บทที่ 3 ออกจากภูเขา

by อาห่าว 10:23,Nov 30,2020
บ้านของจางฉีโม่อยู่ในชุมชนเจียงฉือ ตึกนี้สร้างเมื่อสิบปีก่อน มันดูเก่าและทรุดโทรม

และมันไม่สมกับฐานะของคนในตระกูลจางในเมืองชิงหยุน

กลับมาถึงบ้าน พ่อตาแม่ยายของหลินหยิน จางซิ่วเฟิง และ ลู่หย่าฮุ่ย ทั้งสองคนนั่งหน้าเคร่งอยู่บนโซฟา

"เหอะ!" ลู่หย่าฮุ่ยหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา "หลินหยิน แกยังมีหน้ากลับมาที่บ้านอีก?"

"เรื่องในงานแต่งวันนี้พวกเรารู้หมดแล้ว หลินหยิน แกมันตัวซวยจริงๆ! เรื่องดีๆ ถูกแกทำลายจนหมดแล้ว!" ลู่หย่าฮุ่ยลุกขึ้นยืนและตวาดด่า

"ช่างมันเถอะ แม่ เลิกพูดได้แล้ว เรื่องนี้โทษหลินหยินไม่ได้นะคะ คุณลุงท่านไม่มีความคิดที่จะช่วยเหลือเราอยู่แล้ว" จางฉีโม่พูดออกมา

ลู่หย่าฮุ่ยได้ยินแบบนี้ ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม และพูดด้วยความโมโหว่า "นังลูกโง่ แกยังช่วยเขาพูดอีก? เขายังทำให้แกลำบากไม่พอหรือไง? ถ้าไม่ใช่เขา ตอนนี้แกจะลำบากแบบนี้ไหม? แกน่าจะได้แต่งงานกับคนรวย!"

"แม่คะ ทำไมถึงคิดพึ่งพาแต่คนอื่น? เราพึ่งพาตัวเราเองไม่ได้เหรอคะ?" จางฉีโม่พูดขึ้น

"พึ่งตัวเอง? ได้สิ พูดได้ดีนิ" ลู่หย่าฮุ่ยยิ้มเจื่อนๆ มองจางซิ่วเฟิงอย่างไม่พอใจ "ลูกสาวทนรับความทุกข์ทรมานคับแค้นใจเพื่อคุณ แล้วคุณล่ะ? ทำอะไรบ้าง?"

จางซิ่วเฟิงถอนหายใจออกมา ใบหน้ากลัดกลุ้ม

หลินหยินรู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์ในบ้านจะเป็นแบบนี้ เขาเลยเดินไปที่ห้องครัวเงียบๆ
……
"ทานข้าวกันเถอะครับ"

หลินหยินทำอาหารเสร็จแล้ว จัดวางถ้วยและตะเกียบ คนในครอบครัวมาล้อมโต๊ะอาหาร ต่างก็เงียบไม่พูดไม่จากัน

"หลินหยิน คำพูดของจางจื่อหนิงในวันนี้ แกก็ได้ยินแล้ว......" ลู่หย่าฮุ่ยมองไปที่หลินหยินอย่างจริงจัง

"แม่คะ!" จางฉีโม่วางตะเกียบลง "หนูจะไม่หย่ากับหลินหยินด้วยเหตุผลที่ว่าโดนคนอื่นบีบบังคับหรอกนะคะ"

"ทำไม? หรือว่าแกชอบเขาแล้ว?" ลู่หย่าฮุ่ยจ้องลูกสาวตาเขม็ง "สถานการณ์ที่โรงงานของพ่อแกเป็นยังไงแกไม่รู้เหรอ? ไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานมากี่เดือนแล้ว จะล้มละลายอยู่แล้ว? คนในครอบครัวจะกัดก้อนเกลือกินตอนไหนก็ไม่รู้?"

"และอีกอย่าง แกคิดว่าเรื่องราวมันง่ายขนาดนั้นใช่ไหม? หลินหยินทำผิดกับจางจื่อหนิงสองสามีภรรยา แถมยังทำร้ายจางเทียนไห่อีก" ลู่หย่าฮุ่ยพูดด้วยความโมโห "พวกเขาจะพลอยโกรธบ้านเราไปด้วย! หย่าคือวิธีที่ดีที่สุด อย่าเหนื่อยเพราะคนไร้ความสามารถคนนี้ต่อเลย!"

จางฉีโม่กัดริมฝีปากไม่พูดไม่จา

เห็นท่าทางของลูกสาวเป็นแบบนี้ ลู่หย่าฮุ่ยก็พูดเสียงดังออกมา "จางซิ่วเฟิง คุณยังนั่งเหม่ออยู่ตรงนี้ทำไม? เกลี้ยกล่อมลูกสิ!"

จางซิ่วเฟิงไม่รู้ต้องทำยังไง ก็ยังคงเขานิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

หลินหยินทานข้าวถ้วยเล็กจนหมด เก็บถ้วยเก็บตะเกียบ แล้วกลับห้องของตัวเอง

เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง
สิบกว่าปีที่ผ่านมา การนั่งเงียบๆ คือสิ่งที่ทำเขาจนกลายเป็นความเคยชิน

ไม่ว่าจะเจอะไร ไม่ว่าเรื่องราวภายนอกจะเป็นยังไง

หัวใจของเขาไม่หวั่นไหวเลยสักนิด

นี่คือการนั่งสมาธิ คิดว่าตัวเองเป็นน้ำสะอาดหนึ่งถ้วย ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรก เรื่องต่างๆ บนโลกใบนี้ ก็เหมือนฝุ่นละอองในน้ำ ในที่สุดมันก็จะตะกอนลงไป

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง

ทันใดนั้นหยินหลินก็ยื่นมือออกไปจับก้อนกรวดสีดำบนหน้าหัวเตียง มือทั้งคู่สั่น ในขณะนั้น ก้อนกรวดก็กลายเป็นฝุ่นผง ร่วงหล่นจากมือของเขาไป

"พลังภายในสำเร็จแล้ว" หลินหยินบ่นพรึมพำ ในแววตามีความตื่นเต้น

อาจารย์เคยบอกว่า วันที่บำเพ็ญพลังภายในจนสำเร็จ ถึงจะเป็นทายาทที่แท้จริงของแดนมังกร

ตอนที่ออกจากเขาในตอนนั้น นำป้ายหยกไปหาคนในตระกูลดิจิงหนิง ยาโบราณ สมบัติ บริวาร สามารถเรียกใช้ได้ตามใจ ศิลปะการต่อสู้ไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากที่ได้ฝึกฝนความแข็งแกร่งภายในแล้ว นายถึงจะสามารถติดต่อกับคนเหนือกว่านาย สำรวจความสำเร็จที่สูงขึ้น และไล่ตามจุดสูงสุดของชีวิตได้

ศัตรูของแดนมังกรเยอะมาก เพราะฉะนั้น เรื่องราวของตัวเองจะถูกเปิดโปงไม่ได้ ไม่งั้นชีวิตจะมีอันตรายได้!

"พลังภายในสำเร็จ ในที่สุด ก็ออกจากเขาได้แล้ว" ในมือของหลินหยินถือป้ายหยกอยู่ สายตาเฉียบคมยิ่งนัก
……

วันถัดมา

หลินหยินเพิ่งออกจากชุมชนเจียงฉือ ก็ถูกรถเบนท์ลีย์สีดำขวางทางไว้

"ต้องให้ฉันออกหน้าเอง แกถึงยอมออกมาคุยเรื่องตระกูลฉีใช่ไหม?"

ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มลงจากรถ และมองไปที่หลินหยินอย่างไร้อารมณ์

ชายวัยกลางคนที่รูปร่างกำยำ ใบหน้าคมเป็นเหลี่ยม จมูกโด่ง ดวงตาแหลมเขาสง่าผ่าเผยและดูมีอำนาจ

โครงหน้าของเขา เหมือนกับหลินหยินบ้างเล็กน้อย

"เหอะ คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาตามหาผมด้วยตัวเอง" มีรอยยิ้มอันเย็นชาที่มุมปากของหลินหยิน

จากกันสิบกว่าปี เขายังคงจำผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าได้ เขาคือพ่อผู้ให้กำเนิด ฉีเหอถู

"ฉันรู้ว่าแกไม่อยากเจอฉัน มันก็ได้ แต่ว่า แม้แต่ปู่ของแกเอง แกก็ไม่อยากเจอเป็นครั้งสุดท้ายงั้นเหรอ?" ฉีเหอถูถามขึ้น

หลินหยินนิ่งไปสักพัก คนในตระกูลฉี มีแค่คุณปู่ที่ดีกับเขา หวนกลับไปคิดถึงตอนเด็กๆ ใบหน้าที่ใจดีของคุณปู่

ฉีเหอถูพูดขึ้นว่า "หาที่ คุยกันดีดีเถอะ"
……
หลังจากนั้นยี่สิบนาที โรงแรมฉิงหนุน ชั้น26

ในห้องประชุมที่กว้างใหญ่ มีเพียงแค่ฉีเหอถูและหลินหยินสองคนที่นั่งอยู่

"สองปีมานี้ปู่แกป่วยนอนติดเตียง นับวันสุขภาพยิ่งไม่ดี นอนอยู่บนเตียงก็เอาแต่เรียกชื่อแก แค่อยากให้ไปตามแกกลับมา" ฉีเหอถูพูดอย่างช้าๆ "คุณลุงใหญ่ คุณลุงสามของแกมีแค่ลูกสาวสองคน แต่งงานออกเรือนกันไปหมดแล้ว ตอนนี้หลานของตระกูลฉี มีแค่แกคนเดียวที่เป็นสายเลือด"

"สายเลือดคนเดียวในตระกูลฉี..." หลินหยินตลกตัวเอง "แล้วยังไงต่อ คุณต้องการให้ผมเป็นเครื่องมือต่อรองของคุณสำหรับการแย่งสมบัติงั้นหรือ?"

"แกคิดง่ายเกินไป" ฉีเหอถูพูดออกมาอย่างเย็นชา "ธุรกิจของตระกูลดิจิงฉีกว้างขวาง แบ่งแยกตระกูลออกไปก็ไม่น้อย ตามกฏของตระกูล ถ้าหากเจ้าของตระกูล เสียชีวิตไปแล้ว หากไมีมีรุ่นที่สามสืบทอด ก็ต้องให้สายเลือดอีกบ้านขึ้นมา ในตอนนั้น ก็วนมาไม่ถึงตระกูลฉีของเราหรอก!"

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม?" หลินหยินพูดอย่างเฉยๆ

"ไม่กี่ปีมานี้ปู่แกป่วยหนัก ปู่สาม ปู่ห้า พวกเขาต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจของครอบครัว เอะอะทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ หรือว่าแกอยากให้อารมณ์ชั่ววูบของแก ทำให้ธุรกิจของปู่แกที่สร้างมาถูกแย่งไป ทำให้ท่านนอนตายตาไมหลับ?" ฉีเหอถูถามขึ้นมาด้วยอารมณ์ไม่พอใจ

หลินหยินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย หัวเราะอย่างเย็นชาออกมา

เขารู้ดีว่าฉีเหอถูเป็นคนยังไง เพื่ออำนาจ เขาทำได้ทุกวิถีทาง ไม่มีแม้แต่ความใยดี

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าคุณปู่ป่วย ตำแหน่งในตระกูลฉีของเขาสั่นไหว นายท่านลำดับที่สองของตระกูลดิจิงฉี มีหรือที่เขาจะมาถึงชิงหยุนเพื่อตามหาตัวเอง?

"หลินหยิน หรือว่าแกอยากให้ทั้งชีวิตของแกเป็นคนไร้ความสามรถอยู่ในตระกูลจางเล็กๆ นี่ ต้องถูกคนอื่นดูถูก?" ฉีเหอถูพูดอย่างช้าๆ เห็นได้ชัดว่าเขาหาข้อมูลก่อนมาหาหลินหยินแล้ว "เมื่อวาน ในงานแต่งตระกูลจาง ถูกผู้คนดูถูก แกไม่สามารถที่จะโต้ตอบได้แม่แต่นิด" ฉีเหอถูพูดต่อ "แกไม่อยากมีอำนาจ? ไม่อยากแก้แค้พวกเขาเหรอ?"

"เพียงแค่แกยินยอม ก็ทำให้ทุกคนในตระกูลจางคุกเข่าขอโทษแกได้!" ฉีเหอถูพูดโน้มน้าว

หลินหยินส่ายหน้า ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร

ฉีเหอถูพูดต่อด้วยความเย็นชา "ตอนนี้แกยังเป็นวัยรุ่น อย่าได้เพราะว่าอารมณ์ชั่ววูบ มาทำลายความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งในช่วงครึ่งหลังของชีวิตเลย แกยังไม่เคยได้ลิ้มรสความรู้สึกที่ได้มาจากอำนาจ รอให้แกทำให้ทุกคนในตระกูลจางมาคุกเข่าต่อหน้าแก แกก็จะรู้เอง ว่านี่คือความรู้สึกยังไง!"

"ฉันรู้ว่าแกเกลียดฉัน แกเกลียดฉันได้ทั้งชีวิต ไม่ต้องยอมรับว่าฉันเป็นพ่อก็ได้" ฉีเหอถูพูดอย่างจริงจัง "สิ่งที่แกต้องทำ ก็คือต้องกลับตระกูลฉี ไปยอมรับปู่ของแก หลังจากนั้นก็ไปเอาของที่แกควรได้จากตระกูลฉี ทำเรื่องที่แกอยากทำ แค่นี้ก็พอแล้ว"

"เงื่อนไขง่ายๆ โอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่ หรือว่าแกไม่อยากได้มัน?"

หลินหยินพูดอย่างเฉยชาว่า "ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือของคุณ"

ฉีเหอถูขมวดคิ้วขึ้น ถอนหายใจออกมา และพูดว่า "ตอนแรก ฉันเป็นหนี้พวกแกสองแม่ลูก ก็ไม่ผิด แต่ถ้าแกยืนอยู่ในสถานการณ์ของฉัน แกก็คงทำแบบนั้นเหมือนกัน"

"ผู้ชายคนหนึ่ง สูญเสียทุกอย่างไปได้! แต่จะเสียอำนาจในมือไปไม่ได้!"

"เหอะ......"หลินหยินส่ายหน้า จนถึงตอนนี้ฉีเหอถูไม่สำนึกสักนิด ไม่รู้สึกผิดเลย

เขายังคงคิดว่าตัวเองไม่ผิด ก็ใช่ คนแบบเขา ไม่มีความรู้สึก ในสายตามีแค่อำนาจ

"ผมจะหาเวลาไปเยี่ยมคุณปู่ แต่ว่า เรื่องของตระกูลฉี ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผม" หลินหยินพูดออกมาอย่างเย็นชาและจากไป

"แก!" สายตาของฉีเหอถูจ้องมองไปยังหลินหยิน

"ได้ แกไปเถอะ เงื่อนไขฉันบอกแกไปหมดแล้ว ฉันจะรอแก ฉันเชื่อว่าแกจะกลับมาขอร้องฉัน" ฉีเหอถูพูดอย่างเย็นชา และยังคงมีความเชื่ออย่างแข็งแกร่ง
เขาเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของหลินหยินดี เขาไม่เชื่อเลยว่า หลินหยินจะปฏิเสธเงื่อนไขของเขา

ลูกเขยที่ไร้ความสามรถแต่งเข้าบ้านไปสองปี เป็นไปได้อย่างไรที่จะปฏิเสธของที่อยู่แค่ปลายนิ้ว โอกาสที่จะได้เป็นใหญ่?

ไม่มีใครไม่อยากก้าวไปข้างหน้าหรอก?

"หึ งั้นคุณก็ค่อยๆ รอละกัน"

หลินหยินหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่หันกลับไปมอง และออกจากโรงแรมฉิงหยุนไป

Download APP, continue reading

Chapters

1324