บทที่ 16 ใครที่ไม่มีคุณสมบัติพอ?
by หลิงหยุน
10:17,Nov 30,2020
ชุ่ยหูจวีเป็นโรงแรมที่ได้มาตรฐานดีที่สุดในเมืองนี้ มีประวัติและความเป็นมาที่คล้ายคลึงกับคลับหยินหู
ลือกันว่าเบื้องหลังของเจ้าของที่นี่ เป็นหนึ่งในกลุ่มนักทุนใหญ่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีอำนาจสามารถจัดการเรื่องในด้านมืดและด้านสว่างได้ทั่วทั้งเมือง
บริษัทหมิงหยาง จัดพิธีเปิดตัวโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยขึ้นที่นี่ และยังใช้เงินไปจำนวนไม่น้อยหรืออาจพูดได้ว่าใช้เงินไปมากเลยที่เดียว
เมื่อตกกลางคืนก็เริ่มมีรถยนต์หรู ขับเข้ามาในชุ่ยหูจวีทีละคันๆ
เซี่ยะหลิงอวี้ ค่อยๆลงจากรถของเธอ แต่รถของเธอเป็นรถBMW จึงไม่ค่อยมีใครสนใจ หลังจากที่เธอลงจากรถแล้วเธอก็มองเห็นโรงแรมชุ่ยหูจวีที่งดงามอยู่ตรงหน้าและเธอก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น
เพราะเธอได้รับเลือกให้มาร่วมงานในโปรเจ็คนี้ ดวงตาของเธอจึงเปล่งประกายความมั่นใจของเธอออกมา
เธอรู้ดีว่า ถ้าโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ บริษัทความงานเยว่จี๋ของเธอก็จะสามารถอาศัยหมิงหยางเพื่อที่จะสามารถอยู่รอดต่อไปได้
เธอกำลังจะก้าวขึ้นไปที่บันไดด้านหน้าประตูโรงแรมชุ่ยหูจวี ทันใดนั้นก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังกังวาลมาจากด้านหลัง
เป็นเสียงของรถยนต์ปอร์เช่สีดำ ที่ขับเข้ามาจอดที่ด้านหน้าประตูโรงแรมชุ่ยหูจวี
หลังจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งลงออกมาจากรถ และชายคนนั้นก็คือเฉินจวิ้นเซิง!
เมื่อเฉินจวิ้นเซิงเห็นเซี่ยะหลิงอวี้ก็มีสีที่หน้าดีใจ และหลังจากที่เขาสั่งให้พนักงานจอดเอารถไปจอดแล้ว เขาก็รีบเดินไปที่เซี่ยะหลิงอวี้ทันที
“ หลิงอวี้ สองวันนี้คุณไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมไม่รับโทรศัพท์หรือตอบข้อความผมบ้างเลย? ”
เฉินจวิ้นเซิงพูดอย่างเป็นกังวล ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเซี่ยะหลิงอวี้ แสดงถึงความหลงใหลในตัวเธอ
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เธอถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้ เซี่ยะหลิงอวี้คงจะรู้สึกถึงความผิดปกติไปนานแล้ว
แต่ตอนนี้ ในหัวของเธอมีแต่เรื่องงานพิธีเปิดตัวโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไร้ริ้วรอย จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาของเฉินจวิ้นเซิง
“ คุณมีธุระอะไรไหม? ”
เซี่ยะหลิงอวี้ขมวดคิ้ว และพูดกับเขาอย่างเย็นชา
ช่วงไม่กี่วันมานี้เฉินจวิ้นเซิงก็ยังโทรหาและส่งข้อความหาเธอตลอด และบางทีก็ไปที่บ้านของเธอโดยเธอไม่ยินยอม
แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้เซี่ยะหลิงอวี้ไม่ได้ว่าง เธอได้แต่ยุ่งอยู่กับการปรับปรุงรายละเอียดบางอย่างในเอกสาร และคิดว่าหลังจากที่ได้พบกับบุคคลลึกลับที่เป็นผู้รับผิดชอบโปรเจ็คนี้แล้ว เธอตั้งใจที่จะร่วมงานกับเขาอย่างเท่าทียมกัน
ดังนั้น ไม่กี่วันมานี้เซี่ยะหลิงอวี้จึงอยู่แต่ที่บริษัท ไม่ได้กลับบ้าน และก็ไม่ได้เจอกับเฉินจวิ้นเซิงด้วย
“ หลิงอวี้ ผมต้องขอโทษคุณด้วย ที่วันนั้นผมเสียมารยาทกับคุณ ถึงแม้ว่าบริษัทความงามเยว่จี๋ของพวกคุณได้ถูกรับคัดเลือกแล้ว แต่ผมก็ไม่ควรพูดแบบนั้น ”
เฉินจวิ้นเซิงรู้สึกว่าท่าทางของเซี่ยะหลิงอวี้ที่มีต่อเขานั้นดูเย็นชา ในขณะนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดีและเกลียดโจวหยางกับเย่ฉู่เชี่ยนเข้ากระดูกดำ
“ ถึงอย่างไรโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยก็ถือว่าเป็นโปรเจ็คที่ใหญ่ จึงต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกผลกำไรมูลค่านับหลายพันล้าน ผมก็แค่กังวลว่าบริษัทของคุณยังไม่มีประสบการณ์พอ เลยคิดที่จะช่วยคุณ ”
เฉินจวิ้นเซิงยิ้มและพูดอย่างนุ่มนวล
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักเขา และมาได้ยินในสิ่งที่เขากำลังพูด ก็คงจะซาบซึ้งในคำพูดที่นุ่มนวลของเขา จนแทบจะเสนอตัวให้กับเขาด้วยซ้ำ
ในตอนนั้นเซี่ยะหลิงอวี้ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีว่า
ถ้าก่อนที่รายชื่อผู้ที่ถูกคัดเลือกจะออกมา แล้วเฉินจวิ้นเซิงมาพูดกับเธอแบบนี้ เธอก็อาจจะเชื่อคำพูดเขาอยู่
แต่หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ในวันนั้น เซี่ยะหลิงอวี้ก็เริ่มคอยระวังตัวจากเฉินจวิ้นเซิง
แต่เธอไม่รู้ว่า มีตรงไหนบ้างที่มันดูผิดปกติ และเธอก็ไม่มีหลักฐานอย่างแน่ชัดว่าเฉินจวิ้นเซิงกำลังคิดไม่ดีกับเธอ ดังนั้นเซี่ยะหลิงอวี้จึงทำได้แค่หยุดข้อสงสัยนี้ไว้ก่อน
“ ไม่ต้องแล้วล่ะ ฉันได้ทำการศึกษาโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยนี้อย่างกระจ่างแล้ว ส่วนรายละเอียดด้านการร่วมงานก็จัดการทำใหม่เรียบร้อยแล้ว คงไม่ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ ”
เซี่ยะหลิงอวี้ส่ายหัวเบาๆ และปฏิเสธไปตรงๆ
เฉินจวิ้นเซิงไม่คิดว่าเซี่ยะหลิงอวี้จะปฏิเสธ มุมปากที่กำลังยิ้มของเขายังไม่ทันได้หุบ ก็เลยทำให้เขาทำตัวไม่ถูก เขาจึงทำได้แค่หัวเราะแบบแห้งๆไปสองที
“ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น นั้นคุณต้องสู้ๆนะ ถ้ามีปัญหาเมื่อไหร่สามารถติดต่อผมได้ทันที ผมจะช่วยคุณอย่างแน่นอน ”
“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าไปข้างในกัน ”
พูดจบ เฉินจวิ้นเซิงก็เตรียมที่จะจับมือของเซี่ยะหลิงอวี้ แต่เธอก็หลบตัวออกห่างจากเขาได้ทัน
“ ไม่ต้อง ฉันเดินเขาไปเองได้! ”
มือของเฉินจวิ้นเซิงค้างอยู่ในอากาศ ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ด้านหลังของเซี่ยะหลิงอวี้ และทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างของคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง
“ โย่ว นี่ใช่พี่โจวหยางหรือป่าวเนี่ย? คุณมาทำอะไรที่นี่? ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สถานที่ที่คุณควรจะมานะ? ”
เมื่อกี้โจวหยางได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเฉินจวิ้นเซิงกับเซี่ยะหลิงอวี้ และยังได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของเฉินจวิ้นเซิงอีก แต่เขาก็ไม่ได้โมโหขึ้นมาทันทีแต่เขากลับค่อยๆเดินเข้าไปที่เฉินจวิ้นเซิง
“ ทำไม หรือว่าชุ่ยหูจวีแห่งนี้ เป็นของตระกูลนายหรือยังไง? ”
โจวหยางเข้าไปเผชิญหน้ากับเฉินจวิ้นเซิง โดยที่ไม่รู้สึกเกรงกลัวและพร้อมที่จะสู้แบบตัวต่อตัว
ถึงอย่างไรเขากับและเฉินจวิ้นเซิงก็ไม่อะไรที่จะต้องไว้หน้ากันแล้ว
คนที่ค่อยก่อกวนภรรยาของตัวเขาอยู่ทั้งวัน ก็ไม่สมควรที่จะได้รับการให้เกียรติอยู่แล้ว
“ หือ ฉันรู้ว่านายเป็นพนักงานของหมิงหยาง แต่วันนี้ในสถานที่แห่งนี่ นายก็เป็นได้แค่เพียงพนักงานเล็กๆธรรมดาๆคนนึง นายจะมาร่วมงานนี้ได้อย่างไร? ไม่ดูสาระรูปตัวเองบ้าง ว่านายมันเป็นอย่างไร! ”
เฉินจวิ้นเซิงพูดขึ้นมาอย่างดูถูก
ในการประกาศผลการคัดเลือกในครั้งที่แล้ว เขาถูกเย่ฉู่เชี่ยนไล่ออกไปต่อหน้าสาธารณะ ทำให้เขาเอาความโกรธเคืองในวันนั้นทั้งหมดมาลงที่โจวหยางและเย่ฉู่เชี่ยน
และไม่กี่วันมานี้ท่าทีของเซี่ยะหลิงอวี้ที่มีต่อเขาก็เปลียนไป ทำให้เขายิ่งโกรธแค้นของเขามากขึ้น
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้เขาคงคิดที่แสดงความเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนต่อหน้าเซี่ยะหลิงอวี้ และคำพูดที่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อโจวหยาง แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
“ นายเห็นหรือยัง? วันนี้มีผู้คนมามากมาย มีใครบ้างที่นายสามารถจะเทียบได้? ฉันว่าแม้แต่รถก็คงไม่มีล่ะสิ นายคงจะเดินมาที่นี่ใช่ไหมล่ะ? ”
เฉินจวิ้นเซิงชี้ไปรอบๆ เขาเห็นรถหรูคันนึงที่ดูสวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เขารู้สึกว่ามันสุดเยี่ยมมาก
ถึงแม้ว่านายจะเป็นสามีของเซี่ยะหลิงอวี้แล้วจะทำไม? เป็นมาแบบนี้ก็หลายปีแล้ว ก็ยังไม่เอาไหนเหมือนเดิม?
ถ้าให้เวลาตัวเขาอีกสักหน่อย เขาเชื่อว่าเซี่ยะหลิงอวี้จะต้องตกมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้งแน่นอน
เฉินจวิ้นเซิงดูมั่นใจมาก เขายืนอยู่บนขั้นบันไดและมองขึ้นไปที่โจวหยาง เขายิ้มพร้อมกับพูดอย่างดูถูก “ โจวหยาง นายไม่มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่ที่นี่ การที่นายมาอยู่ที่นี่ก็จะดึงให้ฐานนะของพวกเราและทุกคนดูตกต่ำลง! ”
เฉินจวิ้นเซิงไม่คิดที่จะลดเสียงของเขาลง จึงทำให้คนรอบข้างต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน
ทันใดนั้น คนเหล่านี้ก็ขมวดคิ้วขึ้น
ในฐานะของพวกคนชนชั้นสูง พวกเขาย่อมรู้สึกว่าพวกเขาอยู่เหนือกว่าใคร โดยเฉพาะกับโจวหยางที่ดูแล้วเหมือนกับคนธรรมดาๆคนนึง
“ ใช่แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าขอทานคนนี้มาจากที่ไหน ชุ่ยหูจวีเป็นสถานที่ที่แกสามารถเข้ามาได้หรือยังไง?
“ ใช่แล้ว ฉันว่าเงินเดือนทั้งเดือนของนายก็คงไม่พอที่จะเข้าไปสั่งอาหารสักจานหรอก ”
“ รปภ.ล่ะ? หรือว่าชุ่ยหูจวีจะตกต่ำถึงขนาดให้คนแบบนี้เข้าไปได้แล้วหรอ?
ผู้คนรอบข้างมองมาด้วยความรังเกียจ และตะโกนเรียก รปภ.ให้ไล่โจวหยางออกไป
รปภ.ของชุ่ยหูเชี่ยนก็หันมามองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นรูปร่างที่เลอะเทอะของโจวหยาง จากหัวจรดเท้าก็ไม่มีชิ้นที่เป็นของแบรนด์เนมเลยสักชิ้น รปภ.จึงรู้สึกว่าฐานะของเขาไม่ดี
“ คุณครับ วันนี้ที่ชุ่ยหูจวีมีแขกเต็มหมดแล้ว ขอเชิญคุณช่วยไปทานอาหารที่อื่นเถอะครับ ”
หัวหน้า รปภ.รูปร่างสูงใหญ่ มาพร้อมกับลูกน้องที่เป็น รปภ.อีกสามคนก็เข้ามาล้อมรอบโจวหยางทันที
โจวหยางยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่คิดว่าเมื่อสองวันก่อนเขาพึ่งให้ รปภ.ล้อมจับเฉินจวิ้นเซิง แต่ตอนนี้ตัวเขาเองกลับถูก รปภ.ล้อมจับซะเอง
ในขณะที่โจวหยางกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คมชัดและเย็นชาดังขึ้น “ คุณพูดว่าใครที่ไม่มีคุณสมบัติพอ?! ”
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงนี้ พวกเขาก็หันไปมองตามเสียงนั้นทันที
เห็นแต่เพียงรถโรลส์-รอยซ์รุ่นพิเศษที่มีการจำกัดจำนวนการผลิตคันนึง ค่อยๆหยุดลงอย่างช้าๆ
เมื่อประตูรถเปิดออก ขาคู่สวยก็ก้าวออกจากรถ
จากนั้น สาวงามที่ดูโดดเด่นไม่ธรรมดาและรูปร่างที่เปล่งประกายความงามของเธอนั้น ก็ลงออกมาจากรถ
“ ที่แท้ก็คือเธอ! ”
ลือกันว่าเบื้องหลังของเจ้าของที่นี่ เป็นหนึ่งในกลุ่มนักทุนใหญ่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีอำนาจสามารถจัดการเรื่องในด้านมืดและด้านสว่างได้ทั่วทั้งเมือง
บริษัทหมิงหยาง จัดพิธีเปิดตัวโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยขึ้นที่นี่ และยังใช้เงินไปจำนวนไม่น้อยหรืออาจพูดได้ว่าใช้เงินไปมากเลยที่เดียว
เมื่อตกกลางคืนก็เริ่มมีรถยนต์หรู ขับเข้ามาในชุ่ยหูจวีทีละคันๆ
เซี่ยะหลิงอวี้ ค่อยๆลงจากรถของเธอ แต่รถของเธอเป็นรถBMW จึงไม่ค่อยมีใครสนใจ หลังจากที่เธอลงจากรถแล้วเธอก็มองเห็นโรงแรมชุ่ยหูจวีที่งดงามอยู่ตรงหน้าและเธอก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น
เพราะเธอได้รับเลือกให้มาร่วมงานในโปรเจ็คนี้ ดวงตาของเธอจึงเปล่งประกายความมั่นใจของเธอออกมา
เธอรู้ดีว่า ถ้าโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ บริษัทความงานเยว่จี๋ของเธอก็จะสามารถอาศัยหมิงหยางเพื่อที่จะสามารถอยู่รอดต่อไปได้
เธอกำลังจะก้าวขึ้นไปที่บันไดด้านหน้าประตูโรงแรมชุ่ยหูจวี ทันใดนั้นก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังกังวาลมาจากด้านหลัง
เป็นเสียงของรถยนต์ปอร์เช่สีดำ ที่ขับเข้ามาจอดที่ด้านหน้าประตูโรงแรมชุ่ยหูจวี
หลังจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งลงออกมาจากรถ และชายคนนั้นก็คือเฉินจวิ้นเซิง!
เมื่อเฉินจวิ้นเซิงเห็นเซี่ยะหลิงอวี้ก็มีสีที่หน้าดีใจ และหลังจากที่เขาสั่งให้พนักงานจอดเอารถไปจอดแล้ว เขาก็รีบเดินไปที่เซี่ยะหลิงอวี้ทันที
“ หลิงอวี้ สองวันนี้คุณไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมไม่รับโทรศัพท์หรือตอบข้อความผมบ้างเลย? ”
เฉินจวิ้นเซิงพูดอย่างเป็นกังวล ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเซี่ยะหลิงอวี้ แสดงถึงความหลงใหลในตัวเธอ
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เธอถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้ เซี่ยะหลิงอวี้คงจะรู้สึกถึงความผิดปกติไปนานแล้ว
แต่ตอนนี้ ในหัวของเธอมีแต่เรื่องงานพิธีเปิดตัวโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไร้ริ้วรอย จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาของเฉินจวิ้นเซิง
“ คุณมีธุระอะไรไหม? ”
เซี่ยะหลิงอวี้ขมวดคิ้ว และพูดกับเขาอย่างเย็นชา
ช่วงไม่กี่วันมานี้เฉินจวิ้นเซิงก็ยังโทรหาและส่งข้อความหาเธอตลอด และบางทีก็ไปที่บ้านของเธอโดยเธอไม่ยินยอม
แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้เซี่ยะหลิงอวี้ไม่ได้ว่าง เธอได้แต่ยุ่งอยู่กับการปรับปรุงรายละเอียดบางอย่างในเอกสาร และคิดว่าหลังจากที่ได้พบกับบุคคลลึกลับที่เป็นผู้รับผิดชอบโปรเจ็คนี้แล้ว เธอตั้งใจที่จะร่วมงานกับเขาอย่างเท่าทียมกัน
ดังนั้น ไม่กี่วันมานี้เซี่ยะหลิงอวี้จึงอยู่แต่ที่บริษัท ไม่ได้กลับบ้าน และก็ไม่ได้เจอกับเฉินจวิ้นเซิงด้วย
“ หลิงอวี้ ผมต้องขอโทษคุณด้วย ที่วันนั้นผมเสียมารยาทกับคุณ ถึงแม้ว่าบริษัทความงามเยว่จี๋ของพวกคุณได้ถูกรับคัดเลือกแล้ว แต่ผมก็ไม่ควรพูดแบบนั้น ”
เฉินจวิ้นเซิงรู้สึกว่าท่าทางของเซี่ยะหลิงอวี้ที่มีต่อเขานั้นดูเย็นชา ในขณะนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดีและเกลียดโจวหยางกับเย่ฉู่เชี่ยนเข้ากระดูกดำ
“ ถึงอย่างไรโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยก็ถือว่าเป็นโปรเจ็คที่ใหญ่ จึงต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกผลกำไรมูลค่านับหลายพันล้าน ผมก็แค่กังวลว่าบริษัทของคุณยังไม่มีประสบการณ์พอ เลยคิดที่จะช่วยคุณ ”
เฉินจวิ้นเซิงยิ้มและพูดอย่างนุ่มนวล
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักเขา และมาได้ยินในสิ่งที่เขากำลังพูด ก็คงจะซาบซึ้งในคำพูดที่นุ่มนวลของเขา จนแทบจะเสนอตัวให้กับเขาด้วยซ้ำ
ในตอนนั้นเซี่ยะหลิงอวี้ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีว่า
ถ้าก่อนที่รายชื่อผู้ที่ถูกคัดเลือกจะออกมา แล้วเฉินจวิ้นเซิงมาพูดกับเธอแบบนี้ เธอก็อาจจะเชื่อคำพูดเขาอยู่
แต่หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ในวันนั้น เซี่ยะหลิงอวี้ก็เริ่มคอยระวังตัวจากเฉินจวิ้นเซิง
แต่เธอไม่รู้ว่า มีตรงไหนบ้างที่มันดูผิดปกติ และเธอก็ไม่มีหลักฐานอย่างแน่ชัดว่าเฉินจวิ้นเซิงกำลังคิดไม่ดีกับเธอ ดังนั้นเซี่ยะหลิงอวี้จึงทำได้แค่หยุดข้อสงสัยนี้ไว้ก่อน
“ ไม่ต้องแล้วล่ะ ฉันได้ทำการศึกษาโปรเจ็คผิวหน้าขาวใสไรริ้วรอยนี้อย่างกระจ่างแล้ว ส่วนรายละเอียดด้านการร่วมงานก็จัดการทำใหม่เรียบร้อยแล้ว คงไม่ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ ”
เซี่ยะหลิงอวี้ส่ายหัวเบาๆ และปฏิเสธไปตรงๆ
เฉินจวิ้นเซิงไม่คิดว่าเซี่ยะหลิงอวี้จะปฏิเสธ มุมปากที่กำลังยิ้มของเขายังไม่ทันได้หุบ ก็เลยทำให้เขาทำตัวไม่ถูก เขาจึงทำได้แค่หัวเราะแบบแห้งๆไปสองที
“ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น นั้นคุณต้องสู้ๆนะ ถ้ามีปัญหาเมื่อไหร่สามารถติดต่อผมได้ทันที ผมจะช่วยคุณอย่างแน่นอน ”
“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าไปข้างในกัน ”
พูดจบ เฉินจวิ้นเซิงก็เตรียมที่จะจับมือของเซี่ยะหลิงอวี้ แต่เธอก็หลบตัวออกห่างจากเขาได้ทัน
“ ไม่ต้อง ฉันเดินเขาไปเองได้! ”
มือของเฉินจวิ้นเซิงค้างอยู่ในอากาศ ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ด้านหลังของเซี่ยะหลิงอวี้ และทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างของคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง
“ โย่ว นี่ใช่พี่โจวหยางหรือป่าวเนี่ย? คุณมาทำอะไรที่นี่? ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สถานที่ที่คุณควรจะมานะ? ”
เมื่อกี้โจวหยางได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเฉินจวิ้นเซิงกับเซี่ยะหลิงอวี้ และยังได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของเฉินจวิ้นเซิงอีก แต่เขาก็ไม่ได้โมโหขึ้นมาทันทีแต่เขากลับค่อยๆเดินเข้าไปที่เฉินจวิ้นเซิง
“ ทำไม หรือว่าชุ่ยหูจวีแห่งนี้ เป็นของตระกูลนายหรือยังไง? ”
โจวหยางเข้าไปเผชิญหน้ากับเฉินจวิ้นเซิง โดยที่ไม่รู้สึกเกรงกลัวและพร้อมที่จะสู้แบบตัวต่อตัว
ถึงอย่างไรเขากับและเฉินจวิ้นเซิงก็ไม่อะไรที่จะต้องไว้หน้ากันแล้ว
คนที่ค่อยก่อกวนภรรยาของตัวเขาอยู่ทั้งวัน ก็ไม่สมควรที่จะได้รับการให้เกียรติอยู่แล้ว
“ หือ ฉันรู้ว่านายเป็นพนักงานของหมิงหยาง แต่วันนี้ในสถานที่แห่งนี่ นายก็เป็นได้แค่เพียงพนักงานเล็กๆธรรมดาๆคนนึง นายจะมาร่วมงานนี้ได้อย่างไร? ไม่ดูสาระรูปตัวเองบ้าง ว่านายมันเป็นอย่างไร! ”
เฉินจวิ้นเซิงพูดขึ้นมาอย่างดูถูก
ในการประกาศผลการคัดเลือกในครั้งที่แล้ว เขาถูกเย่ฉู่เชี่ยนไล่ออกไปต่อหน้าสาธารณะ ทำให้เขาเอาความโกรธเคืองในวันนั้นทั้งหมดมาลงที่โจวหยางและเย่ฉู่เชี่ยน
และไม่กี่วันมานี้ท่าทีของเซี่ยะหลิงอวี้ที่มีต่อเขาก็เปลียนไป ทำให้เขายิ่งโกรธแค้นของเขามากขึ้น
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้เขาคงคิดที่แสดงความเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนต่อหน้าเซี่ยะหลิงอวี้ และคำพูดที่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อโจวหยาง แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
“ นายเห็นหรือยัง? วันนี้มีผู้คนมามากมาย มีใครบ้างที่นายสามารถจะเทียบได้? ฉันว่าแม้แต่รถก็คงไม่มีล่ะสิ นายคงจะเดินมาที่นี่ใช่ไหมล่ะ? ”
เฉินจวิ้นเซิงชี้ไปรอบๆ เขาเห็นรถหรูคันนึงที่ดูสวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เขารู้สึกว่ามันสุดเยี่ยมมาก
ถึงแม้ว่านายจะเป็นสามีของเซี่ยะหลิงอวี้แล้วจะทำไม? เป็นมาแบบนี้ก็หลายปีแล้ว ก็ยังไม่เอาไหนเหมือนเดิม?
ถ้าให้เวลาตัวเขาอีกสักหน่อย เขาเชื่อว่าเซี่ยะหลิงอวี้จะต้องตกมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้งแน่นอน
เฉินจวิ้นเซิงดูมั่นใจมาก เขายืนอยู่บนขั้นบันไดและมองขึ้นไปที่โจวหยาง เขายิ้มพร้อมกับพูดอย่างดูถูก “ โจวหยาง นายไม่มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่ที่นี่ การที่นายมาอยู่ที่นี่ก็จะดึงให้ฐานนะของพวกเราและทุกคนดูตกต่ำลง! ”
เฉินจวิ้นเซิงไม่คิดที่จะลดเสียงของเขาลง จึงทำให้คนรอบข้างต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน
ทันใดนั้น คนเหล่านี้ก็ขมวดคิ้วขึ้น
ในฐานะของพวกคนชนชั้นสูง พวกเขาย่อมรู้สึกว่าพวกเขาอยู่เหนือกว่าใคร โดยเฉพาะกับโจวหยางที่ดูแล้วเหมือนกับคนธรรมดาๆคนนึง
“ ใช่แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าขอทานคนนี้มาจากที่ไหน ชุ่ยหูจวีเป็นสถานที่ที่แกสามารถเข้ามาได้หรือยังไง?
“ ใช่แล้ว ฉันว่าเงินเดือนทั้งเดือนของนายก็คงไม่พอที่จะเข้าไปสั่งอาหารสักจานหรอก ”
“ รปภ.ล่ะ? หรือว่าชุ่ยหูจวีจะตกต่ำถึงขนาดให้คนแบบนี้เข้าไปได้แล้วหรอ?
ผู้คนรอบข้างมองมาด้วยความรังเกียจ และตะโกนเรียก รปภ.ให้ไล่โจวหยางออกไป
รปภ.ของชุ่ยหูเชี่ยนก็หันมามองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นรูปร่างที่เลอะเทอะของโจวหยาง จากหัวจรดเท้าก็ไม่มีชิ้นที่เป็นของแบรนด์เนมเลยสักชิ้น รปภ.จึงรู้สึกว่าฐานะของเขาไม่ดี
“ คุณครับ วันนี้ที่ชุ่ยหูจวีมีแขกเต็มหมดแล้ว ขอเชิญคุณช่วยไปทานอาหารที่อื่นเถอะครับ ”
หัวหน้า รปภ.รูปร่างสูงใหญ่ มาพร้อมกับลูกน้องที่เป็น รปภ.อีกสามคนก็เข้ามาล้อมรอบโจวหยางทันที
โจวหยางยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่คิดว่าเมื่อสองวันก่อนเขาพึ่งให้ รปภ.ล้อมจับเฉินจวิ้นเซิง แต่ตอนนี้ตัวเขาเองกลับถูก รปภ.ล้อมจับซะเอง
ในขณะที่โจวหยางกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คมชัดและเย็นชาดังขึ้น “ คุณพูดว่าใครที่ไม่มีคุณสมบัติพอ?! ”
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงนี้ พวกเขาก็หันไปมองตามเสียงนั้นทันที
เห็นแต่เพียงรถโรลส์-รอยซ์รุ่นพิเศษที่มีการจำกัดจำนวนการผลิตคันนึง ค่อยๆหยุดลงอย่างช้าๆ
เมื่อประตูรถเปิดออก ขาคู่สวยก็ก้าวออกจากรถ
จากนั้น สาวงามที่ดูโดดเด่นไม่ธรรมดาและรูปร่างที่เปล่งประกายความงามของเธอนั้น ก็ลงออกมาจากรถ
“ ที่แท้ก็คือเธอ! ”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved