ตอนที่ 417 อุบัติเหตุ
by ปลามังกร
08:01,Mar 30,2021
ผมกอดแขนของไป๋เหว่ยแน่นและแอบด่าในใจวันนี้ไม่ราบรื่นจริงๆด้วยพอบอกว่าหลังคารั่วฝนก็ตกห่าใหญ่
ผมเปิดหน้าต่างที่อยู่ข้างที่นั่งชองผมเมื่อเห็นสภาพที่อยู่ข้างนอกผมก็รู้สึกว่าหัวใจของผมเต้นแรงมาก
ทั้งๆที่ข้างนอกฟ้ามืดมิดแต่กลับมองเห็นกลุ่มก้อนเมฆสีแดงๆหลายกลุ่มและเครื่องบินที่พวกเรานั่งอยู่ก็เหมือนนกที่บินหนีธนูสั่นไปมาเอียงซ้ายทีขวาทีหาจุดสมดุลที่มั่นคงไม่ได้ใจของผมยิ่งเต้นแรงขึ้น
ไป๋เหว่ยโน้มตัวลงมาดูนอกหน้าต่างสีหน้าขอเธอขาวซีดเธอพูดเบาๆว่า"ฟางหยางพวกเราจะตายมั้ย?"
ผมลูบผมของเธอและพูดว่า"คุณนี่โง่จริงๆเลยไม่หรอก"
ถึงแม้ผมจะพูดปลอบใจไป๋เหว่ยแต่ผมก็ยิ่งรู้สึกกลุ้มใจขึ้นเรื่อยๆผมก็เลยปิดหน้าต่าง
ต่อมาเครื่องบินก็สั่นแรงอีกครั้งหนึ่งผมและไป๋เหว่ยขมำไปข้างหน้าด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงโชคดีที่พวกเราคาดเข็มขัดตัวก็เลยไม่ได้ลอยออกจากที่นั่งและผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างหลังก็วุ่นวายกันมากราวหับว่าทุกคนไม่อยากจะเชื่อบางคนพยายามสงบสติอารมณ์และเรียกแอร์โฮสเตสแต่บางคนก็ตัวสั่นมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพึมพำกับตัวเอง
ขณะนั้นเองก็มีแอร์โฮสเตสสาวสวยคนหนึ่งเดินมาที่ห้องโดยสารและพูดกับพวกเราว่า"ทุกคนไม่ต้องตื่นตระหนกสภาพอากาศตอนนี้แปรปรวนค่อนข้างรุนแรงด้วยเหตุนี้พวกเราจะเอาเครื่องลงแต่จะไม่ทำให้ทุกคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยงทุกคนสบายใจได้..."
สีหน้าของเธอขาวซีดขณะที่เธอยืนอยู่ในห้องโดยสารเครื่องบินก็สั่นไม่หยุดเธอเองก็เลยไม่สามารถบังคับความตื่นเต้นของตัวเองได้
และขณะนี้เองก็มีเสียงประกาศดังขึ้น"สวัสดีครับผู้โดยสารทุกท่านเครื่องบินลำนี้พบกับสภาพอากาศแปรปรวนซึ่งจะทำการลงจอดฉุกเฉินผู้โดยสารทุกท่านกรุณาคาดเข็มขัด...."
ยังไม่ทันได้ประกาศเสร็จจู่ๆเครื่องบินก็พลิกในอากาศเหมือนล้มขวดพวกเราหมุนเป็นวงกลมในอากาศขณะนั้นเองผมก็กอดไป๋เหว่ยที่อยู่ข้างๆจนแน่นไป๋เหว่ยเองก็แนบหน้าอกผมแน่นส่วนจ้าวซูเหิงส่งเสียงร้องด้วยความสิ้นหวัง
"เฮ้ยเฮ้ย!ฉันยังต้องกลับไปรับมรดกหลายร้อนล้านนะยังใช้ชีวิตไม่พอเลยฉันจะตายไม่ได้!"
