บทที่ 862 พูดต่อไป!
by หลิงหยุน
08:01,Apr 02,2021
ใบหน้าของสวี่เฟิงเทียนเต็มไปด้วยความดูถูกเต็มไปด้วยคำข่มขู่และการกดดัน
แม้ว่าเขาจะได้รับการเตือนจากซูซื่อหมิงก็ตามแต่เขายังคงหยิบยกเงื่อนไขที่มันมากเกินออกมา
นอกจากนี้ยังต้องการทรัพย์สินหนึ่งในสองมันไม่ต่างจากการทำลายตระกูลเลย
ถ้าหากตระกูลซูไม่ตอบตกลงเงื่อนไขล่ะก็มีความเป็นไปได้มากที่จะถูกทำลายตระกูล!
สวี่เฟิงเทียนเชื่อว่าจากในด้านนี้ซูซื่อหมิงสามารถเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด
ในเวลาเดียวกันเขาคิดว่าเงื่อนไขของตัวเองไม่มากเกินไป
"เจ้าบ้านตระกูลซู?ตกลงคุณหมายความว่ายังไง?"
"ตกลงต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลสวี่ของพวกเราจริงๆเหรอ?"
สวี่เฟิงเทียนได้มีการพูดต่อ"ถ้าหากคุณได้มีการตัดสินใจแล้วตอนนี้คุณสามารถเรียกปรมาจารย์การต่อสู้ทั้งสี่ของตระกูลซูของคุณมาได้ดูสิว่าจะสามารถจัดการผู้อาวุโสสองคนได้ไหม"
"แต่ว่ามีอยู่จุดหนึ่งที่มีความชัดเจนอย่างมากไม่ว่าคุณจะสามารถหยุดผู้อาวุโสสองคนได้หรือไม่ตระกูลซูของพวกคุณในวันรุ่งขึ้นจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นอย่างแน่นอน"
ถ้าหากตระกูลสวี่ลงมือเต็มกำลังจริงๆทำลายตระกูลชั้นหนึ่งอย่างตระกูลซูแบบนี้มันเป็นเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืนจริงๆ
สวี่เฟิงเทียนไม่ได้พูดเว่อร์เกินไป
ซูซื่อหมิงมีการกัดฟันพูดด้วยการดิ้นรน"ผู้อายุโสสวี่อย่าบีบบังคับฉันเลย"
"ตระกูลซูของพวกเรามีความจริงใจแน่นอนในก่อนหน้าพวกเราเคยพูดว่าต้องการทำลายตระกูลสวี่ออกมาแบบนั้นจริงๆในเวลาเดียวกันพวกเราก็ยินดีชดใช้เรื่องทั้งหมด"
"แต่ว่าคุณพูดว่าต้องการอุตสาหกรรมหนึ่งในสองทั้งหมดของตระกูลซูไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยเหรอ?เงื่อนไขนี้ตระกูลซูของพวกเรายอมรับไม่ได้แน่นอน!"
การแสดงออกของซูซื่อหมิงกำลังต่อต้านจนถึงขีดสูงสุดแล้วทนไม่ไหวจนต้องระเบิดออกมาแบบนั้น
เขาจำเป็นต้องแสดงท่าทางแบบนี้ออกมาเพื่อเตือนสวี่เฟิงเทียนถ้าหากสวี่เฟิงเทียนไม่มีการถอยหน่อยล่ะก็ดังนั้นแม้ว่าตระกูลซูจะต้องสู้จนตายพวกเขาก็ไม่สามารถตอบตกลงเงื่อนไขของสวี่เฟิงเทียนได้
"ผู้อาวุโสสวี่คุณน่าจะเข้าใจอย่างมากถ้าหากมีการศูนย์เสียงทรัพย์สินหนึ่งในสองจริงๆสิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรสำหรับตระกูลซูหมายความว่าเราจะถูกลดฐานะเป็นตระกูลอันดับสอง"
"แต่รูปแบบของตระกูลซูในก่อนหน้าผู้ติดต่อทั้งหมดล้วนแล้วอยู่ในตระกูลชั้นหนึ่งดังนั้นหากตระกูลซูกลายเป็นตระกูลรองลงมาจริงๆไม่สามารถอยู่รอดได้ในระดับของตระกูลชั้นสองแน่นอน"
ซูซื่อหมิงกัดฟันมีสีหน้าที่แสดงออกมาหน้าตาย"ดังนั้นเงื่อนไขนี้ตระกูลซูของพวกเราตอบตกลงไม่ได้แน่นอนต้องการทรัพย์สินหนึ่งในสองของพวกเรานั่นก็เหมือนกับส่งพวกเราไปตาย!"
"ตระกูลซูของพวกเรายอมสู้ให้ถึงที่สุด!"
เรียกได้ว่าการแสดงของซูซื่อหมิงนั้นจริงจังมากดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวดท่าทางที่มีความโกรธเป็นไฟราวกับว่าเพียงแค่สวี่เฟิงเทียนพูดไร้สาระอีกครั้งเขาจะสู้กับอีกฝ่ายให้ถึงที่สุดทันที
แต่ว่าสวี่เฟิงเทียนเป็นคนประเภทไหน?
กลอุบายแบบนี้ไม่สามารถหลอกสวี่เฟิงเทียนได้เขายิ้มเบาๆสายตาที่มองไปทางซูซื่อหมิงเหมือนกับลิงตัวหนึ่ง
"เจ้าบ้านตระกูลซูอย่าเพิ่งรนแบบนี้"
"คุณพูดว่าเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งตระคุณแล้วคุณจะตาย"
"แต่คุณเคยพิจารณาบ้างไหมความผิดพลาดที่ตระกูลซูของพวกคุณทำมันเป็นความผิดร้ายแรงในตัวตระกูลสวี่ล้วนแล้วไม่จำเป็นต้องมาเตือนพวกเขาคุณก็ได้คนที่มาในครั้งนี้ล้วนแล้วไม่จำเป็นต้องมีแค่พวกเราสองพี่น้อง"
"สามารถพูดได้ว่าเกรงว่าเงื่อนไขของพวกเราเป็นทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซูพวกคุณแต่ว่ามีการไว้ชีวิตสมาชิกตระกูลของพวกคุณทั้งหมดนี้เป็นความเมตตาของตระกูลสวี่ที่มีต่อพวกคุณแล้ว!"
สวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินก็ลุกขึ้นยืนเช่นกันจ้องมองลงไปที่ซูซื่อหมิงและพูด
"เจ้าบ้านตระกูลซูลองพิจารณาดูดีๆละกันถ้าหากคุณได้มีการตัดสินใจจริงๆแล้วต่อให้ตระกูลของพวกคุณจะให้ผู้น่านับถือทั้งสี่คนมาขัดขวางผู้อาวุโสและพี่น้องทั้งสองคนมันไม่สำคัญ"
"ถ้าหากพวกคุณสามารถหยุดได้ล่ะก็"
สวี่เฟิงเทียนพูดจบหันตัวต้องการไป
เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักตระกูลซูปรมาจารย์การต่อสู้สี่คนและพวกเขามีเพียงแค่สองคน
ถ้าหากทั้งสองฝ่ายมีการต่อสู้จริงๆล่ะก็จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าถ้าหากพวกเขาไม่มีการต่อสู้กับตระกูลซูแต่จะวิ่งหนีไปในลักษณะที่ไม่ชัดเจนบางทีตระกูลซูอาจจะไม่สามารถหยุดพวกเขาได้!
ต่อให้หยุดไว้ได้พวกเขายังสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้อีกยอมให้ตระกูลซูชดใช้น้อยลงหน่อย
ดังนั้นแม้ว่าจะได้รับคำเตือนจากซูซื่อหมิงแต่แรกแล้วก็ตามแต่ว่าสำหรับสวีเฟิงเทียนแล้วโดยพื้นฐานแล้วยังคงอยู่ในสภาพที่มีความมั่นใจ
นี่เป็นสาเหตุที่เขายังมีความหยิ่งผยองไม่มีการถอยแม้แต่นิดเดียว!
และฝ่ายของซูซื่อหมิงอยู่ในสภาพที่มีความสับสน
เขาก็รู้ว่าตระกูลของตัวเองมีปรมาจารย์การต่อสู้สี่คนมันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถขัดขวางสวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินทั้งสองคนได้ไหม
ท้ายที่สุดทั้งสองคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้นำระดับสูงในหมู่ปรมาจารย์การต่อสู้มีชื่อเสียงมาแต่ช้านาน
แต่ว่านี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขามีความสับสนมากที่สุด
ต่อให้หยุดไว้ได้เขาก็แค่สามารถหยุดปรมาจารย์การต่อสู้ได้สองคนเท่านั้นช่องว่างของความแข็งแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร
และตระกูลซูของพวกเขาก็จะเป็นการต่อต้านตระกูลสวี่โดยสิ้นเชิง
แม้ว่าเดิมทีพวกเขาจะเป็นศัตรูกับตระกูลสวี่อยู่แล้ว
แต่ว่าในเวลานั้นเป็นเพราะว่าการกลับมาของโจวหยางโจวหยางแสดงให้เห็นถึงด้านที่ทรงพลังและลึกลับรอบๆตัวมีปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ปรากฏตัวอีกสองสามคนเป็นระยะๆสิ่งนี้ทำให้ซูซื่อหมิงมั่นใจมาก
แต่ว่าตอนนี้โจวหยางหายตัวไปสองเดือนต่อให้หลังจากมีการกลับมาก็ไม่ได้มีการมาที่ตระกูลซูของพวกเขามีการแสดงออกมาที่ไม่มีความชัดเจนสิ่งนี้ทำให้ซูซื่อหมิงไม่กล้าตัดสินใจง่ายๆ
ท้ายที่สุดแล้วเขามีการกัดฟันเรียกให้สวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินอยู่ก่อน"ผู้อาวุโสสวี่หยุดก่อน"
"เมื่อกี้ฉันวู่วามไปหน่อยไม่ควรพูดคำพูดแบบนั้นออกมาขอให้ผู้อาวุโสสวี่ให้อภัยด้วย"
"ตระกูลซูของพวกเรายินดีตอบตกลงเงื่อนไขของพวกคุณตระกูลซูและตระกูลสวี่จะต้องเป็นเพื่อนกัน"
ซูซื่อหมิงพูดด้วยใบหน้าที่ทรุดโทรม
ตอบตกลงสวี่เฟิงเทียนจากนี้ไปตระกูลซูของพวกเขาสามารถถือได้ว่าเป็นตระกูลชั้นสอง
และใบหน้าของสวี่เฟิงเทียนกลับแสดงออกมาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ในเวลานี้ซูเหว่ยบุกเข้ามาอย่างกะทันหัน
เขาเพียงแค่เข้ามาก็ร้องพูดเสียงดัง"คุณพ่ออย่าตอบตกลงพวกเขา!"
"พวกเรายังมีลูกพี่อยู่นะถ้าตอบตกลงพวกเขาตระกูลซูของพวกเราจะต้องจบแน่แต่ว่าเพียงแค่รอให้ลูกพี่โจวหยางกลับมาพวกเราก็สามารถเหยียบตระกูลสวี่ได้แน่นอนเมื่อถึงเวลานั้นตระกูลซูของพวกเราถึงนับได้ว่าเป็นตระกูลซูนะ!"ซูเหว่ยพูดด้วยความจริงใจ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของซูเหว่ยทั้งสามคนในสนามต่างตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
จากนั้นมีรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของสวี่เฟิงเทียนออกมา
"ท่านนี้ก็คือคุณชายใช่ไหม?"
สวี่เฟิงเทียนพูดช้าๆ"มองดูแล้วเหมือนว่าสมองยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นะจนถึงตอนนี้แล้วยังเชื่อใจโจวหยางที่เป็นขยะคนนั้นอีก"
"ตระกูลซูของพวกคุณทำไหมถึงสอนทายาทที่ไร้เหตุผลคนหนึ่งแบบนี้ออกมา?ยังมีการเรียกโจวหยางว่าลูกพี่อีกเขาโจวหยางก็เป็นเพียงแค่เศษขยะคนหนึ่งเท่านั้น!"
"ที่มีการร่วมมือกับตระกูลซูของพวกคุณนั่นน่าจะเป็นได้เพียงแค่ลูกน้องของพวกคุณได้เท่านั้นทำไหมยังสามารถเป็นลูกพี่ของพวกคุณได้ล่ะ?"
"เจ้าบ้านตระกูลซูฉันขอแนะนำคุณเลยนะจะต้องดูแลคุณชายให้ดีสักหน่อยไม่อย่างนั้นล่ะก็เกรงว่าตระกูลซูในไม่ช้าสักวันจะต้องถูกทำลายด้วยมือของเขาแน่นอน!"
สวี่เฟิงเทียนเพิ่งจะพูดจบโจวหยางก็เดินเข้ามา
แม้ว่าเขาจะได้รับการเตือนจากซูซื่อหมิงก็ตามแต่เขายังคงหยิบยกเงื่อนไขที่มันมากเกินออกมา
นอกจากนี้ยังต้องการทรัพย์สินหนึ่งในสองมันไม่ต่างจากการทำลายตระกูลเลย
ถ้าหากตระกูลซูไม่ตอบตกลงเงื่อนไขล่ะก็มีความเป็นไปได้มากที่จะถูกทำลายตระกูล!
สวี่เฟิงเทียนเชื่อว่าจากในด้านนี้ซูซื่อหมิงสามารถเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด
ในเวลาเดียวกันเขาคิดว่าเงื่อนไขของตัวเองไม่มากเกินไป
"เจ้าบ้านตระกูลซู?ตกลงคุณหมายความว่ายังไง?"
"ตกลงต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลสวี่ของพวกเราจริงๆเหรอ?"
สวี่เฟิงเทียนได้มีการพูดต่อ"ถ้าหากคุณได้มีการตัดสินใจแล้วตอนนี้คุณสามารถเรียกปรมาจารย์การต่อสู้ทั้งสี่ของตระกูลซูของคุณมาได้ดูสิว่าจะสามารถจัดการผู้อาวุโสสองคนได้ไหม"
"แต่ว่ามีอยู่จุดหนึ่งที่มีความชัดเจนอย่างมากไม่ว่าคุณจะสามารถหยุดผู้อาวุโสสองคนได้หรือไม่ตระกูลซูของพวกคุณในวันรุ่งขึ้นจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นอย่างแน่นอน"
ถ้าหากตระกูลสวี่ลงมือเต็มกำลังจริงๆทำลายตระกูลชั้นหนึ่งอย่างตระกูลซูแบบนี้มันเป็นเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืนจริงๆ
สวี่เฟิงเทียนไม่ได้พูดเว่อร์เกินไป
ซูซื่อหมิงมีการกัดฟันพูดด้วยการดิ้นรน"ผู้อายุโสสวี่อย่าบีบบังคับฉันเลย"
"ตระกูลซูของพวกเรามีความจริงใจแน่นอนในก่อนหน้าพวกเราเคยพูดว่าต้องการทำลายตระกูลสวี่ออกมาแบบนั้นจริงๆในเวลาเดียวกันพวกเราก็ยินดีชดใช้เรื่องทั้งหมด"
"แต่ว่าคุณพูดว่าต้องการอุตสาหกรรมหนึ่งในสองทั้งหมดของตระกูลซูไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยเหรอ?เงื่อนไขนี้ตระกูลซูของพวกเรายอมรับไม่ได้แน่นอน!"
การแสดงออกของซูซื่อหมิงกำลังต่อต้านจนถึงขีดสูงสุดแล้วทนไม่ไหวจนต้องระเบิดออกมาแบบนั้น
เขาจำเป็นต้องแสดงท่าทางแบบนี้ออกมาเพื่อเตือนสวี่เฟิงเทียนถ้าหากสวี่เฟิงเทียนไม่มีการถอยหน่อยล่ะก็ดังนั้นแม้ว่าตระกูลซูจะต้องสู้จนตายพวกเขาก็ไม่สามารถตอบตกลงเงื่อนไขของสวี่เฟิงเทียนได้
"ผู้อาวุโสสวี่คุณน่าจะเข้าใจอย่างมากถ้าหากมีการศูนย์เสียงทรัพย์สินหนึ่งในสองจริงๆสิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรสำหรับตระกูลซูหมายความว่าเราจะถูกลดฐานะเป็นตระกูลอันดับสอง"
"แต่รูปแบบของตระกูลซูในก่อนหน้าผู้ติดต่อทั้งหมดล้วนแล้วอยู่ในตระกูลชั้นหนึ่งดังนั้นหากตระกูลซูกลายเป็นตระกูลรองลงมาจริงๆไม่สามารถอยู่รอดได้ในระดับของตระกูลชั้นสองแน่นอน"
ซูซื่อหมิงกัดฟันมีสีหน้าที่แสดงออกมาหน้าตาย"ดังนั้นเงื่อนไขนี้ตระกูลซูของพวกเราตอบตกลงไม่ได้แน่นอนต้องการทรัพย์สินหนึ่งในสองของพวกเรานั่นก็เหมือนกับส่งพวกเราไปตาย!"
