิดอยู่ที่ห้องคนเดียว

หลังจากปิดประตูผมก็คิดอีกว่าผมนี่โชคดีที่ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายกับฉีหยู่เหมิงไม่อย่างนั้นไป๋เหว่ยต้องฆ่าผมแน่

ผมเดินลงมาทานอาหารเช้าจากนั้นก็ไม่มีอะไรทำจึงออกไปเดินเล่นที่ถนนShenghai

ต้องบอกเลยว่าShenghaiเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญที่สุดของจีนไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการพัฒนาการปกครองหรือประชากรที่นี่ดีกว่าบ้านผมที่กุ้ยหลินเยอะเลยและเมื่อเอาไปเทียบกับเยี่ยนจิงเยี่ยนจิงเองก็ดูเหมือนว่าจะด้อยกว่าShenghaiอยู่มาก

ถึงแม้ว่าในตอนเช้าผมจะรู้สึกอึดอัดแต่ดูเหมือนว่าฉีหยู่เหมิงไม่ได้คิดอะไรจึงไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยมีเพียงคำพูดลมๆแล้งๆของจ่าวซูเหิงที่พูดออกมาว่า"เมื่อเช้านี้ไม่รู้ว่าใครมาวิ่งส่งเสียงดังที่ตรงทางเดินฉันกำลังฝันดีเลยแม่งเอ้ย!อย่าให้รู้นะว่าใครเดี๋ยวจับได้แล้วเจอดีแน่"

ผมจึงถามออกไปด้วยความแปลกใจว่า"ฝันถึงอะไรถึงได้โมโหขนาดนั้น?"

จ่าวซูเหิงแอบยิ้มและตอบออกมาว่า"แฟนคนเก่าของฉัน"

ผมย่นหน้าผากจนเป็นริ้วๆ

หลังจากนั้นสองสามวันก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแต่สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นในวันที่3นั่นเป็นวันที่ผมกลับบ้านไป๋เหว่ยบอกผมว่ามีเพื่อนเก่าของผมคนหนึ่งถูกจับข้อหาขายของผิดกฎหมาย

ผมตกใจเพื่อนเก่า?ค้าของผิดกฎหมาย?

ในสมองของผมก็มีชื่อของเพื่อนผุดขึ้นมาเต็มไปหมดเสี่ยวจือ?ฉินหยิน?ไม่มีทางเป็นหลัวอีเจิ้งหรอกมั้ง

ผมถามไปว่าใครแต่ฉีหยู่เหมิงบอกผมมาว่าหลังจากที่คนคนนั้นถูกจับตัวไปนอกจากผมจะไปที่นั่นด้วยตัวเองไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางบอกชื่อให้ผมรู้ใจของผมยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้น

สุดท้ายผมก็ตามเธอไปที่โรงพักเห็นว่าคนที่โดนจับมาคือหวางลี่เฉิงผมตกใจมากผมบอกไปว่าเมื่อสองวันที่แล้วนายบอกฉันว่าทำธุรกิจคือทำแบบนี้หรอ?

ใบหน้าของหวางลี่เฉิงซีดเซียวเหมือนคนที่ใกล้จะตายยิ้มออกมาพูดว่า"ฟางหยางนายมาแล้วนายก็ช่วยฉันหน่อยเถอะนะถึงแม้ว่าปีนั้นความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ค่อยจะดีแต่อย่างน้อยพวกเราก็เคยทานข้าวร่สมกันมานายเองก็ต้องมีความรู้สึกบ้างแหละ!"

ผมยิ้มพร้อมพูดออกไปว่า"ถึงตอนนี้แล้วนายยังจะมาพูดแบบนี้อยู่อีกหรอดีแล้วที่ฉันไม่ได้รับปากนายไปไม่อย่างนั้นฉันคงมานั่งอยู่ข้างนายในตอนนี้"

หวางลี่เฉิงตอบมาว่า"ฟางหยางหรือว่านายจะไม่มีความทรงจำสมัยเรียนเหลืออยู่แล้ว?"

ผมไม่ทันได้พูดอะไรออกไปฉีหยู่เหมิงก็พูดแทรกออกมาว่า"ถ้าฟางหยางไม่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนนายคงโดนจับไปตั้งแต่สามวันที่แล้ว"

หวางลี่เฉิงพยายามจะอ้าปากออกมาแต่ไม่ได้พูโอะไรฉีหยู่เหมิงหันมาคุยกับผมว่า"ฟางหยางทีหลังเรื่องแบบนี้นายจะต้องมาแจ้งตำรวจก่อนไม่อย่างนั้นถ้าเกิดเรื่องขึ้นมานายเองก็ต้องรับผิดชอบเข้าใจไหม?โชคดีที่เจ้าหน้าที่ของShenghaiชุดนี้รอบคอบไม่อย่านั้นคงจับตัวเขามาไม่ได้"

ผมเดินออกมาด้านนอกกับฉีหยู่เหมิงผมถามออกไปว่า"เขาถูกจับข้อหาอะไร?"

ใบหน้าของฉีหยู่เหมิงแดงขึ้นเล็กน้อย"เขาเอาของพวกนั้นไปซ่อนไว้ใต้ดินและตอนที่ไปตรวจมันมีรอบเท้าอยู่รอบๆ"

ผมกระแอมออกมาสองครั้งจากนั้นก็นำมือไปลูบหัว"อ่าๆจับได้ก็ดีแล้วหละ"

ผมโล่งใจมากคนเราก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวอีกอย่างเขาไม่ใช่เพื่อนสนิทผมและก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีอะไรต่อกันและทำไมผมต้องทำตัวเองให้ลำบากอีกอย่างขนาดพ่อของหวางลี่เฉิงเองยังช่วยเขาไม่ได้แล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างผม

และสองสามวันถัดมาผมก็ไปเที่ยวที่ShenghaiShenghaiไม่มีที่ที่ดึงดูดเป็นพิเศษเหวินซินน่าจะไปถามข้อมูลเกี่ยวกับผมจากฉีหยู่เหมิงและจ่าวซูเหิงเธอจึงหาเวลาว่างมาพาผมเที่ยวถึงแม้ผมจะรู้สึกผิดในใจอยู่บ้านแต่การที่การเจรจาครั้งนี้เสร็จสิ้นไปด้วยดีก็เพราะความช่วยเหลือจากเธอจึงยากที่จะปฎิเสธเธอออกไป

ดังนั้นในตอนที่ผมไปเที่ยวกับเธอก็กลัวว่าไป๋เหว่ยจะจับได้แม้ว่าความสวยงามรอบตัวผมจะดูเย้ายวนแต่ผมก็ยังคงอยู่ในอาการวิตกกังวลยิ่งไปกว่านั้นผมเองก็ต้องทนยิ้มอยู่ตลอดเวลาถ้าหากผมไปทำให้เหวินซินรู้สึกหมดสนุกผมคงต้องลงโทษตัวเองว่าผมเป็นคนทำให้เธอต้องปวดใจอีกครั้ง

และไป๋เหว่ยเองก้ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายก่อนหน้าที่เหวินซินจะชวนผมออกมาเที่ยวพวกเราก็ไปดื่มกาแฟด้วยกันบ้างเป็นบางเวลาแต่หลังจากที่เหวินซินชวนผมออกมาเที่ยวก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับไป๋เหว่ยเธอเริ่มที่จะนัดผมออกมาเที่ยวกับเธอเป้นครั้งคราว

ผมสงสัยถ้าหากไม่มีวันหยุดนี้และผมกลับไปที่เยี่ยนจิงมันจะดีกว่านี้ไหม?จะได้ไม่ต้องทำเป็นนกสองหัววิ่งไปวิ่งมาแบบนี้

ไม่นานวันหยุดหนึ่งอาทิตย์ของผมก็ผ่านไปผมมองไปที่นาฬิกาและถอนหายใจออกมาผมคิดว่าผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติที่เยี่ยนจิงคิดไม่ถึงว่าถงอันจือจะบอกกับผมว่าธุรกิจของพวกเรากับตูหมิงเฉียงที่ประเทศไทยมีปัญหาเล็กน้อยต้องการให้ผมกลับไปจัดการสักหน่อยสุดท้ายผมกับจ่าวซูเหิงก็ต้องเตรียมตัวบินไปที่ประเทศไทย

Download APP, continue reading

Chapters

482