.........................
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ผมรู้สึกหิวสุดท้ายก็เลยตื่นขึ้นมาเมื่อเปิดตาขึ้นมากลับเห็นสิ่งที่ไม่เหมือนกับที่จินตนาการไว้ท้องฟ้าในตอนนี้เป็นสีฟ้าข้างๆยังมีเสียงคลื่นซัดความทรงจำก่อนหน้านี้ไหลเข้ามาในสมองของผมผมยืนขึ้นหลังจากนั้นก็รู้สึกดีใจ
หาดทรายพุ่มไม้คลื่นเครื่องบินตก!
ผมรอดชีวิตแล้ว!
ผมอดกลั้นความอยากที่จะวิ่งไปบนหาดทรายผมมองไปรอบๆทุกทิศทาง
หลังจากที่เครื่องบินที่พวกเรานั่งเกิดอุบัติเหตุแล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยผมน่าจะโดนคลื่นซัดมาอยู่ที่นี่ในเมื่อผมรอดชีวิตมาได้แล้วไป๋เหว่ยและจ้าวซูเหิงหล่ะพวกเขาเองก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่
ต่อมาสายตาของผมที่กำลังมองผ่านห้อนหินก้อนหนึ่งไปข้างๆก็มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนชายหาดผมตะโกนด้วยความตกใจและดีใจว่า"ไป๋เหว่ย!"
ผมรีบวิ่งไปไม่สนใจว่าร่างกายเธอเปียกอยู่ผมยกเธอเข้ามากอด
"ยังดีเธอยังมีชีวิตอยู่"
ผมยื่นมือไปอังที่จมูกของไป๋เหว่ยเธอไม่ได้เป็นอะไร
บังเอิญบนหาดทรายที่ไม่ไกลมากมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่ก้อนหนึ่งผมก็เลยอุ้มไป๋เหว่ยไปนอนบนนั้น
ผมมองไปรอบๆอีกครั้งเพื่อต้องการหาจ้าวซูเหิงผมไม่รู้ว่าพวกเราลอยอยู่ในทะเลนานเท่าไหร่ผมจำได้ว่าตอนที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุเป็นตอนกลางคืนแต่ตอนนี้เป็นกลางวันแล้ว
แต่หาดทรายก็ไม่ได้ใหญ่ผมไม่เห็นร่างของบุคคลที่สามเลยผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆและคิดว่าตอนนี้เขาแค่หายตัวไปเขายังมีโอกาสมีชีวิตอยู่และไม่แน่เขาอาจจะฟื้นแล้วและก็กำลังออกตามหาพวกเราที่ชายหาดอื่นเช่นเดียวกัน
ใกล้ๆมีต้นมะพร้าวเยอะมากผมปีนขึ้นไปบนต้นมะพร้าวไปเก็บลูกมะพร้าวลูกใหญ่ๆมาสองลูกอาจจะเพราะมะพร้าวสุกมากแล้วมันก็เลยตกลงมาบนพื้นและแตกออกเป็นเสี่ยงๆน้ำมะร้าวไหลออกมา
ผมรีบหาชิ้นส่วนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของลูกมพร้าวข้างในยังพอมีน้ำมะพร้าวเหลืออยู่ผมถือมาข้างๆไป๋เหว่ย
ตอนนี้ไป๋เหว่ยยังไม่ฟื้นขึ้นมาผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดกับตัวเองว่า"ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วไป๋เหว่ยก็ต้องเป็นของผมอยู่ดีผมทำเพื่อต้องการให้คุณฟื้นขึ้นมาเร็วๆคุณคงไม่โทษผมหรอก"
พูดจบผมก็รวบรวมความกล้าเอามือสองข้างวางทับกันเตรียมพร้อมที่จะทำCPRหลังจากนั้นผมก็ก้มหน้าลงผมก็เห็นแววตาที่บริสุทธิ์แฝงด้วยความสงสัย
ดวงตาทั้งสแงคู่สบตากัน
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่งสีหน้าไป๋เหว่ยแดงเธอพูดว่า"ฟาง...ฟางหยางนายจะทำอะไรหน่ะ?"
"ผมผมเห็นว่าคุณไม่ฟื้นซักทีก็เลยจะทำCPRให้คุณคิดไม่ถึงว่ากำลังเตรียมตัวเสร็จพอดียังไม่ทันได้เริ่มทำคุณก็ฟื้นซะก่อน"
ผมกระแอมรีบหยิบมะพร้าวขึ้นมาพยุงหัวของเธอขึ้นมาและพูดว่า"นี่เป็นมะพร้าวที่ผมเก็บมาคุณดื่มน้ำก่อนเดี๋ยวผมแกะเนื้อให้"
ไป๋เหว่ยพยักหน้ารีบดื่มน้ำมะพร้าวในมือผมจนหมดหลังจากนั้นก็ลูบๆคลำๆร่างกายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดพบว่าเปิดไม่ติด
ผมพูดว่า"ไม่ต้องลองแล้วพวกเราเครื่องบินตกไม่รู้ว่าลอยอยู่ในน้ำกี่วันโทรศัพท์น้ำเข้าน่าจะเสียไปนานแล้ว"
พูดจบผมก็จับที่ถุงกางเกงสรุปโทรศัพท์ของผมก็เป็นเหมือนเศษเหล็กร้ายๆ
ไป๋เหว่ยถามผมว่า"จ้าวซูเหิงหล่ะ?"
"ไม่เห็นแต่ยังไงตอนนี้ก็เป็นกลางวันพวกเราพักผ่อนก่อนแล้วค่อยไปตามหาเขาไม่รู้ว่าเกาะนี้จะใหญ่ขนาดไหนและก็ไม่รู้ว่ามีคนอยู่มั้ยยังไงก็ต้องไปดูซักหน่อย"
ผมกางมืออกและทุบมะพร้าวอีกลูกนึงให้แตกหลังจากนั้นก็แกะเนื้อมะพร้าวออกใส่ในกะลามะพร้าวแล้วยื่นให้ไป๋เหว่ยผมเองก็กินชิ้นใหญ่ไปหลายชิ้น
เมื่อกี้มัวแต่สนใจไป๋เหว่ยอยู่พอตอนนี้ได้กินมะพร้าวแล้วถึงรับรู้ได้ว่าตัวเองหิวมากผมกินเนื้อมะพร้าวไปเกือบสองลูกถึงรู้สึกอิ่มขึ้นมาหน่อย
กว่าพวกเราจะกินกันอิ่มเสื้อผ้าของเราก็โดนแดดส่องจนแห้งผมช่วยสะบัดเสื้อด้านหลังของเธอขี้เกลือที่แห้งค่อยๆตกลงมาไป๋เหว่ยหน้าแดง"ฉันู้สึกไม่สบายตัวฟางหยางนายหันหลังไปก่อน"
ผมมองเธอด้วยความตกใจแต่ก็พอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและผมก็หันหลังไป
ต่อมาก็ได้ยินเสียงเท้าของไป๋เหว่ยกระทบพื้นทรายไม่นานไป๋เหว่ยก็พูดว่าเสร็จแล้วผมก็เลยหันกลับไปไป๋เหว่ยพูดว่า"ฟางหยางตอนนี้พวกเรากินอิ่มแล้วงั้นพวกเรารีบไปหาจ้าวซูเหิงกันเถอะและเกาะแห่งนี้น่าจะไม่เล็กติดว่าน่าจะมีคนอยู่นะ"
ผมพูดขึ้นมาว่า"ต่อให้คุณไม่พูดผมก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้วดูจากดวงอาทิตย์แล้วตอนนี้น่าจะเป็นเวลาบ่ายสองตอนที่พวกเราหาเขาพวกเราก็ดูซักหน่อยแล้วกันว่าพอจะมีถ้ำหรือมีสถานที่ตรงไหนที่พวกเราจะพออยู่ได้และต้องเตรียมตัวให้พร้อมถ้ามีสถานการณ์เลวร้าย"
ผมเปิดหน้าต่างที่อยู่ข้างที่นั่งชองผมเมื่อเห็นสภาพที่อยู่ข้างนอกผมก็รู้สึกว่าหัวใจของผมเต้นแรงมาก
ทั้งๆที่ข้างนอกฟ้ามืดมิดแต่กลับมองเห็นกลุ่มก้อนเมฆสีแดงๆหลายกลุ่มและเครื่องบินที่พวกเรานั่งอยู่ก็เหมือนนกที่บินหนีธนูสั่นไปมาเอียงซ้ายทีขวาทีหาจุดสมดุลที่มั่นคงไม่ได้ใจของผมยิ่งเต้นแรงขึ้น
ไป๋เหว่ยโน้มตัวลงมาดูนอกหน้าต่างสีหน้าขอเธอขาวซีดเธอพูดเบาๆว่า"ฟางหยางพวกเราจะตายมั้ย?"
