บทที่ 4 บริษัทกลุ่มตงไห่หนิงซื่อ

by อาห่าว 10:23,Nov 30,2020
ณ เมืองชิงหยุน เขตตงเฉิน ตึกตระกูลหนิง

ตึกนั้นมีทั้งหมดราว70กว่าชั้น สูงใหญ่ตระการตาตั้งอยู่ใจกลางเมือง

เป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในเมืองชิงหยุน ตึกตระกูลหนิงถือได้ว่าเป็นอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนี้

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้หนิงซื่อกรุ๊ปได้เข้าสู่เมืองชิงหยุน และได้สร้างความฮือฮาไปทั่วจังหวัดตงไห่

ถือได้ว่าเป็นสมบัติของตระกูลดิจิงหนิง ซึ่งเป็นตระกูลอับดับต้นๆ ของในแดนมังกรทั้งหมด

หลินหยินมาถึงที่หน้าอาคาร เดินไปที่ห้องรับแขก

“คุณคะ ไม่ทราบว่าคุณต้องการพบใครคะ?” พนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ถามอย่างเกรงใจ

“ผมมาหาประธานของพวกคุณ หนิงเชวีย” หลินหยินพูดแบบนิ่งๆ

“คุณมาหาท่านประธาน? ไม่ทราบว่าคุณได้นัดหมายไว้ก่อนหรือเปล่าคะ?“ พนักงานต้อนรับถามอย่างสงสัย

หนุ่มคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ขายตามข้างทาง ไม่เหมือนคนที่จะมีสิทธิ์ขอพบกับท่านประธานได้

ท่านประธานหนิง หนิงเชวีย ในจังหวัดตงไห่ถือว่าเป็นตัวเเทนตระกูลดิจิงหนิง ซึ่งเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินมหาศาล เเม้เเต่คนทั้งเมืองฉิงหยุนนี้ ก็มีแค่ไม่กี่คนที่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดคุยกับเขาได้

หลินหยินพูด “เรียนตามที่ผมบอก ผมเป็นเพื่อนของหนิงไท่จี๋”

“ได้ค่ะ คุณรอสักครู่นะคะ” พนักงานต้อนรับเกิดความสงสัย หลังจากนั้นก็ต่อสายโทรศัพท์ ตั้งแต่ที่หล่อนอยู่ที่บริษัทหนิงซื่อกรุ๊ปมา ไม่เคยได้ยินคนชื่อหนิงไท่จี๋

อีกด้านนึง ในห้องทำงานท่านประธาน ชายวัยกลางคนกำลังจัดการกับเอกสารอยู่นั้น

ก๊อก! ก๊อก!

“เข้ามา”

เลขาหนุ่มเปิดประตูเข้ามา พูดด้วยความเคารพว่า “ท่านประธานครับ มีคนมาหาท่านที่หน้าเคาน์เตอร์”

“หน้าเคาน์เตอร์? วันนี้เวลานี้ฉันไม่มีนัดหนิ?” ชายวัยกลางคนคิ้วขมวดสงสัย พูดอย่างเคร่งครัดว่า “ไม่ใช่ว่ามีคนสุ่มสี่สุ่มห้ามาหาคน ก็ต้องมาถามฉันก่อน เข้าใจใช่ไหม?”

“เอ่อคือ...” เลขาหนุ่มมีท่าทีลังเล พูดว่า “ท่านประธานครับ คือคนนั้นเขาฝากให้มาเรียนท่านว่า เค้าเป็นเพื่อนของหนิงไท่จี๋ครับ”

“ผมเลยกังวลว่า อาจจะเป็นคนจากที่บ้านท่านประธานมาหาครับ...เลยจะมาเเจ้งให้ท่านทราบก่อน”

หนิงไท่จี๋!

ชายวัยกลางคนตะลึงไปสักพัก พร้อมกลับคิ้วที่ขมวดติดกัน

หนิงไท่จี๋เป็นหัวหน้าของตระกูลดิงจิงหนิง เป็นปู่ของเขา

พูดได้ว่า ในเมืองดิจิง มีเพียงเเค่เชื้อสายตระกูลหนิงเท่านั้นที่จะรู้ชื่อของคุณปู่ และไม่กล้าที่จะเรียกชื่อเต็มท่านด้วย ในเมืองของจังหวัดนี้ เป็นใครกันที่รู้ชื่อของคุณปู่ และยังมาหาเขาถึงที่ด้วย?

“คนนั้นเขาเป็นคนยังไง?” หนิงเชวียถามอย่างสงสัย

เลขาหนุ่มพูดว่า “เป็นชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้นๆครับ”

“งั้นให้เขามาหาที่ห้องทำงานผม” หนิงเชวียพูดเสียงหนักเเน่น พร้อมกับความสงสัย “หนุ่มวัย 20ต้นๆ ?”

5นาทีผ่านไป เลขาหนุ่มพาหลินหยินมาถึงชั้น66 ซึ่งเป็นห้องทำงานของท่านประธาน

พอถึงหลินหยินก็นั่งลงทันที

ชายวัยกลางคนที่ดูภูมิฐาน กำลังมองตัวเองอย่างเคร่งขรึม

“คุณคือ? หนิงเชวียถามอย่างสงสัย มองไม่ออกว่าหนุ่มวัยรุ่นผู้นี้เป็นใคร

“คุณรู้จักสิ่งนี้ไหม?” หลินหยินหยิบป้ายหยกสีเขียวขึ้นมา

ป้ายหยกนี้สลักด้วยลวดลายที่ซับซ้อน และมีคำว่า หนิงอยู่ตรงกลางเป็นที่เด่นชัดมาก

“นี้คือ?” หนิงเชวียตกใจเมื่อได้เห็นหยกชิ้นนี้ ในหัวยังคงมึนงง

นี้เป็นป้ายหยกที่แสดงฐานะตัวตนของตระกูลดิจิงหนิง มีเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น แม้แต่เขาที่เป็นตัวแทนของตระกูลหนิงในจังหวัดนี้ ยังไม่ได้ครอบครองมันเลย

เขาเคยเห็นพ่อของเขาถือมันอยู่ตอนที่เขานั้นยังเป็นเด็ก ถ้านับจากระดับเเล้วหยกที่พ่อของเขามีนั้น ยังต่ำกว่าระดับหนึ่งของชิ้นที่ชายหนุ่มคนนี้ถืออยู่

“คุณรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปเชิญผู้จัดการหูมา” หนิงเชวียน้ำเสียงหนักแน่น แถมยังเปลี่ยนคำสรรพนามอย่างสุภาพอีกด้วย เพราะไม่กล้าที่จะเสียมารยาทกับชายหนุ่มผู้นี้

หลินหยินพยักหน้าเล็กน้อย

เขาไม่เคยสงสัยสิ่งที่อาจารย์นั้นเคยพูดไว้ เพราะตอนเด็กเขาเคยพบกับหัวหน้าตระกูลหนิง หนิงไท่จี๋ พร้อมกับอาจารย์ แม้แต่หนิงไท่จี๋เจอหน้าอาจารย์ของเขาก็ยังต้องเเสดงความเคารพ นับประสาอะไรกับหลานชายของเขาละ?

ก่อนมาที่นี่ก็ได้หาข้อมูลว่า หนิงเชวียนั้นเป็นผู้สืบทอดรุ่นที่3 ของตระกูลหนิง ถึงเเม่ว่าจะไม่ใช่คนที่เก่งกาจที่สุด แต่เขาไม่ใช่คนธรรมดา เขาจัดการบริหาร หนิงซื่อ กรุ๊ป ในจังหวัดตงไห่

ธุรกิจ หนิงซื่อ กรุ๊ป ในจังหวัดตงไห่ ทำเกี่ยวกับการประมูลวัตถุโบราณ เครื่องประดับอัญมณี การวิจัยทางการเเพทย์ กระทั้งอสังหาริมทรัพย์เเละการลงทุนทางการเงิน ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการค้า

ผ่านไปไม่นาน หนิงเชวียเชิญชายชราที่สวมชุดสีน้ำตาลเเดงและมีผมสีขาวท่านหนึ่ง

หลังจากนั้น หนิงเชวีนก็ถอยหลังไปข้างๆ

เขามีหน้าที่แค่บริหารธุรกิจของบริษัท ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นความลับ พ่อของเขาจะเป็นคนส่งผู้รับผิดชอบมา คุณหูเป็นคนรับผิดชอบ...

ชายชราท่านนี้ดูไปแล้วเหมือนอายุ 5-60ปี แต่ทุกฝีก้าวดูสง่าผ่าเผย มีสายตาที่เเหลมคม แลดูเป็นคนที่สุขุมมีพลัง

ชายชรามองไปที่มือของหลินหยินที่ถือป้ายหยกอยู่นั้น สายตานั้นตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็สูดหายใจเข้าและถามว่า "ผมหูฉางไห่ ไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไร?”

“หลินหยิน”

“น้องหลินนำป้ายหยกมาถึง หนิงซื่อ กรุ๊ป ขอประทานอภัยที่ล่วงเกิน เเต่ขอข้าลองทดสอบสถานะท่านหน่อยได้หรือไม่?” หูฉางไห่ถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“ได้สิ” หลินหยินหยักหน้า

เขาก็พอจะมองออกว่า หูฉางไห่นั้นไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเป็นนักศิลปะการต่อสู้โบราณ

หูฉางไห่พนักหน้า พร้อมกับกวาดมือไปด้านหน้าอย่างกระทันหัน ทันใดนั้นก็มีลูกประคำหยกปรากฏออกมา เสียงดังกังวานกลางอากาศ และทะลุตรงไปหาหลินหยิน

หลินหยินนั่งอยู่กับที่ไม่ขยับ ใช้ 5นิ้วกำลูกประคำหยกทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นค่อยๆ แบมือออก เถ้าผงหยกหล่นลงมาระหว่างนิ้ว

พอได้เห็นฉากนี้ หนิงเชวียขมวดคิ้วอย่างดุดัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

สีหน้าของหูฉางไห่ก็เต็มไปด้วยความสงสัย พึมพำกับตัวเอง “พลังภายในเเรงกล้า..ยิ่งไปกว่านั้นยังเด็กอยู่เลย หรือว่าจะเป็นผู้สืบทอดคนนั้น”

ในฐานะผู้จัดการของตระกูลหนิง เขาได้รู้ความลับของตระกูลหลิน ที่เกี่ยวกับการต่อสู้โบราณ เเละก็พอที่จะคาดเดาได้ว่าหลินหยินเป็นใคร

หูฉางไห่โค้งคำนับเเละพูดว่า “หัวหน้าผู้จัดการบ้านหลังที่สามของตระกูลหนิง หูฉางไห่ ทำความเคารพท่านอาวุโส”

“หนิงเชวีย ขอทำความเคารพท่านอาวุโส” หนิงเชวียก็พูดตามอย่างเคร่งครึม

ป้ายหยกตระกูลหนิงที่อยู่ในมือของหลินหยิน แสดงถึงตำแหน่งท่านผู้อาวุโสของตระกูลหนิง ตามกฎของตระกูลหนิงแล้วคือเข้มงวดมาก และไม่สามารถอ่อนข้อต่อให้ใครได้

สถานะเป็นที่ยินยอม หลินหยินพยักหน้าเล็กน้อย

“ท่านอาวุโสมาสาขาตงไห่ครั้งนี้ มีอะไรให้รับใช้หรือครับ?” หูฉางไห่ถามอย่างจริงจัง

กริ๊งกริ๊ง…

ในขนะนั้น โทรศัพท์ของหลินหยินก็ดังขึ้น…

“หลินหลิน ไอ้คนไร้ประโยชน์แกอยู่ไหน? รีบมาที่โรงพยาบาลในเมืองเดี๋ยวนี้! ฉันให้คนร่างข้อตกลงการหย่าร้างเเล้วรีบมาเซ็นเลย” เสียงลู่หย่าฮุ่ยในสายดังออกมากเเสดงถึงความเร่งรีบ

“เกิดอะไรขึ้น?” หลินหยินถาม

“วันนี้ที่โรงงาน พ่อของฉีโม่ได้เจอกับจางเทียนไห่ที่จะมาซื้อโรงงาน เเต่เกิดเหตุไม่คาดคิด โดนทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาล ฉีโม่โต้เถียงจนเป็นลม ตอนนี้จางเทียนไห่ยังคงบีบบังคับพวกเราเรื่องนี้ และจะเอาบ้านที่พวกเราอยู่ไปใช้หนี้ เขายังพูดอีกว่า ถ้าแกกับฉีโม่หย่ากัน เขาถึงจะปล่อยเราไป ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะแกคนเดียว! ฉันขอร้องหย่ากับลูกสาวฉันเถอะ! ถ้าแกยังมีจิตสำนึก! ครอบครัวเรารับเรื่องแบบนี้ไม่ไหวแล้ว”

เสียงในสาย ดูเหมือนว่าลู่หย่าฮุ้ยพูดด้วยเสียงร้องไห้ สถานการณ์ดูเหมือนเร่งด่วนมาก

“ผมทราบเเล้ว เดี๋ยวผมไปหา” หลินหยินวางสาย สีหน้าท่าทางเปลี่ยนเป็นเย็นชา

ฉีโม่เป็นลมไปเหรอ?

สายตาของหลินหยินเปลี่ยนอย่างกับคมดาบ มองไปที่หูฉางไห่และหนิงเชวีย

“ฉันต้องการให้ Zhang's Jewellery Group ล้มละลายภายในวันเดียว” หลินหยินกล่าวอย่างเย็นชา

“รับทราบ! ท่านอาวุโส จะปฏิบัติตามคำสั่งที่ท่านสั่ง” หนิงเชวียพูดด้วยความเคารพ

หนิงเชวียโล่งใจ เขานึกว่าท่านอาวุโสที่จู่ๆ ก็เหมือนฟ้าจุติมา จะสั่งให้เขาทำเรื่องที่ทำให้ลำบากใจ

ให้บริษัทเล็กๆ อย่าง Zhang's Jewellery Group ล้มละลาย นั่นไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กน้อยมากหรอกหรือ?


Download APP, continue reading

Chapters

1324