"ตระกูลซูของพวกเรายอมสู้ให้ถึงที่สุด!"
เรียกได้ว่าการแสดงของซูซื่อหมิงนั้นจริงจังมากดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวดท่าทางที่มีความโกรธเป็นไฟราวกับว่าเพียงแค่สวี่เฟิงเทียนพูดไร้สาระอีกครั้งเขาจะสู้กับอีกฝ่ายให้ถึงที่สุดทันที
แต่ว่าสวี่เฟิงเทียนเป็นคนประเภทไหน?
กลอุบายแบบนี้ไม่สามารถหลอกสวี่เฟิงเทียนได้เขายิ้มเบาๆสายตาที่มองไปทางซูซื่อหมิงเหมือนกับลิงตัวหนึ่ง
"เจ้าบ้านตระกูลซูอย่าเพิ่งรนแบบนี้"
"คุณพูดว่าเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งตระคุณแล้วคุณจะตาย"
"แต่คุณเคยพิจารณาบ้างไหมความผิดพลาดที่ตระกูลซูของพวกคุณทำมันเป็นความผิดร้ายแรงในตัวตระกูลสวี่ล้วนแล้วไม่จำเป็นต้องมาเตือนพวกเขาคุณก็ได้คนที่มาในครั้งนี้ล้วนแล้วไม่จำเป็นต้องมีแค่พวกเราสองพี่น้อง"
"สามารถพูดได้ว่าเกรงว่าเงื่อนไขของพวกเราเป็นทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซูพวกคุณแต่ว่ามีการไว้ชีวิตสมาชิกตระกูลของพวกคุณทั้งหมดนี้เป็นความเมตตาของตระกูลสวี่ที่มีต่อพวกคุณแล้ว!"
สวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินก็ลุกขึ้นยืนเช่นกันจ้องมองลงไปที่ซูซื่อหมิงและพูด
"เจ้าบ้านตระกูลซูลองพิจารณาดูดีๆละกันถ้าหากคุณได้มีการตัดสินใจจริงๆแล้วต่อให้ตระกูลของพวกคุณจะให้ผู้น่านับถือทั้งสี่คนมาขัดขวางผู้อาวุโสและพี่น้องทั้งสองคนมันไม่สำคัญ"
"ถ้าหากพวกคุณสามารถหยุดได้ล่ะก็"
สวี่เฟิงเทียนพูดจบหันตัวต้องการไป
เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักตระกูลซูปรมาจารย์การต่อสู้สี่คนและพวกเขามีเพียงแค่สองคน
ถ้าหากทั้งสองฝ่ายมีการต่อสู้จริงๆล่ะก็จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าถ้าหากพวกเขาไม่มีการต่อสู้กับตระกูลซูแต่จะวิ่งหนีไปในลักษณะที่ไม่ชัดเจนบางทีตระกูลซูอาจจะไม่สามารถหยุดพวกเขาได้!
ต่อให้หยุดไว้ได้พวกเขายังสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้อีกยอมให้ตระกูลซูชดใช้น้อยลงหน่อย
ดังนั้นแม้ว่าจะได้รับคำเตือนจากซูซื่อหมิงแต่แรกแล้วก็ตามแต่ว่าสำหรับสวีเฟิงเทียนแล้วโดยพื้นฐานแล้วยังคงอยู่ในสภาพที่มีความมั่นใจ
นี่เป็นสาเหตุที่เขายังมีความหยิ่งผยองไม่มีการถอยแม้แต่นิดเดียว!
และฝ่ายของซูซื่อหมิงอยู่ในสภาพที่มีความสับสน
เขาก็รู้ว่าตระกูลของตัวเองมีปรมาจารย์การต่อสู้สี่คนมันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถขัดขวางสวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินทั้งสองคนได้ไหม
ท้ายที่สุดทั้งสองคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้นำระดับสูงในหมู่ปรมาจารย์การต่อสู้มีชื่อเสียงมาแต่ช้านาน
แต่ว่านี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขามีความสับสนมากที่สุด
ต่อให้หยุดไว้ได้เขาก็แค่สามารถหยุดปรมาจารย์การต่อสู้ได้สองคนเท่านั้นช่องว่างของความแข็งแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร
และตระกูลซูของพวกเขาก็จะเป็นการต่อต้านตระกูลสวี่โดยสิ้นเชิง
แม้ว่าเดิมทีพวกเขาจะเป็นศัตรูกับตระกูลสวี่อยู่แล้ว
แต่ว่าในเวลานั้นเป็นเพราะว่าการกลับมาของโจวหยางโจวหยางแสดงให้เห็นถึงด้านที่ทรงพลังและลึกลับรอบๆตัวมีปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ปรากฏตัวอีกสองสามคนเป็นระยะๆสิ่งนี้ทำให้ซูซื่อหมิงมั่นใจมาก
แต่ว่าตอนนี้โจวหยางหายตัวไปสองเดือนต่อให้หลังจากมีการกลับมาก็ไม่ได้มีการมาที่ตระกูลซูของพวกเขามีการแสดงออกมาที่ไม่มีความชัดเจนสิ่งนี้ทำให้ซูซื่อหมิงไม่กล้าตัดสินใจง่ายๆ
ท้ายที่สุดแล้วเขามีการกัดฟันเรียกให้สวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินอยู่ก่อน"ผู้อาวุโสสวี่หยุดก่อน"
"เมื่อกี้ฉันวู่วามไปหน่อยไม่ควรพูดคำพูดแบบนั้นออกมาขอให้ผู้อาวุโสสวี่ให้อภัยด้วย"
"ตระกูลซูของพวกเรายินดีตอบตกลงเงื่อนไขของพวกคุณตระกูลซูและตระกูลสวี่จะต้องเป็นเพื่อนกัน"
ซูซื่อหมิงพูดด้วยใบหน้าที่ทรุดโทรม
ตอบตกลงสวี่เฟิงเทียนจากนี้ไปตระกูลซูของพวกเขาสามารถถือได้ว่าเป็นตระกูลชั้นสอง
และใบหน้าของสวี่เฟิงเทียนกลับแสดงออกมาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ในเวลานี้ซูเหว่ยบุกเข้ามาอย่างกะทันหัน
เขาเพียงแค่เข้ามาก็ร้องพูดเสียงดัง"คุณพ่ออย่าตอบตกลงพวกเขา!"
"พวกเรายังมีลูกพี่อยู่นะถ้าตอบตกลงพวกเขาตระกูลซูของพวกเราจะต้องจบแน่แต่ว่าเพียงแค่รอให้ลูกพี่โจวหยางกลับมาพวกเราก็สามารถเหยียบตระกูลสวี่ได้แน่นอนเมื่อถึงเวลานั้นตระกูลซูของพวกเราถึงนับได้ว่าเป็นตระกูลซูนะ!"ซูเหว่ยพูดด้วยความจริงใจ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของซูเหว่ยทั้งสามคนในสนามต่างตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
จากนั้นมีรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของสวี่เฟิงเทียนออกมา
"ท่านนี้ก็คือคุณชายใช่ไหม?"
สวี่เฟิงเทียนพูดช้าๆ"มองดูแล้วเหมือนว่าสมองยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นะจนถึงตอนนี้แล้วยังเชื่อใจโจวหยางที่เป็นขยะคนนั้นอีก"
"ตระกูลซูของพวกคุณทำไหมถึงสอนทายาทที่ไร้เหตุผลคนหนึ่งแบบนี้ออกมา?ยังมีการเรียกโจวหยางว่าลูกพี่อีกเขาโจวหยางก็เป็นเพียงแค่เศษขยะคนหนึ่งเท่านั้น!"
"ที่มีการร่วมมือกับตระกูลซูของพวกคุณนั่นน่าจะเป็นได้เพียงแค่ลูกน้องของพวกคุณได้เท่านั้นทำไหมยังสามารถเป็นลูกพี่ของพวกคุณได้ล่ะ?"
"เจ้าบ้านตระกูลซูฉันขอแนะนำคุณเลยนะจะต้องดูแลคุณชายให้ดีสักหน่อยไม่อย่างนั้นล่ะก็เกรงว่าตระกูลซูในไม่ช้าสักวันจะต้องถูกทำลายด้วยมือของเขาแน่นอน!"
สวี่เฟิงเทียนเพิ่งจะพูดจบโจวหยางก็เดินเข้ามา
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved