ตอนที่ 430 เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ

by ปลามังกร 08:01,Mar 31,2021
จ่าวซูเหิงสำรวจไปที่รอบๆถ้ำส่วนเด็กผู้หญิงคนนั้นก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงที่พวกเราทำไว้อย่างมีความสุขเนื่องจากมันทำมาจากหญ้าแห้งจึงมีความนุ่มนวลสูงเด็กหญิงคนนั้นจึงร้องออกมาด้วยความดีอกดีใจ

หูเจี้ยนกับหานเหม่ยฉีเองก็รู้สึกตกใจนิดหน่อย"พวกคุณหาสถานที่แบบนี้เจอไม่เลวจริงๆ"

เหมือนกับหานเหม่ยฉีพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่ก็เงียบไปไป๋เหว่ยจึงพูดออกมาว่า

"ฟางหยางนายกับจ่าวซูเหิงและก็หูเจี้ยนออกไปข้างนอกก่อนฉันขอคุยอะไรกับหานเหม่ยฉีหน่อย"

"คุยอะไรกัน?ความลับขนาดนั้นเลยหรอ?"

ผมถามออกไปด้วยความสงสัย

ไป๋เหว่ยเบิกตากว้าง"บอกให้ออกก็ออกไปก่อน"

ผมก็ทำตามที่เธอบอกอย่างง่ายดายออกไปก็ดีจะได้ไปจัดการกับหมูป่าที่ซ่อนเอาไว้ไม่อย่างนั้นถ้าเอาไว้นานกว่านี้อาจจะมีปัญหาก็ได้

ผมพาจ่าวซูเหิงและหูเจี้ยนไปยังที่ที่ผมซ่อนหมูป่าเอาไว้เมื่อหยิบกิ่งไม้ใบหญ้าที่ใช้อำพรางบนตัวหมูป่าออกก็เห็นถึงความสมบูรณ์ในเนื้อหนังของมัน

"เชี่ย!ฟางหยางนายนี่มันจะเก่งเกินไปแล้ว!นอกจากปลาแล้วนายยังไปล่าเจ้านี่มาได้อีกสุดยอดจริงๆ!"

จ่าวซูเหิงตกใจขึ้นมาอีกครั้งจากนั้นก็ตรงไปด้านหน้าจากนั้นก็ยกหมูป่าขึ้นแล้วมองไปด้วยความสนใจ

หูเจี้ยนเองก็กลืนน้ำลายจากนั้นถามออกมาว่า"ฟาง...ฟางหยางเจ้านี้ผมกับหานเหม่ยฉีสามารถทานด้วยได้ไหม?"

"แน่นอนแต่จะกินทุกวันไม่ได้พวกเรายังต้องใช้ชีวิตที่เกาะร้างแห่งนี้อีกนานนายจึงต้องแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของตัวเองไม่อย่างนั้นพวกเราจะเลี้ยงพวกนายเอาไว้ทำไม?"

ผมพูดออกไปตามเหตุผลทุกคนก็เข้าใจในความหมายของมันแต่ที่ผมใช้โอกาสในตอนนี้พูดออกมาก็เพราะไม่อยากให้ไป๋เหว่ยและเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ยินแล้วเก็บเอาไปคิด

ใบหน้าของหูเจี้ยนดูไม่สู้ดีไม่นานเขาก็กลับมาเป็นปกติ"ได้ฟางหยางอย่างไงซะคุณก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตผมไว้หลังจากนี้ผมจะต้องตอบแทนบุญคุณของคุณ"

ผมพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรมองไปที่หมูป่าที่อยู่ด้านหน้าเหมือนว่าจะมีปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง

ตอนแรกผมคิดว่าหนังของหมูป่าตัวนี้มันหนาเอาจะเอาเนื้อด้านในของมันออกมากินส่วนหนัวของมันจะเอามาใช่เพื่ออบอุ่นร่างกาย

แต่ตอนนี้จับมันมาได้แล้วผมไม่สามารถลอกหนังมันออกมาได้

ผมจึงถามออกไปว่า"นายสองคนใครลอกหนังเป็นบ้าง?"

จ่าวซูเหิงรีบส่ายหน้า"นายก็รู้ฉันไม่เคยมาทำอะไรแบบนี้แล้วจะทำเป็นได้อย่างไร?"

หูเจี้ยนยิ้มออกมา"เมื่อกี้ผมเพิ่งจะบอกว่าจะทำงานรับใช้พวกคุณตอนนี้ก็จะได้แสดงความสามารถแล้วถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้มีความชำนาญอะไรแต่ก่อนที่จะเข้ามาทำงานเป็นรปภ.ในเมืองผมก็เคยทำเรื่องพวกนี้มาบ้าง"

พูดเสร็จหูเจี้ยนก็เริ่มลงมือพวกเราที่ยืนดูอยู่ล้วนไม่ชอบเห็นฉากแบบนี้แต่หูเจี้ยนลงมืออย่างไม่หยุดหย่อนหนังหมูป่าถูกลอกออกมาสองสามส่วนถึงแม้มันจะยังเปื้อนเลือดอยู่แต่พอเอาไปล้างมันก็ดูดีขึ้นเยอะเลย

แต่ปัญหาสุดท้ายก็คือเราจะทำอย่างไรถึงเอาหนังพกวนี้มาห่มได้

เนื่องจากการล่าสัตว์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรแต่ถ้าพูดถึงการทำเครื่องนุ่งห่มแล้วมันต้องใช่ทักษะอื่นเข้ามาช่วยด้วย

ถ้าหากผมจำไม่ผิดขั้นตอนการประดิษฐ์ขนสัตว์นั้นไม่ง่ายเลยเพราะเมื่อก่อนผมเคยเห็นมันผ่านๆตอนอ่านหนังสือ

และขั้นตอนการทำนั้นมันมีหลายขั้นตอนมากจริงเช่นต้องเอาหนังของมันไปต้มตากแห้งฟองน้ำยาและอีกเยอะแยะมากมายผมถามหูเจี้ยนไปว่าเขาทำเรื่องแบบนี้เป็นไหมเขาก็ตอบกลับมาว่าเขาทำไม่เป็น

ดังนั้นผมจึงคิดว่าถามคนอื่นต่อไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายแต่สำหรับผมแล้วแค่เอามันมาใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่นก็พอแล้วเรื่องอื่นๆนั้นไม่สำคัญผมจึงตัดสินใจว่าคืนนี้ผมจะเอาหนังของหมูป่าตัวนี้ไปทำที่กันลม

เราล้างเลือดที่ตัวของมันก่อนจากนั้นเราก็ใช้มีดปลอกผลไม้ที่เรามีค่อยๆแล่มันออกมาถึงแม้ว่ามีดมันจะดูสั้นไปหน่อยแต่เนื้อของมันนุ่มจึงทำให้แล่ได้ง่ายตรงส่วนกระดูกของมันจัดการได้ง่ายกว่าเพียงแค่ให้คนใดคนหนึ่งในพวกเราเอาไปทุบกับก้อนหิน

ผมนำส่วนเนื้อหมูไปล้างอย่างสะอาดตอนแรกมันเป็นหมูทั้งตัวแต่พอพวกเราเอามันไปจัดการที่ชาดหาดตอนกลับมาชิ้นส่วนต่างๆของหมูป่าก็ได้แยกออกจากันอย่างสมบูรณ์

ส่วนเรื่องหม้อที่จะเอามาทำเป็นอุปกรณ์ประกอบอาหารนั้นง่ายมากก่อนหน้านี้เราไปที่ที่จ่าวซูเหิงอาศัยอยู่และไปพบหม้อของชายที่เหลือแต่โครงกระดูกตอนนั้นเขายังสามารถทำได้และทำไมเราจะเอามันมาใช้ไม่ได้

พวกเราสร้างโคร่งร่างในการจุดไฟง่ายๆจากนั้นก็นำหม้อวางลงไป

และในตอนที่พวกเราเดินกลับไปหานเหม่ยฉีที่เดิมเธอใส่เสื้อผ้าที่มอมแมมก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเสื้อผ้าชุดนั้นผมคุ้นเคยกับมันมากมันเป็นชุดที่ผมหาเพื่อให้ไป๋เหว่ยเอาไว้เปลี่ยน

ส่วนเสื้อผ้าเดิมของเธอถูกแขวนไว้บนผนังผมคิดว่าผู้หญิงสองคนนี้น่าจะเปลี่ยนชุดตอนที่พวกผมไม่อยู่แต่พวกผมก็ออกไปตั้งนานเธอน่าจะต้องซุบซิบอะไรกันบ้าง

แต่พูดโดยรวมแล้ววันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อวานวันนี้ได้พบเรื่องราวต่างๆมากมายมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายเรื่องร้ายก็คือพวกเรารออยู่ที่นี่มาตั้งนานแต่ยังไม่มีวี่แววของผู้ที่จะมาช่วยเหลือและที่ยิ่งไปว่านั้นหูเจี้ยนและหานเหม่ยฉีมีประสบการณ์ที่ออกเรือไปตอนแรกแต่สุดท้ายก็ออกไปไม่ได้และต้องกลับมาที่จุดจุดเดิม

ถ้าหากโชคร้ายไม่แน่พวกเขาอาจจะถูกงูเหลือมขนาดใหญ่กินไปแล้วก็ได้

แน่นอนข่าวดีก็คือพวกเราไม่ได้เจอเพียงแค่จ่าวซูเหิงแต่ยังพบคนอีกสองคนมารวมกลุ่มกับพวกเรา

หมูป่ามีกลิ่นเฉพาะแต่พวกเราก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับมันขนาดนี้จึงไม่มีใครสนใจ

ดังนั้นเราจึงกินหมูป่าพร้อมกับปลาที่เหลือยังมีผลไม้อีกหลายอย่างที่เราไม่รู้จักรวมถึงมะพร้าวทำให้อาหารค่ำมื้อนี้ดำเนินไปอย่างคึกคัก

วันต่อมาผมก็รู้สึกกระอักเลือดเนื่องจากเมื่อคืนหูเจี้ยนและหานเหม่ยฉีกินอาหารได้น่าเกียจมากผมรู้ว่าพวกเขาหิวแต่นั่นมันก็มากเกินไปเขากินมะพร้าวที่ผมหามาจนหมดส่วนเนื้อหมูป่าก็กินจะเหลือแต่กระดูกจนตอนนี้เหลือหมูป่าเพียงแค่2ใน3ของปริมาณเดิม

แต่ตอนนี้ผมได้รับพวกเขาเข้ามาในกลุ่มแล้วจึงไม่สามารถพูดอะไรได้มากทำได้แต่ปลอบใจตัวเองคิดว่าจะไม่รับใครเข้ามาอีก

สองสามวันต่อมาเนื่องจากเสบียงที่เหลืออยู่ในถ้ำมีเพียงสองในสามของหมูป่าที่หามาได้ถ้าผมไม่อนุญาตใครก็ไม่สามารถกินมันได้ดังนั้นผมจึงแบ่งงานเป็นหน้าที่ของชายกับหญิงไป๋เหว่ยและหานเหม่ยฉีมีหน้าที่ไปหาผลไม้กิ่งไม้และฟืนต่างๆส่วนผมจ่าวซูเหิงและหูเจี้ยนจะออกไปล่าสัตว์

ไม่เพียงแค่มะพร้าวกับผลไม้ป่าตอนนี้พวกเรามีปืนลูกซองและหอกไม้พวกเราจึงหาเสบียงได้เพิ่มมากขึ้นตอนแรกมีเสือดาวจะเข้ามาโจมตีเราแต่ด้วยอาวุธที่เรามีทำให้มันหนีไปอย่างง่ายดาย

พวกเราหาเสบียงได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นหน้าหนาวแต่เสบียงที่อยู่ในถ้ำนั้นอุดมสมบูรณ์มาก

ในตอนนี้เหมือนว่าความจริงจะดีกว่าในฝันที่ผมได้เจอในวันแรกๆเห็นได้ชัดว่ามันดีกว่ามากในความฝันของผมตอนนั้นนอกจากผมและไป๋เหว่ยแล้วพื้นดินเต็มไปด้วยศพแต่ความจริงมันตรงกันข้ามกับความฝันและตอนนี้มันก็คือความจริง

Download APP, continue reading

Chapters

482