บทที่ 859 ตระกูลสวี่จู่โจม!

เห็นได้ชัดว่าซูเหว่ยเคารพเขาและหนิวฉวนมากดังนั้นจึงตามหาตัวเองอยู่เสมอ

สำหรับตัวฉันเองตั้งแต่มาถึงเมืองตงไห่ก็ยุ่งอยู่กับเรื่องยุ่งๆเรื่องต่างๆแม้กระทั่งยังช่วยคนขับรถแปลกหน้าจัดการเรื่องของตระกูลฮัวแต่ไม่ได้ไปบ้านตระกูลซูไปรอบนี้มันดูเหมือนตัวเองไม่มีมาตรฐานเล็กน้อยจริงๆ

ไม่ใช่ว่าไม่หาเวลาออกไมาได้จริงๆ.....แต่เขาไม่ได้ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราวและรู้สึกว่าตระกูลซูจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ดังนั้นโจวหยางจึงรู้สึกอายเล็กน้อยเมื่อตอบซูเหว่ย

"พอแล้วอย่าพูดเรื่องไร้สาระครั้งนี้หาฉันมีธุระอะไรโปรดรีบพูดฉันยังคงยุ่ง"โจวหยางพูดอย่างรีบร้อน

เพื่อที่จะปกปิดความจริงที่ว่าเขาไม่ได้เอาตระกูลซูเป็นเรื่องเป็นราวเขาต้องแสร้งทำเป็นว่าตัวเองยุ่งมากซึ่งนี้ทำให้โจวหยางรู้สึกผิดเล็กน้อย

แน่นอนว่าในการโกหกครั้งหนึ่งมันก็ต้องสร้างเรื่องโกหกให้มากขึ้น

โชคดีที่ซูเหว่ยไม่ได้ใส่ใจกับมันมากเกินไป

กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาไม่มีอารมณ์ที่จะใส่ใจกับมัน

ในไม่ช้าเสียงของซูเหว่ยก็จริงจังขึ้น

"ลูกพี่เกิดเรื่องแล้วตระกูลสวี่มาบ้านตระกูลซูของเราแล้ว"ซูเหว่ยกล่าว

"คุณพูดว่าอะไรนะ?"โจวหยางยืนขึ้นในทันที"ยังไงกันแน่?คุณอธิบายให้ฉันฟังชัดๆ?"

เรื่องนี้ร้ายแรงเกินไปตระกูลซูมีเพียงปรมาจารย์การต่อสู้สี่คนมันจะเป็นคู่ต่อสู้ของตระกูลสวี่ได้อย่างไร?

ถ้าหากตระกูลสวี่โจมตีตระกูลซูโดยตรงมันอาจนำไปสู่การทำลายล้างตระกูลซูโดยตรง!

แม้ว่าการทำลายล้างตระกูลซูจะไม่มีผลอะไรกับโจวหยาง....แต่นั่นก็เป็นผลมาจากพันธมิตรของเขาตระกูลซูก็ทำผลงานได้ดีมากไม่เคยทำอะไรให้ตัวเองเสียใจและโจวหยางก็มีไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งตระกูลซู

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ตระกูลสวี่ได้เคลื่อนไหวแล้วจริงเหรอ?

ตอนนี้ตระกูลซูยังคงยืนหยัดอยู่ได้แค่ไหนแล้ว?และมีกี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่?

แต่ในเวลานี้ซูเหว่ยกล่าวว่า"ลูกพี่คุณอย่าพึ่งตื่นเต้นในตอนนี้ดูเหมือนว่ายังไม่มีอะไรผิดปกติฝ่ายตรงข้ามมากันเพียงสองคน"

"แม้ว่าจะต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆแต่ก็มีปรมาจารย์การต่อสู้สี่คนอยู่ข้างเราดังนั้นจึงไม่กลัวพวกเขาเลย"

ซูเหว่ยก็ลดเสียงลง"แต่ลูกพี่พวกเขาครั้งนี้มาเหมือนไม่ได้เพื่อต่อสู้ฉันรู้สึกว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อเอาชนะตระกูลซู"

"คุณจะมาดูไหม?ฉันกังวลว่าพ่อของฉันจะรับมือกับความกดดันไม่ได้!"ซูเหว่ยกระซิบ

ทั้งโลกรู้ว่าตระกูลสวี่มีอำนาจมากเพียงใดและแน่นอนว่าซูเหว่ยก็รู้เช่นกันแต่เขายังคงเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าโจวหยางสามารถเอาชนะตระกูลสวี่ได้

ดังนั้นฉากที่เขาไม่อยากเห็นก็คือตระกูลซูไปพึ่พาตระกูลสวี่

แต่ความเป็นไปได้นี้มีมากมาก

เนื่องจากในสายตาของตระกูลซูโจวหยางค่อนข้างพึ่งพาไม่ค่อยได้แล้วและคะแนนชื่อเสียงก็ต่ำจนน่าสงสาร

ทั้งๆที่เป็นผู้นำของพันธมิตรแต่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในวันสงคราม

แม้ว่าโจวหยางจะบอกกับตระกูลซูก่อนที่เขาจะจากไปเขาจะไปหาวิธีเอาชนะจักรพรรดิแห่งศิลปะการต่อสู้

แต่การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าสองเดือนและไม่มีข่าวใดๆ

ในช่วงสองเดือนนี้ตระกูลสวี่ถือกำเนิดขึ้น

ในตอนนี้ตระกูลซูต้องเผชิญกับความกดดันมากแค่ไหน?ไม่มีใครรู้เลย

ตระกูลซูได้คุยกับโจวหยางนานแล้วว่าจะทำลายตระกูลสวี่

ตอนนี้ตระกูลสวี่ถือกำเนิดขึ้นโจวหยางในกลุ่มพันธมิตรตระกูลซูได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่พ่อของซูเหว่ยซูซื่อหมิงกังวลเกี่ยวกับตระกูลสวี่ที่จะมาหาถึงที่

แต่เหมือนตระกูลสวี่จะลืมพวกเขาแล้วยังไม่เคยหาเรื่องพวกเขา

เมื่อซูซื่อหมิงคิดว่าไม่มีอะไรแล้วคนตระกูลสวี่ก็มา!

แม้ว่าจะมาเพียงปรมาจารย์การต่อสู้สองคนแต่ทั้งสองคนนี้ก็เป็นตัวแทนของตระกูลสวี่ที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด!

กล่าวได้ว่าถ้าเขาจัดการเรื่องนี้ได้ไม่เีแม้แต่นิดมันจะนำพาตระกูลซูทั้งหมดเข้าสู่สถานที่ที่เลวร้าย!

เอาจริงๆซูซื่อหมิงรู้ว่าโจวหยางกลับไปที่เมืองตงไห่แล้ว

เพราะว่าซูเหว่ยเห็นหนิวฉวนเมื่อสองวันก่อนเมื่อกลับไปที่บ้านจึงบอกพ่อของเขา

แต่ซูซื่อหมิงไม่รู้ว่าตอนนี้ท่าทีของโจวหยางเป็นอย่างไร

ทั้งๆที่กลับไปที่ตงไห่แล้วแต่ไม่ได้ติดต่อกับตระกูลซูของพวกเขานี่มันหมายความว่าอย่างไร!

นั่นเป็นเหตุผลที่กล่าวกันในสายตาของซูซื่อหมิงโจวหยางไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปและชื่อเสียงของเขาก็ต่ำจนน่าสงสาร

ตอนนี้ตระกูลสวี่มาหาถึงที่แล้วแม้ว่าเขาจะติดต่อกับโจวหยางแล้วแต่ก็สายเกินไป

โชคดีที่ครั้งนี้ตระกูลสวี่มาหามีเพียงปรมาจารย์การต่อสู้สองคนเท่านั้นและจุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อทำลายตระกูลซูแต่จะดึงความสัมพันธ์ชิดกันและนี่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับซูซื่อหมิง

แต่จะเลือกได้อย่างไร?

