บทที่1 พึ่งพาผู้อื่นในการดำรงชีวิต

by หลิงหยุน 10:15,Nov 30,2020
“ที่รัก ให้ผมยืมอีกสัก 10,000 หยวนได้ไหม โรงพยาบาลมาทวงอีกแล้ว ... ”

โจวหยางกล่าว สีหน้าของเขามองไปที่ภรรยาเซี่ยะหลิงอวี่นั้นเต็มไปด้วยความอ้อนวอน

เซี่ยะหลิงอวี่เมื่อได้ฟังดังนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า
เธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งจากกระเป๋าและส่งให้เขาไป

โจวหยางหยิบเงินอย่างคอตก แล้วพูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา

รูปร่างสูงโปร่งของเซี่ยะหลิงอวี้ ใบหน้าที่สวยงามนั้น เป็นความงามที่สามารถพูดได้ว่าไม่มีใครสวยเกินเธอเลย

แม้ว่าโจวหยางจะเป็นหนุ่มรูปหล่อ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเธอแล้วยังห่างกันอีกไกล

เมื่อสามปีก่อน โจวหยางที่กำลังจบการศึกษานั้น ก็เป็นเหมือนหนุ่มสาวทั่วไป ที่วาดฝันอนาคตไว้สวยงาม แต่ในช่วงเวลานั้นเอง แม่ที่เลี้ยงดูเขาเพียงลไพังมาโดยตลอดได้ประสบกับปัญหาไตวาย

ในขณะที่โจวหยางกำลังกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลนั้นเอง
เซี่ยะหลิงอวี้ คนที่เขาแอบรักในตลอดมัธยมปลายมาโดยตลอดก็มาหาเขา
ยื่นขอเสนอให้เขาแต่งมาอยู่กับเธอ เธอก็พร้อมที่จะแต่งงานกับเขาในทันที

ไม่เพียงแค่นั้น เซียะหลิงอวี้ยังให้คำมั่นว่า จะให้เงินค่าสินสอดจำนวนไม่น้อยแก่เขา

ถึงแม้ว่าโจวหยางจะรู้ว่าเซี่ยะหลิงอวี้ไม่ได้รักเขาเลย และก็รู้ด้วยว่าเป็นเพราะสาเหตุมาจากผู้ชายคนอื่นทำให้เธอต้องมาหาเขา

แต่โจวหยางก็ยังต้องยอมรับข้อสเนอนี้เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลของแม่เขาให้ได้

ตลอดสามปีที่ผ่านมา หยางโจวทำทถกอย่างในบ้านตระกูลเซี่ยะ
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อและแม่ของเซี่ยะหลิงอวี้ ถึงขนาดที่บางครั้งถูกเยาะเย้ยและมองเป็นอากาศ
ในขณะที่เซี่ยะหลิงอวี้ไม่ได้ดูถูกอะไรเขามากนัก แต่หลังจากแต่งงานมาสามปี ก็ไม่เคยให้เขาถูกเนื้อต้องตัวเลยแม่แต่สักนิด

ในช่วงขณะนั้นเอง แม่ของเซี่ยะหลิงอวี้ก็เดินเขามา

เมื่อเห็นเซี่ยะหลิงอวี้กำลังหยิบเงินให้โจวหยาง ก็โกรธจนแทบเต้นแล้วพูดว่า

"หลิงอวี้ ทำไมถึงเอาเงินให้คนไม่มีค่าอย่างนี้อีกแล้วละ"

"โจวหยาง ไหนลองพูดสิ ที่ผ่านมา แกเอาเงินจากครอบครัวฉันไปแล้วเท่าไหร่"

"แกเคยหาเงินเข้าบ้านนี้สักหยวนนึง เคยมีไหม"

คำพูดที่แทงใจดำของแม่ยาย ทำให้โจวหยางได้แต่ก้มหน้า

"แม่ครับ ช้าเร็วผมก็ต้องหาเงินมาคืนหลิงอวี้อยู่ดี เพียงแค่ตอนนี้แม่ของผมกำลังรอฟอกไตอยู่"

แม่ยายพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้นชาว่า "อาการป่วยของแม่เธอ เกี่ยวข้องอะไรกับบ้านเรา เห็นว่าบ้านเราเป็นธนาคารหรือยังไง เธอเคยรู้ไหมว่าตอนนี้บริษัทของหลิงอวี้กำลังอยุ่ในช่วงวิกฤติ"

พูดจบก็หันไปบอกกับหลิงอวี้ว่า "หลิงอวี้ เงินจำนวนนี้ให้เขาไปไม่ได้นะ!"
แม่ยายพูดไปด้วยและเดินมาทางด้านหน้า เพื่อจะดึงเงินจากมือของโจวหยางไป

“ แม่ ช่างเถอะ”

เซี่ยะหลิงอวี้พูดด้วยเสียงที่เหน็ดเหนื่อยว่า "เรื่องของบริษัท ก็ไม่ใช่ว่าเงินหมื่นหยวนจะแก้ไขได้สะเมื่อไหร่ ช่างเถอะน่า!"

เมื่อเห็นท่าทางอิดโรยของเซี่ยะหลิงอวี้ โจวหยางก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังรู้สึกผิดหวังในตัวเขามากๆ


บริษัทเครื่องสำอางค์ของเธอกำลังประสบกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุด แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย และยิ่งไม่สามารถเป็นเสาหลักให้เธอได้

แม่ยายโกรธโจวหยางเป็นอย่างมาก เหมือนกับเก็บความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ เลยพลั่งพรูออกมาว่า "ไม่รู้จริงๆว่า เอาแกมาเลี้ยงจะมีประโยชน์อะไร ลูกเขยของคนอื่นหาเงินได้ตั้งมากมาย ส่วนแกเนี่ยจ้องแต่จะเอาเงิน เป็นของเน่าเสียที่อยู่ในขยะจริงๆ"

ในเวลานี้ เพิ่งผ่านช่วงเทียงมา เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

โจวหยางขมวดคิ้ว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจ

เซี่ยะหลิงอวี้ที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมองและหมดหวัง ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู

"คุณเซี่ยะ นี่คือดอกไม้ของคุณ โปรดเซ็นชื่อรับด้วยครับ" พนักงานส่งของเป็นคนส่งดอกไม้ให้ ช่อดอกไม้นั้นเป็นดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ ดูสวยสดงดงามมาก

เมื่อเห็นช่อดอกไม้ช่อนั้น โจวหยางกำหมัดแน่นเพราะรู้ว่าเป็นของเฉินจวิ้นเซิง คนที่เซียะหลิงอวี้ชอบส่งมาให้

สามปีก่อน เฉินจวิ้นเซิง ไม่ยอมอยู่ต่อตามที่เซี่ยะหลิงอวี้ขอเอาไวเ เขายืนยันที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ จึงทำให้เซี่ยะหลิงอวี้โมโห และไปขอให้โจวหยางมาเป็นสามี

แต่เมื่อปีที่แล้ว เฉินจวิ้นเซิงเรียนจบกลับมา สิ่งแรกที่เขาทำคือตามจีบเซี่ยะหลิงอวี้อย่างไม่ลดความพยายาม

เมื่อเทียบกับครอบครัวที่ยากจนของโจวหยางแล้วนั้น เฉินจวิ้นเซิงที่เพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศในระดับสูง ฐานะทางบ้านยังเป็นที่มีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่นอีกด้วย

ตั้งแต่เซี่ยะหลิงอวี้ปฎิเสธช่อดอกไม้เขาในปีที่แล้วนั้น ทุกวันเขาจะให้คนส่งดอกไม้มาให้ไม่หยุดหย่อน

ความพยายามแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนไปให้กับผู้หญิงคนอื่นก็คงจะจบด้วยดีไปนานแล้ว

โชคดีที่เซี่ยหลิงอวี้ตัดความรู้สึกที่มีต่อเฉินจวิ้นเซิงไปนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ยอมรับไมตรีที่เขาส่งมาให้ ซึ่งทำให้โจวหยางรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก

แต่ แม่ยายของเขายังคงหวังให้โจวหยางและเซี่ยะหลิงอวี้หย่ากัน เพื่อลูกสาวเธอนั้นจะได้กลับไปคบกับเฉินจวิ้นเซิงอีกครั้ง
และถ้าเป็นแบบนี้ ปัญหาของบริษัทที่เซี่ยะหลิงอวี้เผชิญอยู่ก็จะแก้ไขได้โดยง่ายดาย

เพราะครอบครัวของเฉินจวิ้นเซิงนั้นมีอำนาจและบารมีที่พอจะช่วยเหลือกันได้

แต่เซี่ยะหลิงอวี้ก็ไม่ยอมรับน้ำใจอันนี้จากเขา

เธอพูดกับคนส่งของว่า: "ขอโทษค่ะ ฉันไม่รับ คุณเอาไปคืนเถอะ"

แม่ยายรีบลุกขึ้นพูดว่า "จวิ้นเซิงคนนี้เป็นคนโรแมนติก อวี้อวี้เธอก็ด้วย ทำไมไม่ยอมรับน้ำใจจากเขาล่ะ!"

"มา ๆ ฉันจะเซ็นให้รับไว้ให้!"

พูดจบ แม่ยายก็ยิ้มแก้มปริไปเซ็นชื่อรับดอกไม้ช่อนั้นมา

สิ่งที่แม่ของเธอทำนั้น เซี่ยะหลิงอวี้ก็หมดหนทางที่จะพูด เพราะความเพนื่อยล้าที่เธอมีอยู่มันแสดงออกบนหน้าอย่างชัดเจน

"แม่ ฉันจะไปธนาคารคุยเรื่องเงินกู้กับทางธนาคาร งั้นฉันไปก่อนนะ!"

