บทที่ 6 ความภาคภูมิใจของฉัน

by หลิงหยุน 10:16,Nov 30,2020
ในตอนนี้เฉินจวิ้นเซิงและคนอื่นๆได้โดนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดโยนออกจากคลับหยินหู

พวกเขา 4 คนได้นอนกองอยู่บนพื้นพร้อมกับความเจ็ปตามร่างกาย พวกเขาแปลกใจ:”เกิดอะไรขึ้น ทำไหมยกเลิกการเป็นสมาชิกของพวกเรา”

เลือดกำเดาของเฉินจวิ้นเซิงได้หยุดลง นักลงทุนคนอื่นๆได้มองหน้ากันอย่างมึนงง

ได้มีเจ้านายคนนึงพูด:”ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ต่อจากนี้ไปกลัวจะไม่มีใครกล้ามาทำธุรกิจกับฉันอีก....”

เฉินจวิ้นเซิงทำหน้ากังวลแล้วพูด:”ฉันคิดว่าต้องมีหนึ่งในพวกเราแน่ ก่อนหน้าได้ล่วงเกินประธานเฉิน เรื่องนี้ต้องสืบหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะทำให้ประธานเฉินโมโหอีก”

อีกสามคนได้แต่พะงกหัว พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเฉินจวิ้นเซิงเป็นคนทำให้ออกจากการเป็นสมาชิก ได้แต่ก้มหน้าลงแล้วเดินจากไป

ยังไงก็ตาม พวกเขาคิดไม่ถึงแน่นอนการที่ถูกยกเลิกสมาชิกนั้น เพราะว่าพวกเขาได้ล่วงเกินประธานเฉินที่พวกเขาไม่เคยคิดแม้แต่จะสนใจได้ด้วยซ้ำ

กลับถึงบ้าน โจวหยางได้อุ้มเซี่ยะหลิงอวี้ไปที่ห้องนอนและวางลง เมื่อเห็นเขาไม่มีไรผิดปกติ ก็กลับไปนอนที่ห้องหนังสือ

ช่วงกลางดึก เมื่อฤทธิ์ยาของเซี่ยะหลิงอวี้หมด เขาก็ได้ตื่นขึ้นมา

เธอรู้สึกปวดหัว ใช้เวลาสักพักกว่าจะนึกออกว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้

ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองนั้นได้ถูกคนอื่นวางยา

ยังดีที่โจวหยางได้ปรากฏตัวในเวลานั้น ไม่อยากจะนึกถึงเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เซี่ยะหลิงอวี้ได้ถอนหายใจแล้วลุกขึ้นนั่ง อยากจะเดินไปดูโจวหยาง ลังเลสักพักแล้วก็นอนลง

เฉินจวิ้นเซิงรู้สึกไม่สบายใจกับเขา คู่แข่งก็เอาแต่ไล่บี้ หนี้ธนาคารก็จะครบกำหนด ตอนนี้เธอได้ถูกล้อมรอบไปด้วยเรื่องที่ทำให้กังวลใจ

ตอนรู้เขารู้แล้วว่าเข้าใจผิดโจวหยาง แต่เธอก็ได้แต่คิดในใจแล้วแอบร้องไห้

เพราะว่าเธอก็ยังอยากจะให้บริษัทได้ฟื้นตัว

วันพรุ่งนี้ ยังไงฉันก็ต้องไปคุยกับเฉินจวิ้นเซิงแบบไม่เต็มใจ และก็ต้องระวังตัวให้มากขึ้น ไหนยังจะต้องทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

เพราะว่าผู้ชายคนนี้ อาจจะเป็นคนสุดท้ายที่สามารถช่วยฉันได้

เฉินจวิ้นเซิงหลงใหลในร่างกายของเธอ ทำไหมเขาถึงจะไม่รู้

แต่เธอไม่คิดเลยว่าเฉินจวิ้นเซิงจะถึงขั้นวางยาใส่เธอ

ความคิดมากมายได้แวบเข้ามาในใจเธอ แต่แล้วเซี่ยะหลิงอวี้ก็หลับไป

..........

ค่ำคืนนี้ โจวหยางก็หลับไม่ลงสักที

เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นเรื่องเพ้อฝันเกินไป และเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงเลย

และสิ่งที่เกิดวันนี้ก็เป็นเรื่องทั่วไป ดูเหมือนจะจริง

เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองอีเมล์ที่จ้าวถ่งส่งมา ได้ปรากฏบริษัทนับหมื่นชื่อ ดูไปทีละชื่อ เขาประหลาดใจที่พบว่าบริษัทเหล่านี้ล้วนมีชื่อเสียงอย่างมาก.......

โอ้วพระเจ้า!

ที่แท้โจวกรุ๊ปเป็นถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ค่อยหนุนหลังบริษัทชั้นนำของโลก ควบคุมบริษัทที่มีชื่อเสียงไม่รู้เท่าไหร่

ระหว่างที่เปิดดู โจวหยางได้มองไปเห็นชื่อบริษัทที่คุ้นเคย

ห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาของสแตนฟอร์ด

บริษัทแห่งนี้ เป็นห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาอันดับต้น ๆ ของโลก มีผู้ได้รับรางวัลโนเบลหลายคนและมีความสามารถในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เก่งมาก

พวกเขามีสิทธิบัตรความสำเร็จด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนไหน อาจทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากในด้านต่างๆ

ยาที่พวกเขาได้พัฒนาขึ้นเป็นถึงยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก!

ปัจจัยทางชีวภาพที่มีเทคโนโลยีสูงของพวกเขา ปัจจัยด้านไวท์เทนนิ่งและต่อต้านริ้วรอยที่ดีสุดของโลก

โจวหยางยังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัทเครื่องสำอางทั่วโลก ได้แข่งขันกันเพื่อจะคว้าสิทธิบัตรนี้ เพราะว่าถ้าใครสามารถคว้าสิทธิบัตรนี้ได้ เขาก็จะเป็นบริษัทเครื่องสำอางอันดับหนึ่งของโลก

โจวหยางอยู่ที่บริษัทหมิงหยาง เป็นบริษัทเครื่องสำอางท้องถิ่นที่ใหญ่แห่งหนึ่งของจีน แต่บริษัทหมิงหยางก็ได้แต่คิดเรื่องสิทธิบัตรเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน เพราะไม่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ชั้นนำของโลกได้

สำหรับบริษัทเสริมความงามของเซี่ยะหลิงอวี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ความสามารถของบริษัทเธออ่อนแอเกินไป ถึงแม้จะได้สิทธิบัตรนั้นมา ด้านการผลิต กระบวนการผลิต คุณภาพและมาตราฐานก็ไม่ผ่านอยู่ดี

แต่เวลานั้น เขาได้แต่งงานกับเซี่ยะหลิงอวี้ อยากจะไปช่วยบริษัทของเซี่ยะหลิงอวี้ แต่ว่าเขากลัวว่าสามีภรรยาทำงานด้วยกันที่บริษัทจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เลยไม่อยากให้เขาไปช่วย

แต่ว่าเพื่อจะช่วยเซี่ยะหลิงอวี้ โจวหยางก็ได้คิดที่จะไปทำงานบริษัทเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียงกว่า หวังว่าจะได้สะสมประสบการณ์ที่ดีขึ้น ภายหลังอาจจะมีประโยชน์ต่อเซี่ยะหลิงอวี้บ้าง

ดังนั้น เขาถึงรู้การมีอยู่ของห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาสแตนฟอร์ด

คิดไม่ถึงเลยว่าห้องปฏิบัติการทางชีววิทยานี้ ปรากฎว่าเป็นของโจวกรุ๊ป!

ทันใดนั้นหัวใจของโจวหยางก็เต็มไปด้วยความคิดที่น่าตื่นเต้น!

ทำไหมฉันถึงไม่เอาสิทธิบัตรนี้มาล่ะ หลังจากนั้นก็เอาสิทธิบัตรนี้ไปเจรจาทำธุรกิจกับบริษัทหมิงหยาง

บริษัทหมิงหยางฝันที่อยากจะได้รับสิทธิบัตรนี้ ถ้าเกิดฉันไปคุยกับเขา พวกเขาอาจจะชอบก็ได้

ถึงเวลานั้น ฉันก็ขอเป็นผู้รับผิดชอบในโครงการนี้เลย แล้วก็ขอเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หลังจากนั้นก็ดึงบริษัทของเซี่ยะหลิงอวี้เข้ามาร่วม ถ้าเป็นแบบนี้ บริษัทของเซี่ยะหลิงอวี้ก็สามารถเชิดหน้าชูตาได้

คิดถึงตรงนี้ เขาก็หาวิธีการติดต่อห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาของสแตนฟอร์ดทันที ส่งข้อความไปหาเขา:

“ฉันคือโจวหยาง ฉันต้องการสิทธิบัตรด้านการต่อต้านริ้วรอยและจดสิทธิบัตรภายใต้ชื่อของฉันในทันที”

เขาตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว :”คุณชาย สิทธิบัตรนี้จะถูกจดโดยชื่อของคุณในไม่กี่นาที”

เวลาผ่านไปสักพัก โจวหยางก็ได้รับข้อความ เปิดอ่านข้อความ ที่แท้เป็นข้อความจากการจดสิทธิบัตรระหว่างประเทศ ห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาของสแตนฟอร์ดสิทธิบัตรด้านไวท์เทนนิ่งและต่อต้านริ้วรอยถูกโอนไปเป็นชื่อของเขา ฉันก็ได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ถือสิทธิบัตรนี้แล้ว

โจวหยางรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

เมื่อโครงการนี้เริ่มขึ้น จะต้องมรายได้ปีละพันล้านแน่เลย ไม่แน่อาจจะไปถึงขั้นมีคนนิยมใช้อย่างแพร่หลาย

พอถึงเวลานั้น บริษัทความงามเยว่จี๋ของเซี่ยะหลิงอวี้ จะผ่านโครงการนรกนี้อย่างแน่นอน

สิทธิบัตรของห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาของสแตนฟอร์ดเยอะมาก เหมาะที่จะนำสิทธิบัตรด้านเครื่องสำอางมาใช้ก็มีเยอะ รอให้เซี่ยะหลิงอวี้มีอำนาจมากขึ้นก่อน ฉันค่อยคว้าสิทธิบัตรที่มากขึ้นให้เขา ให้เขาไปทำเองเลย!

ถ้าเป็นแบบนี้ บริษัทความงามเยว่จี๋ของเซี่ยะหลิงอยี้ ไม่แน่อาจจะได้เป็นถึงที่หนึ่งของโลกเลย

ในสายตาของเซี่ยะหลิงอวี้ ฉันเป็นเพียงสามีที่ไม่มีความสามารถเลย แต่เขาคิดไม่ถึงแน่นอน ฉันจะเป็นทายาทของโจวกรุ๊ปและที่จริงฉันเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมมากมาย และมีอุปกรณ์ไฮเทคที่จดสิทธิบัตรสามารถช่วยเขาได้

หลิงอวี้!นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันก็จะไม่ใช่สามีที่ไม่ได้เรื่องอีกต่อไป!

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า เธอมีสามีที่เก่งที่สุดในโลกอยู่!

ฉัน โจวหยางขอสัญญาว่า ฉันจะทำให้เธอภูมิใจในตัวของฉัน

Download APP, continue reading

Chapters

1073