เขาจะปฏิเสธการเกี้ยวของตระกูลสวี่แล้วเหรอ?

ถ้าหากปฏิเสธแล้วท่าทีของฝั่งโจวหยางก็ไม่ชัดเจนเมื่อถึงเวลานั้นตระกูลซูของพวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

ตกลงคำเชิญของตระกูลสวี่หรือไม่?

ถ้าตกลงแล้วก็คือทรยศต่อโจวหยาง

แต่ตอนนี้ทรยศโจวหยางก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่!

ซูเหว่ยคิดว่าพ่อของเขาคงคิดเช่นนี้จึงแอบออกมาโทรหาโจวหยาง

โจวหยางที่รับสายก็ได้ให้ความสำคัญกับมันมากตกลงที่จะไปดูทันที

ห้องนั่งเล่นของบ้านตระกูลซู

ปรมาจารย์การต่อสู้สองคนจากตระกูลสวี่และซูซื่อหมิงนั่งตรงข้ามกัน

ปรมาจารย์การต่อสู้ที่พวกเขามาในครั้งนี้นั้นก็คือสวี่เฟิงเทียนกับสวี่เฟิงจวินสองคน!

"เจ้าบ้านตระกูลซูได้ฟังไม่ดีเท่าได้เจอจริงๆบุคคลที่มีความสามารถ"ซูเฟิงเทียนกล่าวด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง

ซูซื่อหมิงยิ้มอย่างเชื่องช้า"ป่าวป่าวผู้เฒ่าซูยังคงมีท่าทางที่ดึงดูดมากที่สุดฉันจะนับได้ว่ามีความสามารถอะไรล่ะ"

"เจ้าบ้านตระกูลซูก็พูดเกินไป"ซูเฟิงเทียนยิ้มทันใดนั้นคำพูดของเขาก็เปลี่ยนไป"แต่เจ้าบ้านตระกูลซูไม่ควรตัดสินใจอะไรโง่ๆแบบนี้นะ?"

"ฉันได้ยินมาสักพักแล้วว่าตระกูลซูของคุณและโจวหยางได้จัดตั้งพันธมิตรและประกาศที่จะทำลายตระกูลสวี่ของเรามีเรื่องแบบนี้อยู่ใช่ไหม?"

สวี่เฟิงเทียนถามโดยไม่มีรอยยิ้ม

ซูซื่อหมิงตกใจและในใจก็พูดว่ามันมาแล้วจริงๆ

เขาไม่คิดว่าในครั้งนี้ที่สวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินมาจะมาเพียงแค่ดื่มชาและพูดคุยเกี่ยวกับกันและกัน

เนื่องจากตระกูลซูเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าพวกเขาจะทำลายตระกูลสวี่!

แต่เขาคาดไม่ถึงว่าคำถามของสวี่เฟิงเทียนจะเฉียบคมขนาดนี้

สิ่งนี้ทำให้เขาไม่สามารถตอบได้เลย

เนื่องจากตระกูลซูเคยกล่าวว่าพวกเขาจะทำลายตระกูลสวี่นั่นเป็นสิ่งที่คนทั้งเมืองตงไห่รู้และมันไม่ใช่เรื่องปลอม

เขาปฏิเสธในเวลานี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย

แต่จะยอมรับมันเหรอ?

พูดกับสวี่เฟิงเทียนดยตรง"อ่อใช่พวกเราเคยบอกว่าจะฆ่าพวกคุณเพราะเราไม่พอใจพวกคุณมานานแล้ว"

พูดอย่างนี้เหรอ?

พูดบ้าอะไรแบบนี้!หลังจากพูดแบบนี้มแม้ว่าตระกูลสวี่จะต้องการดึงความสัมพันธ์กับตระกูลซูแต่ทั้งสองฝ่ายก็จะกลายเป็นศัตรูกัน

ซูซื่อหมิงอายเล็กน้อยและไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร

เนื่องจากในใจลึกๆของเขาแล้วมีแนวโน้มที่จะบกพร่องต่อตระกูลสวี่มากกว่า!