เซี่ยะหลิงอวี้พูดจบก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป

ทันทีที่เซี่ยะหลิงอวี้ออกไปนั้น บรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็ดูอึมครึมขึ้นมาทันที

แม่ยายถือช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่แล้วพูดว่า "ดอกกุหลาบนี้มันสวยมากจริงๆ จวิ้นเซิงคนนี้ก็ดีมากๆเลย ฐานะทางบ้านก็คงไม่ต้องพูดถึงว่ารวยขนาดไหน ความสามารถก็เก่งกาจจนเป็นที่ยอมรับ และยังเป็นคนที่โรแมนติกอีก.."

โจวหยางรู้สึกละอายใจจึงลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "แม่ ผมจะไปโรงพยาบาลแล้ว"
พูดเสร็จ ก็ไม่รอให้แม่ยายพูดต่อ รีบเดินออกไปทันที

หลังจากออกมาจากบ้าน โจวหยางรู้สึกเจ็บปวดใจ

เขารู้สึกถูกดูถูกเป็นอย่างมาก

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเหล่านี้ แต่เป็นเพราะเขาอาศัยแค่อาชีพพนักงานขายธรรมดาคนนึง แค่เงินที่จะไปรักษาอาการป่วยของแม่เขานั้นยังไม่พอเลย แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่

ความจริงที่โหดร้ายเป็นเหมือนโซ่ตรวนอันหนักหนาสาหัส ที่ทำให้โจวหยางไม่สามารถหายใจได้อย่างคล่องคอ

......
โรงพยาบาลในเมือง

"สวัสดีครับ ผมมาจ่ายค่ารักษาพยายบาลของคุณหวังชุนเหลียน"

นางพยาบาลเงยหน้าขึ้นมามองโจวหยาง แล้วตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ แล้วพูดว่า "ค่ารักษาพยาบาลของคุณหวังชุนเหลียนมีคนจ่ายให้เรียบร้อยแล้ว มิหนำซ้ำยังจ่ายเป็นเงินหนึ่งล้านหยวน ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายที่่ใช้หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนไต และฟื้นฟูหลังผ่าตัดด้วยค่ะ"

โจวหยางตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยเจอพ่อตั้งแต่เขาเป็นเด็กน้อย เขาอาศัยอยุ่กับแม่ในเมืองนี้เพียงแค่สองคน เพื่อนฝูงก็แทบจะไม่มี

เขาคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่า จะเป็นใครกันที่มาจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนเขา

"คุณพยาบาล ช่วยหาหน่อยได้ไหมว่าใครจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผม"

โจวหยางอดไม่ได้ที่จะถามนางพยาบาล จริงๆก็ไม่ได้แค่แปลกใจเท่านั้น โจวหบางยังจำคำที่แม่พูดไว้ว่า "คนไม่มีเงินได้ แต่ไม่มีความพยายามไม่ได้"

แต่เป็นที่น่าเสียดาย ตลอดสามปีที่ผ่านมานี้ไม่ต้องพูดถึงความพยายาม แม้แต่ศักดิ์ศีก็แทบจะไม่เหลือเลย

“ เป็นผู้ชายผอมๆ สูงๆ ชื่อว่าอะไรฉันก็ทราบ"

"ใช่แล้ว คนๆนั้นขอให้ฉัน มอบสิ่งนี้ให้คุณ"

ราวกับนางพยาบาลนึกอะไรที่สำคัญขึ้นมาได้ รีบหยิบของสำคัญชิ้นหนึ่งออกมาจากลิ้นชักส่งให้โจวหยาง

นอกจากipadและบัตรเครดิต ก็ไม่มีสิ่งของอย่างอื่น
"นี่มันหมายความว่าอะไรน่ะ!"

โจวหยางเปิดipadด้วยความสงสัย และคุยวิดีโอคอลกับชายที่อยู่ในนั้น
"สวัสดีคุณชายโจวหยาง!! ฉันคือจ้าวถ่ง สิ่งที่ฉันอยากบอกกับคุณก็คือ ตามพินัยกรรมที่คุณโจวได้ทำไว้ คุณคือทายาทหมื่นล้านของตระกูล

ในหัวของโจวหยางเต็มไปด้วยความว่างเปล่า เขาพึมพำกับตัวเอง
"พ่อผมหรอ?"

"ใช่" จ้าวถ่งพยักหน้าแล้วพูดว่า "พ่อของคุณคือนักธุรกิจระดับโลก และเป็นประธานของโจวกรุ๊ป"

จ้าวถ่งได้บอกอีกว่า "ผมได้ส่งเอกสารฉบับนึงไปที่อีเมล์ของคุณ เป็นเอกสาร560หน้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพทย์สิน เป็นทรัพยท์สินทั้งหมดที่โจวเหล่าได้ทำเอาไว้ คุณสามารถมารับตำแหน่งประธานของกรุ๊ปตระกูลโจวได้ตลอดเวลา"

เมื่อโจวหบางได้ยินดังนั้น ก็รีบพูดขึ้นมาว่า "ไม่ ผมไม่ไป"
จ้าวถ่งถามด้วยความประหลาดใจว่า "ทำไม"

โจวหยางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "เพราะเขาทิ้งผมกับแม่ไปตั้งนานแล้ว ผมจะไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด"





Download APP, continue reading

Chapters

1073