บทที่ 851 ดวงตาในความมืด!

by หลิงหยุน 08:01,Apr 01,2021
มีหลายเหตุผลในการสะกดรอยตามปิงเยว่

ตัวอย่างเช่นปิงเยว่มีความสำคัญต่อโจวหยางมากความสามารถของเขาในการก้าวข้ามจากคนธรรมดามาเป็นจักรพรรดิการต่อสู้อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลงานของปิงเยว่ทั้งหมด

และด้วยเหตุนี้ปิงเยว่หายตัวไปราวกับอากาศไม่รู้เลยว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรสำหรับโจวหยางนี่เป็นปมในใจอย่างแน่นอน

มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเธอน่ารักมากเหมือนโลลิตัวน้อยแต่เธอต้องวางตัวเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อยด้วยท่าทางแก่แดด

แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนนี้เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของโจวหยางกลับหายตัวไปอยู่ที่ไหนไม่รู้

โจวหยางไม่ใช่คนเนรคุณที่ไม่มีความรู้สึกอะไรแน่นอนว่านี่เป็นปมในใจของเขา

ดังนั้นเขาต้องเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของปิงเยว่และอย่างน้อยที่สุดเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเธออยู่สบายดีหรือไม่

นอกจากนี้สาวน้อยปิงเยว่ก็ประหลาดมากโจวหยางมักจะรู้สึกว่าเธอมีความลับบางอย่างกับตัวเอง

ตัวอย่างเช่นในถ้ำของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ปิงเยว่พาเขาเดินผ่านห้องนอนไปนั้นไปข้างในมีรูปถ่ายของผู้หญิงอยู่ในนั้นโจวหยางรู้สึกเหมือนเคยเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ไหนมาก่อน

ตอนนั้นปิงเยว่บอกว่าผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของเธอ

เขาต้องการรู้ความจริงทั้งหมดเพราะเขาค้นพบว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่เขาไม่สามารถสัมผัสได้

ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์โจวหยางไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่ามีวิธีใดในโลกนี้ที่สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นจักรพรรดิการต่อสู้ได้

อย่างไรโจวหยางก็ได้ยินมาจากหนิวฉวนว่ามีเพียงไม่กี่คนในโลกเท่านั้นที่เป็นจักรพรรดิการต่อสู้

ตอนนี้สามัญสำนึกของเขาถูกทำลายไปแล้วโจวหยางจึงตระหนักว่าความรู้ของเขานั้นน้อยเกินไป

ดังนั้นเขาจึงโหยหาการติดต่อในระดับที่สูงขึ้นและสัญชาตญาณบอกเขาว่าต้องมีความลับอื่นๆซ่อนอยู่กับปิงเยว่

นี่คือเหตุผลที่เขาสะกดรอยตามปิงเยว่แต่เขาไม่สามารถอธิบายเหตุผลเหล่านี้กับเสิ่นบี้จวินได้ดังนั้นในสายตาของเธอเขาจึงกลายเป็นลุงแปลกๆ

อัลปาก้าหมื่นตัววิ่งอยู่ในใจของโจวหยาง

"เฮ้เลิกสร้างปัญหากันเถอะกลับบ้านไปซะฉันกำลังมาทำธุระอยู่"โจวหยางพูดอย่างจริงจัง

"ทำธุระ?อะไรที่คุณเรียกว่าธุระคือการติดตามโลลิน้อยในเวลากลางคืน?"เสิ่นบี้จวินถามย้อน

โจวหยางหมดอารมณ์กับประโยคนี้แม้ว่าเขาจะมีเหตุผลมากมายแต่เขาก็ไม่สามารถพูดเหตุผลเหล่านั้นออกมาได้

ด้วยความจนปัญญาจึงได้แต่ยอมรับก็แค่พาเสิ่นบี้จวินไปด้วยกันเท่านั้นไม่ใช่เรื่องอันตรายอะไรดังนั้นพาไปก็พาไปเถอะ

ด้วยความแข็งแกร่งของจักรพรรดิ์การต่อสู้ของเขาแม้ว่าเขาจะพบกับปัญหาใดๆก็ตามเกรงว่าก็คงสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้นโจวหยางจึงพยักหน้าเห็นด้วย

จึงทำให้เสิ่นบี้จวินดีใจมาก

เธอจึงแนบหน้าของโจวหยางและจูบเขา

จูบนี้ทำให้โจวหยางตะลึงริมฝีปากที่ร้อนและอ่อนนุ่มที่แนบชิดอยู่บนใบหน้าของเขาเป็นความรู้สึกเช่นนี้เอง

และเสิ่นบี้จวินก็หันศีรษะกลับไปเล็กน้อยอย่างเขินอาย

โชคดีที่ท้องฟ้าค่อยๆมืดลงและอาการเขินอายของเธอก็ไม่ชัดเจนมากนัก

"ฉันไม่ได้มีความหมายถึงอย่างอื่นนะเมื่อกี้"เสิ่นบี้จวินกล่าวอย่างนี้พิรุธ

"อ้อแค่จุ๊บฉันทีนึงไม่ได้มีความหมายอย่างนั้นใช่มั้ย"โจวหยางพูดพร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้าย

"โจวหยางนายไปตายซะเถอะ!"เสิ่นบี้จวินทุบสองหมัดลงบนหน้าอกของเขาและเหตุการณ์ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เป็นเวลาพลบค่ำแล้วเมื่อพวกเขามาถึงจัตุรัสและไม่นานก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดสนิท

"ฉันจะออกไปช่วยคุณเฝ้าดูหน่อยแล้วกัน"เสิ่นบี้จวินพูดด้วยความตื่นเต้น"อย่าลืมว่าตัวตนในปัจจุบันของคุณเป็นลุงแปลกๆคุณไม่สามารถปรากฏตัวในจัตุรัสนั้นได้อีกต่อไป"

โจวหยางคิดแล้วก็เห็นว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆเมื่อครู่ตอนที่อยู่เหนือจัตุรัสคนส่วนใหญ่ก็มองว่าเขาเป็นลุงแปลกๆที่ต้องการลักพาตัวเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ

ถ้าไม่ใช่เสิ่นบี้จวินมาช่วยโจวหยางอาจจะถูกกลุ่มคนเข้าใจผิดและส่งตัวเข้าคุกไปแล้ว

ถ้าเขาไปหาปิงเยว่โดยตรงเขาคงถูกสงสัยอีกครั้งแน่ถ้ามีคนอื่นเห็นดังนั้นเขาจึงตกลงทำตามแผนของเสิ่นบี้จวิน

เสิ่นบี้จวินย่องออกไปโจวหยางที่ดูอยู่รู้สึกพูดไม่ออก"นี่คุณคุณไม่ใช่ลุงประหลาดคุณไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนั้นทำตัวให้ปกติหน่อยได้มั้ย?"

"หา?อ้อ"เสิ่นบี้จวินตอบรับและยิ้มอย่างเขินอาย"ใช่แล้วฉันแค่รู้จักกับลุงประหลาดเท่านั้นฉันไม่ใช่ลุงประหลาดนะไม่ต้องย่อง"

"ฉันก็ไม่ใช่ลุงประหลาดเหมือนกัน!"เสียงที่สิ้นหวังของโจวหยางดังมาจากด้านหลังแต่เสิ่นบี้จวินไม่ได้ยินแล้ว

เพราะตอนนี้เธอตื่นเต้นมาก

สะกดรอยตาม!แอบดู!

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับคำเหล่านี้ซึ่งแทบจะปรากฏในนวนิยายเท่านั้น

ในความเป็นจริงเสิ่นบี้จวินรู้ดีว่าโจวหยางไม่มีทางเป็นลุงประหลาดได้

แม้ว่าโจวหยางจะไม่ได้อธิบายแต่เธอก็เชื่ออย่างแน่นอนว่าโจวหยางมีเหตุผลที่ถูกต้องในการติดตามปิงเยว่

เหตุผลที่เธอบอกว่าโจวหยางเป็นลุงประหลาดจุดประสงค์ที่ชัดเจนก็คือเธออยากอยู่ต่อไปกับโจวหยาง

แม้ว่าเขาจะดีกับเธอมาโดยตลอดแต่เสิ่นบี้จวินก็มักจะมีภาพลวงตาว่าเธออยู่ห่างจากเขามากขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งนี้ทำให้เธอกลัวและลนลานเล็กน้อยเธอต้องการเข้าสู่โลกของโจวหยางอย่างแท้จริงเธอสนใจทุกอย่างเกี่ยวกับเขาลางสังหรณ์ของเธอบอกว่าจะต้องมีความลับมากมายซ่อนอยู่ในตัวของโจวหยาง

นี่คือเหตุผลที่เธออยู่ต่อเพราะเธอต้องการดูว่าโจวหยางกำลังจะทำอะไร

ไม่นานเธอก็กลับมาที่ตำแหน่งเดิม

เนื่องจากมันเริ่มมืดแล้วผู้คนส่วนใหญ่จึงกลับบ้านไปทานอาหารและจำนวนคนในจัตุรัสก็ค่อยๆเบาบางลง

ขณะที่แสร้งทำเป็นเดินเล่นอย่างไร้จุดหมายเสิ่นบี้จวินสแกนทุกที่ที่เธอสามารถมองเห็นได้ด้วยมุมหางตาของเธอเพื่อพยายามค้นหาร่องรอยของปิงเยว่

แปกลมากเด็กผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้วเหรอ?

เธอเดินจนเกือบรอบทั้งจัตุรัสแต่เธอก็ไม่เห็นเงาของปิงเยว่เลยทำให้เธอผิดหวังเล็กน้อย

หากปิงเยว่จากไปแผนของพวกเขาในการสะกดรอยตามปิงเยว่ในวันนี้ก็จะล้มเหลว

ที่เรียกว่าสะกดรอยตามก็ต้องเห็นเป้าหมายแล้วจึงติดตามอย่างเงียบๆถึงจะเรียกว่าสะกดรอยตาม!

ปิงเยว่คนนี้ได้จากไปแล้วมีทางเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจะตามทันให้โจวหยางดมกลิ่นของปิงเยว่ด้วยจมูกของเขาและจากนั้นก็ตามกลิ่นของปิงเยว่ไปตลอดเวลา...ถ้าอย่างนั้นนี่ไม่เรียกว่าการสะกดรอยตามแล้วแต่เรียกว่าการตามรอย!

ประเด็นก็คือโจวหยางไม่ใช่สุนัขมันเป็นไปไม่ได้ที่จะหากลิ่นของปิงเยว่ด้วยจมูกของเขา!

ขณะที่เสิ่นบี้จวินกำลังคิดอยู่ในใจทันใดนั้นเสียงอันไร้เดียงสาก็ดังขึ้นข้างหลังเธอ"พี่สาวฉันคิดว่าคุณอยู่แถวๆจัตุรัสนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้วคุณกำลังมองหาใครอยู่หรือเปล่า?"

Download APP, continue reading

Chapters

1073