ผมลูบผมของเธอและพูดว่า"คุณนี่โง่จริงๆเลยไม่หรอก"
ถึงแม้ผมจะพูดปลอบใจไป๋เหว่ยแต่ผมก็ยิ่งรู้สึกกลุ้มใจขึ้นเรื่อยๆผมก็เลยปิดหน้าต่าง
ต่อมาเครื่องบินก็สั่นแรงอีกครั้งหนึ่งผมและไป๋เหว่ยขมำไปข้างหน้าด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงโชคดีที่พวกเราคาดเข็มขัดตัวก็เลยไม่ได้ลอยออกจากที่นั่งและผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างหลังก็วุ่นวายกันมากราวหับว่าทุกคนไม่อยากจะเชื่อบางคนพยายามสงบสติอารมณ์และเรียกแอร์โฮสเตสแต่บางคนก็ตัวสั่นมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพึมพำกับตัวเอง
ขณะนั้นเองก็มีแอร์โฮสเตสสาวสวยคนหนึ่งเดินมาที่ห้องโดยสารและพูดกับพวกเราว่า"ทุกคนไม่ต้องตื่นตระหนกสภาพอากาศตอนนี้แปรปรวนค่อนข้างรุนแรงด้วยเหตุนี้พวกเราจะเอาเครื่องลงแต่จะไม่ทำให้ทุกคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยงทุกคนสบายใจได้..."
สีหน้าของเธอขาวซีดขณะที่เธอยืนอยู่ในห้องโดยสารเครื่องบินก็สั่นไม่หยุดเธอเองก็เลยไม่สามารถบังคับความตื่นเต้นของตัวเองได้
และขณะนี้เองก็มีเสียงประกาศดังขึ้น"สวัสดีครับผู้โดยสารทุกท่านเครื่องบินลำนี้พบกับสภาพอากาศแปรปรวนซึ่งจะทำการลงจอดฉุกเฉินผู้โดยสารทุกท่านกรุณาคาดเข็มขัด...."
ยังไม่ทันได้ประกาศเสร็จจู่ๆเครื่องบินก็พลิกในอากาศเหมือนล้มขวดพวกเราหมุนเป็นวงกลมในอากาศขณะนั้นเองผมก็กอดไป๋เหว่ยที่อยู่ข้างๆจนแน่นไป๋เหว่ยเองก็แนบหน้าอกผมแน่นส่วนจ้าวซูเหิงส่งเสียงร้องด้วยความสิ้นหวัง
"เฮ้ยเฮ้ย!ฉันยังต้องกลับไปรับมรดกหลายร้อนล้านนะยังใช้ชีวิตไม่พอเลยฉันจะตายไม่ได้!"
.........................
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ผมรู้สึกหิวสุดท้ายก็เลยตื่นขึ้นมาเมื่อเปิดตาขึ้นมากลับเห็นสิ่งที่ไม่เหมือนกับที่จินตนาการไว้ท้องฟ้าในตอนนี้เป็นสีฟ้าข้างๆยังมีเสียงคลื่นซัดความทรงจำก่อนหน้านี้ไหลเข้ามาในสมองของผมผมยืนขึ้นหลังจากนั้นก็รู้สึกดีใจ
หาดทรายพุ่มไม้คลื่นเครื่องบินตก!
ผมรอดชีวิตแล้ว!
ผมอดกลั้นความอยากที่จะวิ่งไปบนหาดทรายผมมองไปรอบๆทุกทิศทาง
หลังจากที่เครื่องบินที่พวกเรานั่งเกิดอุบัติเหตุแล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยผมน่าจะโดนคลื่นซัดมาอยู่ที่นี่ในเมื่อผมรอดชีวิตมาได้แล้วไป๋เหว่ยและจ้าวซูเหิงหล่ะพวกเขาเองก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่
ต่อมาสายตาของผมที่กำลังมองผ่านห้อนหินก้อนหนึ่งไปข้างๆก็มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนชายหาดผมตะโกนด้วยความตกใจและดีใจว่า"ไป๋เหว่ย!"
ผมรีบวิ่งไปไม่สนใจว่าร่างกายเธอเปียกอยู่ผมยกเธอเข้ามากอด
"ยังดีเธอยังมีชีวิตอยู่"
ผมยื่นมือไปอังที่จมูกของไป๋เหว่ยเธอไม่ได้เป็นอะไร
บังเอิญบนหาดทรายที่ไม่ไกลมากมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่ก้อนหนึ่งผมก็เลยอุ้มไป๋เหว่ยไปนอนบนนั้น
ผมมองไปรอบๆอีกครั้งเพื่อต้องการหาจ้าวซูเหิงผมไม่รู้ว่าพวกเราลอยอยู่ในทะเลนานเท่าไหร่ผมจำได้ว่าตอนที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุเป็นตอนกลางคืนแต่ตอนนี้เป็นกลางวันแล้ว
แต่หาดทรายก็ไม่ได้ใหญ่ผมไม่เห็นร่างของบุคคลที่สามเลยผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆและคิดว่าตอนนี้เขาแค่หายตัวไปเขายังมีโอกาสมีชีวิตอยู่และไม่แน่เขาอาจจะฟื้นแล้วและก็กำลังออกตามหาพวกเราที่ชายหาดอื่นเช่นเดียวกัน
ใกล้ๆมีต้นมะพร้าวเยอะมากผมปีนขึ้นไปบนต้นมะพร้าวไปเก็บลูกมะพร้าวลูกใหญ่ๆมาสองลูกอาจจะเพราะมะพร้าวสุกมากแล้วมันก็เลยตกลงมาบนพื้นและแตกออกเป็นเสี่ยงๆน้ำมะร้าวไหลออกมา
ผมรีบหาชิ้นส่วนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของลูกมพร้าวข้างในยังพอมีน้ำมะพร้าวเหลืออยู่ผมถือมาข้างๆไป๋เหว่ย
ตอนนี้ไป๋เหว่ยยังไม่ฟื้นขึ้นมาผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดกับตัวเองว่า"ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วไป๋เหว่ยก็ต้องเป็นของผมอยู่ดีผมทำเพื่อต้องการให้คุณฟื้นขึ้นมาเร็วๆคุณคงไม่โทษผมหรอก"
พูดจบผมก็รวบรวมความกล้าเอามือสองข้างวางทับกันเตรียมพร้อมที่จะทำCPRหลังจากนั้นผมก็ก้มหน้าลงผมก็เห็นแววตาที่บริสุทธิ์แฝงด้วยความสงสัย
ดวงตาทั้งสแงคู่สบตากัน
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่งสีหน้าไป๋เหว่ยแดงเธอพูดว่า"ฟาง...ฟางหยางนายจะทำอะไรหน่ะ?"
"ผมผมเห็นว่าคุณไม่ฟื้นซักทีก็เลยจะทำCPRให้คุณคิดไม่ถึงว่ากำลังเตรียมตัวเสร็จพอดียังไม่ทันได้เริ่มทำคุณก็ฟื้นซะก่อน"
ผมกระแอมรีบหยิบมะพร้าวขึ้นมาพยุงหัวของเธอขึ้นมาและพูดว่า"นี่เป็นมะพร้าวที่ผมเก็บมาคุณดื่มน้ำก่อนเดี๋ยวผมแกะเนื้อให้"
ไป๋เหว่ยพยักหน้ารีบดื่มน้ำมะพร้าวในมือผมจนหมดหลังจากนั้นก็ลูบๆคลำๆร่างกายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดพบว่าเปิดไม่ติด
ผมพูดว่า"ไม่ต้องลองแล้วพวกเราเครื่องบินตกไม่รู้ว่าลอยอยู่ในน้ำกี่วันโทรศัพท์น้ำเข้าน่าจะเสียไปนานแล้ว"
พูดจบผมก็จับที่ถุงกางเกงสรุปโทรศัพท์ของผมก็เป็นเหมือนเศษเหล็กร้ายๆ
ไป๋เหว่ยถามผมว่า"จ้าวซูเหิงหล่ะ?"
"ไม่เห็นแต่ยังไงตอนนี้ก็เป็นกลางวันพวกเราพักผ่อนก่อนแล้วค่อยไปตามหาเขาไม่รู้ว่าเกาะนี้จะใหญ่ขนาดไหนและก็ไม่รู้ว่ามีคนอยู่มั้ยยังไงก็ต้องไปดูซักหน่อย"
ผมกางมืออกและทุบมะพร้าวอีกลูกนึงให้แตกหลังจากนั้นก็แกะเนื้อมะพร้าวออกใส่ในกะลามะพร้าวแล้วยื่นให้ไป๋เหว่ยผมเองก็กินชิ้นใหญ่ไปหลายชิ้น
เมื่อกี้มัวแต่สนใจไป๋เหว่ยอยู่พอตอนนี้ได้กินมะพร้าวแล้วถึงรับรู้ได้ว่าตัวเองหิวมากผมกินเนื้อมะพร้าวไปเกือบสองลูกถึงรู้สึกอิ่มขึ้นมาหน่อย
กว่าพวกเราจะกินกันอิ่มเสื้อผ้าของเราก็โดนแดดส่องจนแห้งผมช่วยสะบัดเสื้อด้านหลังของเธอขี้เกลือที่แห้งค่อยๆตกลงมาไป๋เหว่ยหน้าแดง"ฉันู้สึกไม่สบายตัวฟางหยางนายหันหลังไปก่อน"
ผมมองเธอด้วยความตกใจแต่ก็พอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและผมก็หันหลังไป
ต่อมาก็ได้ยินเสียงเท้าของไป๋เหว่ยกระทบพื้นทรายไม่นานไป๋เหว่ยก็พูดว่าเสร็จแล้วผมก็เลยหันกลับไปไป๋เหว่ยพูดว่า"ฟางหยางตอนนี้พวกเรากินอิ่มแล้วงั้นพวกเรารีบไปหาจ้าวซูเหิงกันเถอะและเกาะแห่งนี้น่าจะไม่เล็กติดว่าน่าจะมีคนอยู่นะ"
ผมพูดขึ้นมาว่า"ต่อให้คุณไม่พูดผมก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้วดูจากดวงอาทิตย์แล้วตอนนี้น่าจะเป็นเวลาบ่ายสองตอนที่พวกเราหาเขาพวกเราก็ดูซักหน่อยแล้วกันว่าพอจะมีถ้ำหรือมีสถานที่ตรงไหนที่พวกเราจะพออยู่ได้และต้องเตรียมตัวให้พร้อมถ้ามีสถานการณ์เลวร้าย"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved