บทที่ 928 เจอคน
by อาห่าว
08:01,Mar 30,2021
บริเวณตำแหน่งที่บันทึกไว้บนแผนที่ไม่ได้กว้างเท่าไหร่นักอยู่ในละแวกของหุบเขาวิญญาณงูนี่เองหลินหยินปลดปล่อยสัมผัสเทพออกมาหลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีทันใดนั้นเองเงาร่างของเขาก็ได้ชะงักไปก่อนที่แววตาจะเป็นประกายขึ้น:
"หาเจอแล้ว!"
เขาย่ำเท้าเบาๆก่อนที่ร่างกายจะลอยตัวขึ้นกลางอากาศแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังบริเวณที่เป็นจุดอ่อนของอาณาจักรลับ
หลังจากที่ไปถึงเขตกั้นระหว่างอาณาจักรหลินหยินหยิบแผ่นหยกออกมานำพลังพิศวงภายในร่างกายถ่ายทอดไปบนหยกแผ่นหยกสีแสงสว่างเกิดขึ้นเห็นแค่แผ่นกั้นระหว่างอาณาจักรที่หนาแน่นมากในตอนแรกเริ่มมีช่องรูเล็กๆรูนึงปรากฏ
ภายในเวลาเสี้ยววินาทีร่างกายของหลินหยินกลายเป็นกลุ่มควันสีขาวเล็กๆก้อนนึงมุดเข้าไปภายในช่องรูเล็กๆดังกล่าว
จากการมุดเข้าไปภายในรูเล็กๆของหลินหยินหลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีช่องรูดังกล่าวค่อยๆสมานตัวกลับไปเป็นเหมือนเดิมเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
……….
"ฮู่วในที่สุดก็เข้ามาได้แล้ว!"
หลังจากที่หลินหยินเข้ามาถึงเขาเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งราวกับว่ากลับไปถึงป่าลึกในยุคก่อนประวัติศาสตร์ยังไงอย่างงั้น
หลินหยินขมวดคิ้วช่องรูเล็กๆด้านหลังเขาได้ปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่บันทึกเครื่องหมายง่ายๆในตำแหน่งนี้เสร็จเขามุ่งหน้าบินไปในทิศใดทิศนึงนี่เป็นครั้งแรกที่เขามาอาณาจักรลับคุนหลุนยังไงไม่ว่าจะบินตรงไปในทิศทางไหนก็คงจะสามารถบินออกจากป่าลึกนี้ได้อยู่
หลินหยินมุ่งหน้าบินตรงไปเรื่อยๆพวกสัตว์ต่างๆที่พบเจอใหญ่โตกว่าสัตว์ในโลกมนุษย์หลายเท่าตัวเลยสถานที่แห่งนี้น่าจะอยู่บริเวณชายแดนของอาณาจักรลับความเข้มข้นของพลังแห่งจิตวิหลินหยินาณของที่นี่หนาแน่นกว่าพลังในโลกภายนอกอย่างน้อยสี่ห้าเท่าเมื่อกี้ตอนที่กำลังโบยบินอยู่มีงูยักษ์ขนาดเท่าถังน้ำตัวนึงโจมตีเข้าใส่เขาแต่ถูกเขากำจัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ความเร็วในการฝึกฝนอยู่ในสถานที่แห่งนี้รวดเร็วกว่าการฝึกฝนอยู่ในโลกภายนอกไม่น้อยเลยแฮะและจากที่เย่ท่าเทียนกล่าวไม่ว่าจะเป็นตระกูลเล็กๆใหญ่ๆที่อยู่ในอาณาจักรลับต่างมีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้สำหรับการฝึกฝนของตัวเองความเร็วในการฝึกฝนรวดเร็วกว่าโลกภายนอกไม่น้อยกว่าสิบเท่าเลย"
หลินหยินใช้ลมบินไปด้วยพลางคิดไปด้วยหลังจากที่บินไปได้หนึ่งชั่วโมงในที่สุดสัมผัสเทพของหลินหยินก็สัมผัสได้สักทีว่าด้านหน้ามีการเคลื่อนไหวของคนปรากฏถ้าพูดให้ตรงหน่อยก็คือผู้ชายสี่คนกำลังไล่ฆ่าชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
"เถียนไจแกแน่ใจหรอว่าจะลงมือโจมตีพวกเราแกไม่กลัวการล้างแค้นจากตระกูลหลิงของเราหรือ!"
หลิงยวี่ซานนำหญิงสาวคนหนึ่งปกป้องอยู่ด้านหลังของตัวเองพลางจ้องมองเถียนไจที่อยู่ห่างไม่ไกลภายในแววตาเต็มไปด้วยรังสีแห่งความโกรธเกลียดถ้าไม่ใช่เพราะเถียนไจพวกเขาจะตกต่ำอย่างทุกวันนี้ได้ยังไง
"เหอะ!"
เถียนไจหัวเราะอย่างดูหมิ่นก่อนจะพูด:"หลิงยวี่ซานส่งสมบัติออกมาซะของสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลหลิงของแกจะสามารถเก็บรักษาได้หรอกนะถึงแม้แกจะไม่คิดเผื่อตัวเองอย่างน้อยก็ต้องคิดเผื่อหลิงซวงด้วยนะ!"
พูดจบเถียนไจใช้สายตาที่หื่นกามจ้องมองไปทางหลิงซวง
"แกกล้าหรือ!"
หลิงยวี่ซานตะคอกอย่าโกรธกริ้ว
หลินหยินขมวดคิ้วตอนแรกทันทีที่เข้ามาถึงอาณาจักรลับเขากะจะไปสืบหาเรื่องเรื่องนึงก่อนค่อยไปหาสถานที่สำหรับการฝึกฝนแต่ทว่าถ้าปล่อยพลาดคนพวกนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะเจอคนอื่นๆได้อีกเมื่อไหร่สุดท้ายจึงตัดสินใจออกไปช่วยสักตั้ง!
เมื่อคิดแบบนี้ได้หลินหยินจึงบินตรงไปในทิศทางของหลิงยวี่ซานและคนอื่นๆ
"หลิงยวี่ซานในเมื่อแกรนหาที่ตายงั้นฉันก็จะทำให้แกได้สมปรารถนา!"
เถียนไจในตอนนี้หมดความอดทนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลิงยวี่ซานในตอนนี้เป็นแค่ลูกไก่ในกำมือตัวเดียวเท่านั้นถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าสมบัติบนตัวหลิงยวี่ซานจะเสียหายเขาลงมือตั้งแต่แรกแล้วแต่ว่าในเมื่อหลิงยวี่ซานดื้อรั้นขนาดนี้งั้นเขาก็ทำได้แค่ลงมือโจมตีเขาแล้วล่ะ
เมื่อคิดแบบนี้ได้นัยตาของเถียนไจมีรังสีแห่งความดุร้ายเกิดขึ้นก่อนจะเบิกตากว้างแล้วพุ่งกระโจนตรงไปในทิศทางของหลิงยวี่ซานเลยพลางตะโกนเสียงดังในขณะเดียวกัน:
"ฉันจะไปสกัดหลิงยวี่ซานพวกนายไปจับตัวหลิงซวงมา!"
"รับทราบ!"
สามคนที่เหลือตอบตกลงก่อนจะรุมล้อมตรงเข้าไปในทิศทางของหลิงซวงทันที
"โอหัง!"
หลิงยวี่ซานลงมืออย่างโกรธกริ้วอยากจะกดดันให้เถียนไจถอยกลับไปแต่ว่าพลังความสามารถของทั้งสองสูสีกันมากเถียนไจแค่อยากถ่วงเวลาเขาเอาไว้เท่านั้นจะหลุดพ้นได้ง่ายขนาดนั้นได้ยังไง
เบื้องล่างทั้งสามของเถียนไจเมื่อเห็นว่าหลิงยวี่ซานถูกสกัดกั้นเอาไว้แล้วใบหน้าก็มีรอยยิ้มปรากฏชายวัยกลางคนคนนึงยื่นมือจะเข้าไปจับหลิงซวง
นัยตาของหลิงซวงมีรังสีแห่งความสิ้นหวังเกิดขึ้นระดับความสามารถของเธอก็เพิ่งก้าวขึ้นมาในขั้นปฐพีช่วงต้นเท่านั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของยอดฝีมือแท่นสวรรค์ทั้งสามคนตรงหน้านี้ได้ยังไง
"ชิ่ว!"
หลิงซวงได้ยินแค่เสียงลมที่ผ่านพัดไปจากข้างหูบริเวณคอของยอดฝีมือแห่งสวรรค์ทั้งสามตรงหน้ามีรอยเลือดสีแดงรอยนึงปรากฏก่อนที่รอยสีแดงจะค่อยๆใหญ่ขึ้นจนกระทั่งศรีษะร่วงลงไปกับพื้น
"อ๊ายย…..!"
ในฐานะที่หลิงซวงเป็นคุณหนูใหญ่ในตระกูลหลิงเคยประสบเจอภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เธอกรีดร้องเสียงดัง
เสียงกรีดร้องของหลิงซวงก็ได้ดึงดูดความสนใจของซวและเถียนไจเช่นกันเมื่อทั้งสองเห็นภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่ข้างกายหลิงซวงในใจต่างรู้สึกตะลึงก่อนจะหยุดการต่อสู้อย่างรู้งานหลิงยวี่ซานวาร์ปตัวมาข้างกายหลิงซวงและนำตัวหลิงซวงปกป้องอยู่ด้านหลังของตัวเอง
"ไม่ทราบว่าเป็นยอดฝีมือจากที่ใด?"หลิงยวี่ซานคารวะต่อกลางอากาศที่ว่างเปล่าพลางพูดเสียงต่ำ
เถียนไจก็ได้สำรวจมองดูรอบๆอย่างลนลานเช่นกันเบื้องล่างทั้งสามคนของเขามีพลังความสามารถอยู่ในระดับแท่นสวรรค์ทั้งหมดเลยนะแต่เขากลับไม่สามารถมองเห็นเลยด้วยซ้ำว่าคนดังกล่าวที่จู่โจมเข้ามาใช้กระบวนท่าอะไรร่างกายของทั้งสามก็ได้แยกออกจากกันทันทีเลย
"นั่นคือ…..."
หลิงซวงมองดูท้องฟ้าก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ทั้งสองมองตามไปในทิศทางที่หลิงซวงจ้องมองก่อนจะพบว่ามีเงาร่างหนึ่งกำลังบินตรงมาจากบนท้องฟ้าความเร็วในการที่นั้นรวดเร็วมากหลังจากที่ใกล้เข้ามาแล้วถึงจะพบว่าคนดังกล่าวคือชายหนุ่มเสื้อขาวที่กำลังเอามือทั้งสองข้างไขว้ไว้ทางด้านหลัง
"ใช้ลมในการเคลื่อนที่!"
หลิงยวี่ซานรู้สึกตะลึงในใจชายหนุ่มเสื้อขาวที่อยู่ตรงหน้านี้อายุยังหนุ่มอยู่เลยก็อยู่ในระดับขั้นดินแดนอมตะแล้วเขาต้องเป็นลูกศิษย์เชื้อสายตรงของพวกตระกูลมหาอำนาจใหญ่ๆแน่นอนแต่แค่ไม่รู้ว่าเขามาเพราะสิ่งของที่อยู่บนอกมีของเขาหรือเปล่า
เถียนไจยิ่งดูอ่อนแอมากเข้าไปใหญ่ตอนที่เงาร่างของคนเสื้อขาวปรากฏเขาก็หันหลังแล้วมุ่งหน้าวิ่งเข้าไปในป่าเขาอย่างกระทันหันเลย
"จะหนีรอดหรือ?"
หลินหยินทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงเสียงที่ส่งไปถึงข้างหูของเถียนไจเหมือนเป็นเสียงที่กำลังกระซิบอยู่ข้างหูยังไงอย่างงั้นเถียนไจหันหลังไปมองก็พบว่ามีปราณดาบที่สว่างไสวกำลังพุ่งตรงเข้ามาในทิศทางของอย่างไว
"ตั่ง!"
เสียงทองเสียงนึงดังขึ้นศีรษะของเถียนไจดีดขึ้นบนฟ้าและร่างกายล้มทับลงไปกับพื้น
หลินหยินค่อยๆลอยตัวลงมาจากกลางอากาศ
เมื่อหลิงยวี่ซานเห็นแบบนี้จึงรีบก้มคำนับหรือแล้วพูดว่า:
"ขอบคุณคุณชายท่านนี้มากครับสำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิต"
หลินหยินมองหลิงยวี่ซานรอบนึงก่อนจะยิ้มเบาๆเขาต้องทราบถึงความเกรงกลัวของหลิงยวี่ซานเป็นธรรมดาอยู่แล้วถึงแม้เขาจะมีความสนใจต่อสิ่งของที่เถียนไจกล่าวถึงเช่นกันแต่ว่ายังไม่ถึงขั้นที่ต้องฆ่าคนเพียงเพราะสมบัติบางอย่าง
"ฉันไม่ได้สนใจสมบัติชิ้นนั้นหรอกพวกนายแค่พาฉันออกจากป่าเขานี้ก็ได้แล้ว!"
หลินหยินเอามือไขว้หลังพลางพูดอย่างเรียบนิ่ง
หลิงยวี่ซานและหลิงซวงต่างชะงักไปคิดไม่ถึงเลยว่าการที่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ก็เพราะแค่อยากให้พวกเขาพาตัวเองออกไปจากปากเขานี้งั้นหรอ
"เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ"
หลิงยวี่ซานรีบตอบกลับ
หลินหยินพยักหน้าและไม่ได้ตามถามเหมือนกันว่าสมบัติที่อยู่บนตัวหลิงยวี่ซานนั่นคืออะไร
หลินหยินและหลิงยวี่ซานหลิงซวงเดินอยู่ในป่าแห่งนี้ไปหนึ่งวันครึ่งถึงจะเดินออกมาจากป่าเขาแห่งนี้ได้ถ้าเกิดไม่มีการนำทางจากหลินหยินคาดว่าถ้าหลินหยินจะออกมาจากป่าเขาแห่งนี้ได้คงต้องใช้เวลาที่นานกว่านี้แน่นอน
ในระหว่างทางนี้หลินหยินได้ทราบเรื่องมาจากปากของหลิงยวี่ซานว่าตระกูลหลิงที่อยู่ในอาณาจักรลับคุนหลุนนี้เป็นแค่ตระกูลเล็กๆตระกูลนึงไม่สามารถเทียบเคียงกับเหล่าตระกูลใหญ่โตได้เลยด้วยซ้ำการที่อยู่ในอาณาจักรลับคุนหลุนก็ดีกว่าพวกคนธรรมดาทั่วไปนิดหน่อยเอง
ภายในอาณาจักรลับคุนหลุนก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ที่มีวิชาพลังทุกคนจากการพัฒนามานับร้อยปีมีผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จำนวนมากที่สมรรถภาพและคุณสมบัติไม่เพียงพอไม่ก็ทรัพยากรไม่เพียงพอและยากต่อการก้าวเข้าไปในเส้นทางการฝึกฝน
"คุณหลินครับตรงหน้านี้ก็คือเมืองชิงหยางแล้วครับเป็นพื้นที่ของตระกูลหลิงของผมถ้าคุณหลินไม่รังเกียจเข้าไปพักผ่อนก่อนไหมครับหลังจากนั้นค่อยออกเดินทาง"
เมื่อมาถึงบริเวณเมืองชิงหยาบนใบหน้าของหลิงยวี่ซานก็มีรอยยิ้มปรากฏเช่นกันนำสมบัติชิ้นนั้นกลับมาแล้วเขาก็รู้สึกพึงพอใจต่อคำสั่งจากหัวหน้าตระกูลแล้วล่ะ
"ได้!"
หลินหยินพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในเมืองชิงหยางพร้อมกันกับหลิงยวี่ซานเขาในตอนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับอาณาจักรลับคุนหลุนมากนักพอดีเลยจะได้ไปตระกูลหลิงดูซิว่าจะมีเบาะแสที่พอเป็นประโยชน์บ้างหรือเปล่า
ก้าวเดินออกไปยังไม่ถึงสองก้าวหลินหยินก็ได้หยุดฝีเท้าลงอย่ากระทันหันก่อนจะพูด:
"เพื่อนหลิงเหมือนตระกูลหลิงของนายจะเจอปัญหาแล้วล่ะ!"
"หาเจอแล้ว!"
เขาย่ำเท้าเบาๆก่อนที่ร่างกายจะลอยตัวขึ้นกลางอากาศแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังบริเวณที่เป็นจุดอ่อนของอาณาจักรลับ
หลังจากที่ไปถึงเขตกั้นระหว่างอาณาจักรหลินหยินหยิบแผ่นหยกออกมานำพลังพิศวงภายในร่างกายถ่ายทอดไปบนหยกแผ่นหยกสีแสงสว่างเกิดขึ้นเห็นแค่แผ่นกั้นระหว่างอาณาจักรที่หนาแน่นมากในตอนแรกเริ่มมีช่องรูเล็กๆรูนึงปรากฏ
ภายในเวลาเสี้ยววินาทีร่างกายของหลินหยินกลายเป็นกลุ่มควันสีขาวเล็กๆก้อนนึงมุดเข้าไปภายในช่องรูเล็กๆดังกล่าว
จากการมุดเข้าไปภายในรูเล็กๆของหลินหยินหลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีช่องรูดังกล่าวค่อยๆสมานตัวกลับไปเป็นเหมือนเดิมเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
……….
"ฮู่วในที่สุดก็เข้ามาได้แล้ว!"
หลังจากที่หลินหยินเข้ามาถึงเขาเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งราวกับว่ากลับไปถึงป่าลึกในยุคก่อนประวัติศาสตร์ยังไงอย่างงั้น
หลินหยินขมวดคิ้วช่องรูเล็กๆด้านหลังเขาได้ปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่บันทึกเครื่องหมายง่ายๆในตำแหน่งนี้เสร็จเขามุ่งหน้าบินไปในทิศใดทิศนึงนี่เป็นครั้งแรกที่เขามาอาณาจักรลับคุนหลุนยังไงไม่ว่าจะบินตรงไปในทิศทางไหนก็คงจะสามารถบินออกจากป่าลึกนี้ได้อยู่
หลินหยินมุ่งหน้าบินตรงไปเรื่อยๆพวกสัตว์ต่างๆที่พบเจอใหญ่โตกว่าสัตว์ในโลกมนุษย์หลายเท่าตัวเลยสถานที่แห่งนี้น่าจะอยู่บริเวณชายแดนของอาณาจักรลับความเข้มข้นของพลังแห่งจิตวิหลินหยินาณของที่นี่หนาแน่นกว่าพลังในโลกภายนอกอย่างน้อยสี่ห้าเท่าเมื่อกี้ตอนที่กำลังโบยบินอยู่มีงูยักษ์ขนาดเท่าถังน้ำตัวนึงโจมตีเข้าใส่เขาแต่ถูกเขากำจัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ความเร็วในการฝึกฝนอยู่ในสถานที่แห่งนี้รวดเร็วกว่าการฝึกฝนอยู่ในโลกภายนอกไม่น้อยเลยแฮะและจากที่เย่ท่าเทียนกล่าวไม่ว่าจะเป็นตระกูลเล็กๆใหญ่ๆที่อยู่ในอาณาจักรลับต่างมีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้สำหรับการฝึกฝนของตัวเองความเร็วในการฝึกฝนรวดเร็วกว่าโลกภายนอกไม่น้อยกว่าสิบเท่าเลย"
หลินหยินใช้ลมบินไปด้วยพลางคิดไปด้วยหลังจากที่บินไปได้หนึ่งชั่วโมงในที่สุดสัมผัสเทพของหลินหยินก็สัมผัสได้สักทีว่าด้านหน้ามีการเคลื่อนไหวของคนปรากฏถ้าพูดให้ตรงหน่อยก็คือผู้ชายสี่คนกำลังไล่ฆ่าชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
"เถียนไจแกแน่ใจหรอว่าจะลงมือโจมตีพวกเราแกไม่กลัวการล้างแค้นจากตระกูลหลิงของเราหรือ!"
หลิงยวี่ซานนำหญิงสาวคนหนึ่งปกป้องอยู่ด้านหลังของตัวเองพลางจ้องมองเถียนไจที่อยู่ห่างไม่ไกลภายในแววตาเต็มไปด้วยรังสีแห่งความโกรธเกลียดถ้าไม่ใช่เพราะเถียนไจพวกเขาจะตกต่ำอย่างทุกวันนี้ได้ยังไง
"เหอะ!"
เถียนไจหัวเราะอย่างดูหมิ่นก่อนจะพูด:"หลิงยวี่ซานส่งสมบัติออกมาซะของสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลหลิงของแกจะสามารถเก็บรักษาได้หรอกนะถึงแม้แกจะไม่คิดเผื่อตัวเองอย่างน้อยก็ต้องคิดเผื่อหลิงซวงด้วยนะ!"
พูดจบเถียนไจใช้สายตาที่หื่นกามจ้องมองไปทางหลิงซวง
"แกกล้าหรือ!"
หลิงยวี่ซานตะคอกอย่าโกรธกริ้ว
หลินหยินขมวดคิ้วตอนแรกทันทีที่เข้ามาถึงอาณาจักรลับเขากะจะไปสืบหาเรื่องเรื่องนึงก่อนค่อยไปหาสถานที่สำหรับการฝึกฝนแต่ทว่าถ้าปล่อยพลาดคนพวกนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะเจอคนอื่นๆได้อีกเมื่อไหร่สุดท้ายจึงตัดสินใจออกไปช่วยสักตั้ง!
เมื่อคิดแบบนี้ได้หลินหยินจึงบินตรงไปในทิศทางของหลิงยวี่ซานและคนอื่นๆ
"หลิงยวี่ซานในเมื่อแกรนหาที่ตายงั้นฉันก็จะทำให้แกได้สมปรารถนา!"
เถียนไจในตอนนี้หมดความอดทนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลิงยวี่ซานในตอนนี้เป็นแค่ลูกไก่ในกำมือตัวเดียวเท่านั้นถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าสมบัติบนตัวหลิงยวี่ซานจะเสียหายเขาลงมือตั้งแต่แรกแล้วแต่ว่าในเมื่อหลิงยวี่ซานดื้อรั้นขนาดนี้งั้นเขาก็ทำได้แค่ลงมือโจมตีเขาแล้วล่ะ
เมื่อคิดแบบนี้ได้นัยตาของเถียนไจมีรังสีแห่งความดุร้ายเกิดขึ้นก่อนจะเบิกตากว้างแล้วพุ่งกระโจนตรงไปในทิศทางของหลิงยวี่ซานเลยพลางตะโกนเสียงดังในขณะเดียวกัน:
"ฉันจะไปสกัดหลิงยวี่ซานพวกนายไปจับตัวหลิงซวงมา!"
"รับทราบ!"
สามคนที่เหลือตอบตกลงก่อนจะรุมล้อมตรงเข้าไปในทิศทางของหลิงซวงทันที
"โอหัง!"
หลิงยวี่ซานลงมืออย่างโกรธกริ้วอยากจะกดดันให้เถียนไจถอยกลับไปแต่ว่าพลังความสามารถของทั้งสองสูสีกันมากเถียนไจแค่อยากถ่วงเวลาเขาเอาไว้เท่านั้นจะหลุดพ้นได้ง่ายขนาดนั้นได้ยังไง
เบื้องล่างทั้งสามของเถียนไจเมื่อเห็นว่าหลิงยวี่ซานถูกสกัดกั้นเอาไว้แล้วใบหน้าก็มีรอยยิ้มปรากฏชายวัยกลางคนคนนึงยื่นมือจะเข้าไปจับหลิงซวง
นัยตาของหลิงซวงมีรังสีแห่งความสิ้นหวังเกิดขึ้นระดับความสามารถของเธอก็เพิ่งก้าวขึ้นมาในขั้นปฐพีช่วงต้นเท่านั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของยอดฝีมือแท่นสวรรค์ทั้งสามคนตรงหน้านี้ได้ยังไง
"ชิ่ว!"
หลิงซวงได้ยินแค่เสียงลมที่ผ่านพัดไปจากข้างหูบริเวณคอของยอดฝีมือแห่งสวรรค์ทั้งสามตรงหน้ามีรอยเลือดสีแดงรอยนึงปรากฏก่อนที่รอยสีแดงจะค่อยๆใหญ่ขึ้นจนกระทั่งศรีษะร่วงลงไปกับพื้น
"อ๊ายย…..!"
ในฐานะที่หลิงซวงเป็นคุณหนูใหญ่ในตระกูลหลิงเคยประสบเจอภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เธอกรีดร้องเสียงดัง
เสียงกรีดร้องของหลิงซวงก็ได้ดึงดูดความสนใจของซวและเถียนไจเช่นกันเมื่อทั้งสองเห็นภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่ข้างกายหลิงซวงในใจต่างรู้สึกตะลึงก่อนจะหยุดการต่อสู้อย่างรู้งานหลิงยวี่ซานวาร์ปตัวมาข้างกายหลิงซวงและนำตัวหลิงซวงปกป้องอยู่ด้านหลังของตัวเอง
"ไม่ทราบว่าเป็นยอดฝีมือจากที่ใด?"หลิงยวี่ซานคารวะต่อกลางอากาศที่ว่างเปล่าพลางพูดเสียงต่ำ
เถียนไจก็ได้สำรวจมองดูรอบๆอย่างลนลานเช่นกันเบื้องล่างทั้งสามคนของเขามีพลังความสามารถอยู่ในระดับแท่นสวรรค์ทั้งหมดเลยนะแต่เขากลับไม่สามารถมองเห็นเลยด้วยซ้ำว่าคนดังกล่าวที่จู่โจมเข้ามาใช้กระบวนท่าอะไรร่างกายของทั้งสามก็ได้แยกออกจากกันทันทีเลย
"นั่นคือ…..."
หลิงซวงมองดูท้องฟ้าก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ทั้งสองมองตามไปในทิศทางที่หลิงซวงจ้องมองก่อนจะพบว่ามีเงาร่างหนึ่งกำลังบินตรงมาจากบนท้องฟ้าความเร็วในการที่นั้นรวดเร็วมากหลังจากที่ใกล้เข้ามาแล้วถึงจะพบว่าคนดังกล่าวคือชายหนุ่มเสื้อขาวที่กำลังเอามือทั้งสองข้างไขว้ไว้ทางด้านหลัง
"ใช้ลมในการเคลื่อนที่!"
หลิงยวี่ซานรู้สึกตะลึงในใจชายหนุ่มเสื้อขาวที่อยู่ตรงหน้านี้อายุยังหนุ่มอยู่เลยก็อยู่ในระดับขั้นดินแดนอมตะแล้วเขาต้องเป็นลูกศิษย์เชื้อสายตรงของพวกตระกูลมหาอำนาจใหญ่ๆแน่นอนแต่แค่ไม่รู้ว่าเขามาเพราะสิ่งของที่อยู่บนอกมีของเขาหรือเปล่า
เถียนไจยิ่งดูอ่อนแอมากเข้าไปใหญ่ตอนที่เงาร่างของคนเสื้อขาวปรากฏเขาก็หันหลังแล้วมุ่งหน้าวิ่งเข้าไปในป่าเขาอย่างกระทันหันเลย
"จะหนีรอดหรือ?"
หลินหยินทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงเสียงที่ส่งไปถึงข้างหูของเถียนไจเหมือนเป็นเสียงที่กำลังกระซิบอยู่ข้างหูยังไงอย่างงั้นเถียนไจหันหลังไปมองก็พบว่ามีปราณดาบที่สว่างไสวกำลังพุ่งตรงเข้ามาในทิศทางของอย่างไว
"ตั่ง!"
เสียงทองเสียงนึงดังขึ้นศีรษะของเถียนไจดีดขึ้นบนฟ้าและร่างกายล้มทับลงไปกับพื้น
หลินหยินค่อยๆลอยตัวลงมาจากกลางอากาศ
เมื่อหลิงยวี่ซานเห็นแบบนี้จึงรีบก้มคำนับหรือแล้วพูดว่า:
"ขอบคุณคุณชายท่านนี้มากครับสำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิต"
หลินหยินมองหลิงยวี่ซานรอบนึงก่อนจะยิ้มเบาๆเขาต้องทราบถึงความเกรงกลัวของหลิงยวี่ซานเป็นธรรมดาอยู่แล้วถึงแม้เขาจะมีความสนใจต่อสิ่งของที่เถียนไจกล่าวถึงเช่นกันแต่ว่ายังไม่ถึงขั้นที่ต้องฆ่าคนเพียงเพราะสมบัติบางอย่าง
"ฉันไม่ได้สนใจสมบัติชิ้นนั้นหรอกพวกนายแค่พาฉันออกจากป่าเขานี้ก็ได้แล้ว!"
หลินหยินเอามือไขว้หลังพลางพูดอย่างเรียบนิ่ง
หลิงยวี่ซานและหลิงซวงต่างชะงักไปคิดไม่ถึงเลยว่าการที่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ก็เพราะแค่อยากให้พวกเขาพาตัวเองออกไปจากปากเขานี้งั้นหรอ
"เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ"
หลิงยวี่ซานรีบตอบกลับ
หลินหยินพยักหน้าและไม่ได้ตามถามเหมือนกันว่าสมบัติที่อยู่บนตัวหลิงยวี่ซานนั่นคืออะไร
หลินหยินและหลิงยวี่ซานหลิงซวงเดินอยู่ในป่าแห่งนี้ไปหนึ่งวันครึ่งถึงจะเดินออกมาจากป่าเขาแห่งนี้ได้ถ้าเกิดไม่มีการนำทางจากหลินหยินคาดว่าถ้าหลินหยินจะออกมาจากป่าเขาแห่งนี้ได้คงต้องใช้เวลาที่นานกว่านี้แน่นอน
ในระหว่างทางนี้หลินหยินได้ทราบเรื่องมาจากปากของหลิงยวี่ซานว่าตระกูลหลิงที่อยู่ในอาณาจักรลับคุนหลุนนี้เป็นแค่ตระกูลเล็กๆตระกูลนึงไม่สามารถเทียบเคียงกับเหล่าตระกูลใหญ่โตได้เลยด้วยซ้ำการที่อยู่ในอาณาจักรลับคุนหลุนก็ดีกว่าพวกคนธรรมดาทั่วไปนิดหน่อยเอง
ภายในอาณาจักรลับคุนหลุนก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ที่มีวิชาพลังทุกคนจากการพัฒนามานับร้อยปีมีผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จำนวนมากที่สมรรถภาพและคุณสมบัติไม่เพียงพอไม่ก็ทรัพยากรไม่เพียงพอและยากต่อการก้าวเข้าไปในเส้นทางการฝึกฝน
"คุณหลินครับตรงหน้านี้ก็คือเมืองชิงหยางแล้วครับเป็นพื้นที่ของตระกูลหลิงของผมถ้าคุณหลินไม่รังเกียจเข้าไปพักผ่อนก่อนไหมครับหลังจากนั้นค่อยออกเดินทาง"
เมื่อมาถึงบริเวณเมืองชิงหยาบนใบหน้าของหลิงยวี่ซานก็มีรอยยิ้มปรากฏเช่นกันนำสมบัติชิ้นนั้นกลับมาแล้วเขาก็รู้สึกพึงพอใจต่อคำสั่งจากหัวหน้าตระกูลแล้วล่ะ
"ได้!"
หลินหยินพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในเมืองชิงหยางพร้อมกันกับหลิงยวี่ซานเขาในตอนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับอาณาจักรลับคุนหลุนมากนักพอดีเลยจะได้ไปตระกูลหลิงดูซิว่าจะมีเบาะแสที่พอเป็นประโยชน์บ้างหรือเปล่า
ก้าวเดินออกไปยังไม่ถึงสองก้าวหลินหยินก็ได้หยุดฝีเท้าลงอย่ากระทันหันก่อนจะพูด:
"เพื่อนหลิงเหมือนตระกูลหลิงของนายจะเจอปัญหาแล้วล่ะ!"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved