บทที่ 860 จิ้งจอกเฒ่าสองตัว!

ซูซื่อหมิงมองไปที่ซูเฟิงเทียนด้วยความลำบากใจเล็กน้อยและพูดว่า"ผู้เฒ่าสวี่ฉันไม่อยากโกหกฉันอยาดชี้แจงสิ่งที่คุณพูด"

"นั่นไม่ใช่ข่าวลือ"

"ฉันได้เข้าร่วมกองกำลังกับโจวหยางและก็เคยได้ปล่อยคำพูดออกมาว่าจะทำลายตระกูลสวี่"

ซูซื่อหมิงกล่าวตรงๆ

ไม่มีทางเขาไม่สามารถปลอมสิ่งนี้ได้เพราะคนทั้งโลกรู้ว่าเขาซูซื่อหมิงเคยพูดเรื่องนี้อย่างชัดเจน

แต่เขาก็ปากร้ายมากและนำร่วมมือกับโจวหยางพูดเป็น"เคยร่วมมือ"ความหมายก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เคยร่วมมือกันไม่ได้หมายความว่าตอนนี้พวกเขายังคงร่วมมือกันอยู่!

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามที่ยากลำบากของซูเฟิงเทียนซูซื่อหมิงเลือกที่จะเล่นเกมคำศัพท์

แต่เขายังคงพึมพำอยู่ในใจตระกูลสวี่ส่งปรมาจารย์การต่อสู้มาเพียงสองคนมาไม่ใช่หรือที่จะดึงความสัมพันธ์กัน

ดึงความสัมพันธ์เข้ากันแล้วทำไมต้องพูดคำแรงๆแบบนี้?ควรเป็นมิตรมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ?

ตอนนี้ท่าทีเช่นนี้ดูเหมือนจะมากล่าวโทษกันแต่ถ้าแค่มาถามสอบปากคำแล้วจะส่งปรมาจารย์การต่อสู้มาเพียงสองคนคืออะไร?

แม้ว่าคนทั้งโลกจะรู้ว่าซูซื่อหมิงเคยได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะทำลายตระกูลสวี่แต่ถ้าในครั้งนี้ซูเฟิงเทียนไม่พูดถึงทุกคนก็สามารถแสร้งทำเป็นว่าพวกเขาไม่รู้

เมื่อถึงเวลาตระกูลสวี่จะดึงความสัมพันธ์ตามประสงค์และซูซื่อหมิงก็ถือโอกาสทำตามมันเป็นความร่วมมือที่ดีไม่ใช่หรือ?

แล้วทำไมต้องเกร็งขนาดนี้?

ซูซื่อหมิงไม่ค่อยเข้าใจ

เมื่อซูเทียนเฟิงหลังจากได้ยินคำพูดของซูซื่อหมิงเขาก็หรี่ตาอย่างมีความหมาย

"แน่นอนว่าเจ้าบ้านตระกูลซูเคยพูดประโยคนี้แล้วคุณเข้าใจไหมที่พูดประโยคนี้หมายความว่าอย่างไรสื่อถึงอะไรกันแน่?"

ซูซื่อหมิงตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

คำพูเสิ่งนี้หมายความว่าอะไร?

เป็นไปได้ไหมที่ตระกูลสวี่นี้ไม่ได้มาเพื่อดึงความสัมพันธ์ชิดกันแต่เพื่อมาสอบสวน?

ถ้าหากเป็นการถามความผิดเขาซูซื่อหมิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนหยัดอยู่ข้างโจวหยางต่อไป

ถ้าเป็นทางเลือกนี้วันนี้สวี่เฟิงเทียนและสวี่เทียนจวินสองปรมาจารย์การต่อสู้ก็อย่าคิดที่จะกลับไป!

ใบหน้าที่ดุร้ายฉายประกายในดวงตาของซูซื่อหมิงแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจและถามว่า"ผู้เฒ่าสวี่หมายความว่าอย่างไร?วันนี้ที่คุณมาที่นี่เพื่อความผิดเหรอ?"

สวี่เฟิงเทียนหรี่ตาของเขาอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทางของซูซื่อหมิงเขารู้ว่าน่าจะมาถึงขีดจำกัดแล้วและไม่สามารถระงับมันต่อไปได้

จากนั้นก็ยิ้มกว้าง"เจ้าบ้านตระกูลซูอย่าตื่นเต้นสิ"

"ตระกูลสวี่มาที่นี่ในวันนี้เพื่อสอบถามแต่ไม่ใช่เพื่อสอบถามแต่เพื่อเป็นเพื่อนกัน"

"ทั้งโลกรู้ดีว่าเจ้าบ้านตระกูลซูบอกว่าจะทำลายตระกูลสวี่ของเราถ้าคุณไม่ให้คำอธิบายกับเราในเรื่องนี้งั้นครอบครัวสวี่ของเราก็ไม่สามารถเป็นมนุษย์ได้คุณเข้าใจสิ่งนี้นะ"

ซูซื่อหมิงผงะครู่หนึ่งทำไมในตอนนี้เขาถึงเริ่มพูดดีๆอีกครั้ง?

พูดดีๆก็พูดแต่แรกสิทำอย่างเมื่อกี้ทำไม?กูแทบอดไม่ได้ที่จะให้คนมาฆ่าพวกคุณละ!

สวี่เฟิงเทียนกล่าวต่อว่า"ตระกูลสวี่เป็นตระกูลที่ซ่อนเร้นการถือกำเนิดครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวของครอบครัวฆราวาสจำนวนมากเราก็ไม่ใช่ไม่สามารถเข้าใจได้"

"แต่ถึงเป็นอย่างนั้นศักดิ์ศรีของตระกูลที่ซ่อนเร้นก็ยังไม่ยอมให้มีการท้าทาย"

"เนื่องจากเจ้าบ้านตระกูลซูกล่าวถ้อยคำที่ไร้สาระว่าจะทำลายตระกูลสวี่ของเราเขาก็ต้องจ่ายในราคาที่สอดคล้องกันคุณเข้าใจไหม?"

ซูซื่อหมิงเข้าใจอย่างแผ่วเบาว่าสวี่เฟิงเทียนหมายถึงอะไร

เป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์!

ในตอนแรกเขามีท่าทีที่จะถามหาความผิดและจากนั้นในการสนทนาครั้งต่อมาเขายังย้ำตลอดเวลาว่าตระกูลซูเคยพูดว่าจะทำลายตระกูลสวี่

จุดประสงค์ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้ตระกูลซูตกอยู่ในความตื่นตระหนกซึ่งเป็นสถานะที่รู้สึกอยู่เสมอว่าซิงโกรธตระกูลสวี่และต้องการชดเชย

ต่อไปเขาก็ขอทำเงื่อนไขที่มากเกินไปทุกประเภท

ซูซื่อหมิงแอบระแวดระวังในใจแต่ภายนอกเขาถามว่า"โอ้?ตอนนี้ผู้เฒ่าสวี่พูดเช่นนั้นฉันสามารถถามได้ไหมหลังจากพูดแบบนั้นแล้วตระกูลซูของเราจะชดเชยอย่างไร?"

"กำจัดตระกูล!"สวี่เฟิงเทียนค่อยๆพ่นคำสองคำออกมา

"การกำจัดตระเล็กๆอย่างกูลซูสำหรับตระกูลสวี่ของเรามันสบายมากคิดว่าเจ้าบ้านตระกูลซูคงไม่สงสัยในเรื่องนี้"

สวี่เฟิงเทียนกดดันซูซื่อหมิงอีกครั้ง

"ตั้งแต่คุณกล้าที่จะยั่วยุศักดิ์ศรีของตระกูลสวี่ถ้าพวกเราไม่ลงโทษตระกูลซูคุณอย่างรุนแรงแล้วต่อไปใครจะเอาตระกูลสวี่ที่ซ่อนเร้นไว้ในสายตา?"

"ตระกูลสวี่ของเราจะตั้งหลักในตงไห่อย่างไรในอนาคต?ดังนั้นจึงเป็นเรื่องแน่นอนที่จะกำจัดตระกูลซูของพวกคุณ"

ซูเฟิงเทียนกล่าวเป็นคำสุดท้ายจากนั้นก็จับตาดูใบหน้าของซูซื่อหมิงอย่างเงียบๆ

แต่ใบหน้าของซูซื่อหมิงไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

เพราะเขาคาดเดาได้แล้วว่าสวี่เฟิงเทียนจะพูดเช่นนี้

ซูซื่อหมิงจึงกล่าวโดยไม่รู้สึกเจ็บหรือคัน"ฟังดูเหมือนจะร้ายแรงแต่ผู้เฒ่าสวี่ถ้าต้องการกำจัดตระกูลซูของเรางั้นพวกคุณทั้งสองก็ยังคงไม่มีคุณสมบัติ"

ซูซื่อหมิงกล่าวอย่างใจเย็นว่า"มันอาจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับตระกูลสวี่ในตระกูลซ้อนเร้นที่จะทำลายตระกูลซูของเราแต่อย่างน้อยก็ควรส่งปรมาจารย์การต่อสู้มามากกว่านี้"


"เพราะประเมินตระกูลซูต่ำไปถึงส่งมาเพียงหนึ่งหรือสองคนฉันเกรงว่าจะไม่กลับไปไม่ได้อีก"

ในคำเหล่านี้มีสัมผัสของภัยคุกคามอยู่ในนั้น

ถ้าส่งมาแค่หนึ่งหรือสองคนมีโอกาสมากที่จะไม่กลับไปไม่ได้อีกหมายความว่าอย่างไร?

ตอนนี้ตระกูลสวี่ส่งปรมาจารย์การต่อสู้มาเพียงสองคนคือสวี่เฟิงเทียนและสวี่เฟิงจวินซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าพวกเขา!

เป็นไปได้ไหมที่สองคนนี้จะไม่มีวันกลับไปได้อีก?

ถ้าหากสวี่เฟิงเทียนยังคงคุกคามซูซื่อหมิงก็กล้าที่จะทำให้พวกเขามาแต่กลับไม่ได้!

โดยพื้นฐานแล้วไม่มีการปกปิดภัยคุกคามนี้ในฐานะจิ้งจอกเฒ่าสวี่เฟิงเทียนเข้าใจมันทั้งหมดในครั้งเดียวโดยธรรมชาติ

หลังจากสวี่เฟิงเทียนที่เข้าใจแล้วเขาก็แอบด่าในใจว่าซูซื่อหมิงเป็นจิ้งจอกเฒ่า

ตามความคิดของเขาตอนนี้ซูซื่อหมิงน่าจะตื่นตระหนกและควรจะถามเขาอย่างใจจดใจจ่อว่าจะทำอย่างไรจากนั้นเขาก็จะเรียกร้องอะไรบางอย่างมากเกินไปอย่างมีเหตุผล

แต่เห็นได้ชัดว่าซูซื่อหมิงมองเห็นความตั้งใจของเขาและไม่ปฏิบัติตามบทของเขา

"จิ้งจอกเฒ่า!"

ในเวลาเดียวกันซูซื่อหมิงและสวี่เฟิงเทียนแอบด่ากันและกันในใจ

ในความเป็นจริงทุกคนคือผู้บริหารหลักของตระกูลใหญ่ในบทสนทนาพื้นฐานแบบนี้ทุกคนเป็นจิ้งจอกเฒ่าและโดยทั่วไปไม่มีความแตกต่างกันมากนัก

มันเป็นสุนัขจิ้งจอกที่มีอายุมากไม่ใช่เรื่องผิดแต่พวกเขาต้องรวมตัวกันเพื่อเล่นแชทนั่นเป็นความผิดของพวกเขาสถานการณ์ปัจจุบันได้ตกอยู่ในความลำบากใจแล้ว

"ฮ่าฮ่าเจ้าบ้านตระกูลซูคุณกังวลเกินไปแล้วที่จริงพวกเรามาที่นี่ครั้งนี้เพื่อบอกคุณว่าพวกเราไม่เคยคิดที่จะทำลายตระกูลซู!"