บทที่ 959 บังเอิญเจอ
by อาห่าว
08:01,Apr 02,2021
"มุ่งหน้าเดินต่อไปเถอะ!"
ไป๋ยวีนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ
"มีโชคชะตาโอกาสบางอย่างอยู่ด้านหน้าคาดว่าพวกนั้นต้องตามมาด้วยแน่นอน!"
ถ้าเกิดอ้อมเส้นทางเดินนี้ไปการที่พวกเขาจะไปถึงจุดวาร์ปได้นั้นต้องใช้เวลาในการเดินทางอย่างน้อยหนึ่งวันอีกอย่างด้านหน้ามีโอกาสและโชคชะตาบางอย่างอยู่อีกด้วยเป็นสิ่งที่ทุกๆตระกูลใหญ่ต่างรู้กันดีตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันแล้วคาดว่าน่าจะได้รวมตัวกันอยู่ตรงนั้นหมดแล้ว
อีกอย่างตอนนี้ข้างกายเขามีผู้ที่สามารถฆ่ายอดฝีมือดินแดนแห่งความเป็นอมตะอย่างหลินหยินอยู่ด้วยทั้งคนบวกกับการฟื้นฟูพลังของตัวเองในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้พลังการต่อสู้ของเขาก็ฟื้นฟูขึ้นมาพอสมควรแล้วไม่ว่าจะเจอกับคนแบบไหนก็พอมีกำลังที่จะต่อสู้ได้อยู่
"ได้!"
หลินหยินพยักหน้าเขาแค่ต้องส่งไป๋ยวีไปถึงจุดวาร์ปก็ได้แล้วที่เขาช่วยชีวิตไป๋ยวีไว้นั้นก็ไม่ใช่เป็นเพราะอยากหาจะเรื่องตระกูลชิงแต่อย่างใดถ้าเกิดเขาประสบเจอภัยอันตรายที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้เขาก็จะทิ้งไป๋ยวีไว้แล้วหนีตัวรอดคนเดียวแน่นอน
ทั้งสองคนได้เดินทางต่อหลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดผู้คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ได้หยุดฝีเท้าลงสักทีและหลินหยินและไป๋ยวีก็ได้พบเจอกับผู้คนที่อยู่ด้านหน้าในที่สุด
คนกลุ่มนี้มีจำนวนคนประมาณหกเจ็ดคนหลังจากที่เห็นหลินหยินและไป๋ยวีใบหน้าของคนที่อยู่ด้านหน้าสุดมีรอยยิ้มแห่งความเลศนัยปรากฏ
"โอ๊ะนี่มันคุณชายใหญ่ตระกูลไป๋ไม่ใช่หรอกหรอ?"
คนที่อยู่ด้านหน้าสุดสำรวจไป๋ยวีตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า:"ปฏิบัติการในครั้งนี้สภาพของคุณชายไป๋ดูไม่ค่อยดีเลยนะกองที่กำลังถืออยู่ในมือคุณคืออะไรหรอครับ"
ผู้คนที่อยู่รอบๆเขาก็ได้ยิ้มเยาะเย้ยด้วยเช่นกัน
ไป๋ยวีไม่ไปสนใจคนพวกนี้เลยด้วยซ้ำหันไปพูดเสียงต่ำกับหลินหยิน:"ฝั่งนั้นคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดคือซ่งเจ๋อเป็นคนจากตระกูลซ่งคนที่อยู่ข้างๆคือขุนนางต่างแดนของตระกูลชิงชิงซิวจู๋แซ่ดั้งเดิมของคนดังกล่าวคืออีกแซ่นึงแต่เนื่องจากพลังความสามารถของเขาแค่เป็นรองชิงเซวียนจึงได้รับการแต่งตั้งให้แซ่ชิง"
เมื่อเห็นว่าไป๋ยวีไม่ตอบกลับรอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งเจ๋อลดน้อยลงก่อนจะค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาหลินหยินและไป๋ยวีแล้วพูดเสียงเบา:"ไป๋ยวีแกคิดว่าถ้าฉันฆ่าแกที่นี่เลยจะเป็นยังไงบ้าง?"
"หึ!"
ไป๋ยวีทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง:"ฉันกลัวว่าแกจะไม่มีปัญญานั้นอะสิ!"
ถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นเขาที่อยู่ที่นี่คนเดียวบางทีเขาอาจจะหันหน้าแล้วมีไปตั้งนานแล้วพลังความสามารถของซ่งเจ๋อสูสีกันกับเขาแต่ว่าจำนวนคนฝั่งของซ่งเจ๋อยังมีอีกหลายคน
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันข้างกายเขามีหลินหยินแม้กระทั่งชิงเซวียนยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินหยินเลยแล้วนับประสาอะไรกับพวกซ่งเจ๋อ?
หลินหยินยิ้มอ่อนพลางมองไป๋ยวีไป๋ยวีถูกเขาจ้องมองจนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเขาถึงจะหุบปากไป
สายตาของชิงซิวจู๋ที่ยืนอยู่ข้างๆซ่งเจ๋อมีรังสีแห่งความสงสัยแวบผ่านไปก่อนจะหันไปพูดเสียงเบากับซ่งเจ๋อ:"พวกเราไปที่แม่น้ำเสื่อก่อนไปเก็บทรัพยากรตรงนั้นให้ได้ก่อนค่อยว่ากันอีกทีอย่าให้มีปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามา"
"ทำไมล่ะ?นายไม่ชอบขี้หน้าไป๋ยวีมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ?นี่มันโอกาสที่ดีงามเลยนะ!"
ซ่งเจ๋อมองชิงซิวจู๋ด้วยสายตาที่แปลกใจในความเข้าใจของเขาชิงซิวจู๋ไม่ควรเป็นคนประเภทนี้สิถึงจะถูกตั้งแต่ที่เดินทางมาพวกเขาฟังคำสั่งและแผนการของชิงซิวจู๋มาตลอดเลยนะกำจัดจำนวนคนไปได้ไม่น้อยเลยมากไปกว่านั้นยังมีลูกหลานเชื้อสายตรงของเหล่าตระกูลใหญ่ๆอีก
ตอนนี้อยู่ในเทียนหยวนหลังจากที่ออกไปแล้วก็คงจะไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของพวกเขา
‘โง่เขลา!’
ชิงซิวจู๋ด่าคำว่าโง่เขลาคำนึงในใจก่อนจะพูดเสียงเบา:"ที่นี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำเสือมากๆทันทีที่มีการปะทะกันเกิดขึ้นต้องมีคนจากตระกูลอื่นๆมาแน่นอน"
ซ่งเจ๋อไตร่ตรองไปสักพักก่อนจะหันไปพูดกับไป๋ยวีอย่างดูหมิ่น:
"ถือว่าแกโชคดีไม่งั้นฉันจะสั่งสอนแกดีๆสักตั้ง!"
พูดจบก็ได้พาชิงซิวจู๋และคนอื่นๆมุ่งหน้าตรงไปยังแม่น้ำเสือ
"ถือว่าพวกมันโชคดี!"
ไป๋ยวีถอนหายใจก่อนจะพูดเขาคาดหวังให้พวกซ่งเจ๋อลงมืออยู่อย่างน้อยก็สามารถสั่งสอนพวกมันได้สักยก
"พวกมันไม่ได้โชคดีหรอกนะ!"
หลินหยินส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูด:"บางทีชิงซิวจู๋นั่นอาจจะรู้ว่าชิงเซวียนจะฆ่านายแต่ตอนนี้นายยังมีชีวิตอยู่เขาจะไม่กล้าลงมือต่อนายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว!"
"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!"
ไป๋ยวีพยักหน้าก่อนจะพูด:"เพื่อนหลินเดี๋ยวนายช่วยฉันฆ่าชิงซิวจู๋หน่อยนะไม่งั้นถ้าหลังจากที่ออกไปชิงเจ๋อเซียนรู้ว่าพวกเราเป็นคนฆ่าชิงเซวียนพวกเราสองคนจะไม่มีใครมีชีวิตต่อไปได้แน่นอน"
"ได้!"
หลินหยินตอบอย่างเรียบนิ่งแค่ชิงซิวจู๋คนเดียวเองในเมื่อเป็นคนของตระกูลชิงรวดฆ่าไปด้วยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
"งั้นพวกเราก็ไปแม่น้ำเสือกันเถอะ!"
………
รูปร่างของแม่น้ำเสือเหมือนเสือดุร้ายสองตัวกำลังแก่งแย่งอาหารกันอยู่ดังนั้นถึงได้มีชื่อว่าแม่น้ำเสือ
จากคำเล่าของไป๋ยวีได้ความมาว่าแม่น้ำเสือแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ถูกค้นพบจากเหล่าตระกูลเก่าแก่ที่ร่ำรวยต่างๆเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสมุนไพรยาวิเศษทุกๆร้อยปีเทียนหยวนจะถูกเปิดออกครั้งหนึ่งแล้วจะมีการมาเก็บเกี่ยวสมุนไพรยาวิเศษต่างๆภายในแม่น้ำเสือแห่งนี้
ตอนนี้ถึงแม้ว่าภายในแม่น้ำเสือจะไม่ค่อยมีพวกสมบัติล้ำค่าหรือผลไม้แปลกๆที่หายากต่างๆแล้วแต่ก็ยังมีพันธุ์ผลไม้แปลกที่หายากจะเจริญพันธุ์ทุกๆสิบปีอยู่ด้วย
เมื่อหลินหยินและไป๋ยวีไปถึงแม่น้ำเสือบริเวณด้านนอกของแม่น้ำเสือได้มีคนมาถึงประมาณยี่สิบกว่าคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนใหญ่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในอาณาจักรลับต่างรวมตัวกันอยู่ที่นี่มีแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง
ณตอนนี้คาถาเวทย์หน้าทางเข้าแม่น้ำเสือยังไม่ถูกเปิดออกทุกคนต่างเฝ้ารออยู่ด้านนอก
หลินหยินยืนอยู่ด้านนอกของคาถาเวทย์พลางจ้องมองผลไม้แปลกที่อยู่ภายในคาถาเวทย์แล้วยิ้มขึ้นมาที่มุมปากภายในนั้นมีผลไม้แปลกหลายประเภทที่อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อคนในอาณาจักรลับคุนหลุนแต่สำหรับเบื้องล่างของเขาที่อยู่ภายในโลกภายนอกนั้นถือว่าเป็นของเด็ดของดีที่สามารถพลิกผันชะตาชีวิตได้เลย
"หลินหยินในฐานะที่แกเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวนของฉันแต่ไปคลุกคลีอยู่กับคนในตระกูลไป๋จะให้คนนอกคิดยังไง?"
ยังไม่รอให้หลินหยินเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าก็ได้ยินเสียงของหลี่เซียนดังขึ้น
"แกทำตัวอุกอาจต่อหน้าฉันตั้งแต่อยู่ด้านนอกแล้วนะตอนแรกแกไม่มาทำให้ฉันโกรธฉันกะจะปล่อยให้แกรอดไปได้ครั้งนึงหรือว่าแกคิดจริงๆหรอว่าฉันหลินหยินเป็นคนที่กดขี่ข่มเหงได้ง่าย?"
หลินหยินมองหลี่เซียนพลางพูดอย่างเยือกเย็น
"กดขี่ข่มเหงแกแล้วจะทำไม?"
หลี่เซียนลุกขึ้นยืนอย่างอวดดีพลังพิศวงในร่างกายเป็นประกายขึ้นพลังออร่าพุ่งสูงขึ้นฟ้า
หลินหยินไม่ได้ตอบบทสนทนาของเขาแค่ยื่นมือออกไปข้างนึงแล้วจับไปที่หลี่เซียน
"โครม!"
พลังปราณที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีรูปร่างปรากฏขึ้นกลางอากาศหลี่เซียนเหมือนถูกำลังดูดวนถูกหลินหยินกระชากเข้ามาภายในพริบตา
"ผนึกสิ!"
หลี่เซียนตะคอกอย่างโกรธกริ้วพลังพิศวงที่อยู่รอบกายเริ่มไหลเวียนอย่างเร็วแรงพลังพิศวงทั้งร่างกายฉุดขึ้นมาถึงจุดสูงสุดอยากจะสลัดพลังกระชากที่ยิ่งใหญ่นี้ออกไป
แต่ทว่าบนใบหน้าของหลินหยินไม่มีทั้งความสุขและความทุกข์ยังคงคงท่าทางอยู่เหมือนเดิมแต่ว่าพลังในการดูดกลืนนั้นกลับมีเพิ่มแรงมากยิ่งขึ้น
หลี่เซียนสังเกตเห็นอย่างหวาดผวาว่าเขาสลัดพลังกระชากนี้หลุดออกไม่ได้งั้นหรอทำได้แค่มองดูร่างกายของตัวเองค่อยๆใกล้เข้าไปหาหลินหยิน
"ปัง!"
หลี่เซียนถูกหลินหยินจับไว้ตั้งแต่ระยะห่างร้อยฟุตร่างกายของเขาอยู่ในมือหลินหยินแล้ว
หลินหยินโยนตัวหลี่เซียนลงไปกับพื้นก่อนที่ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบไปที่หัวของหลี่เซียนแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง:"ตอนนี้ล่ะ?"
"ไอ้บ้าปล่อยฉันนะ!"
หลี่เซียนดิ้นรนอย่างสุดกำลังแต่กลับพบว่าสลัดดิ้นไม่ออกเลยด้วยซ้ำถูกหลินหยินเหยียบอยู่บนพื้นต่อหน้าผู้คนที่มากขนาดนี้ต่อไปจะให้เขายืนหยัดอยู่ในอาณาจักรลับคุนหลุนต่อยังไง?เขาพูดอย่างโกรธกริ้ว:"หลินหยินต่อไปแกอย่าได้ตกอยู่ในกำมือของฉันนะไม่งั้นฉันจะทำให้แกตายไปอย่างทุกข์ทรมาน!"
ซวนหยวนหลงก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าหลี่เซียนจะตกอยู่ในมือของหลินหยินทันทีแบบนี้เลยหรอเขาก้าวเดินขึ้นมาหนึ่งก้าวก่อนจะพูดอย่างเยือกเย็น:"หลินหยินในฐานะที่แกเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวนลงมือทำร้ายคนในตระกูลซวนหยวนยังไม่รีบปล่อยเขาอีก!"
"แกร๊ก!"
เมื่อหลินหยินได้ยินแบบนี้สีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆแค่เหยียบที่เท้าทีนึงทำให้หัวของหลี่เซียนจมลงไปบนพื้นดินทันทีเลยแม้กระทั่งกระดูกใบหน้าก็โดนเหยียบจนแตกสลายไปเลย
ไป๋ยวีนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ
"มีโชคชะตาโอกาสบางอย่างอยู่ด้านหน้าคาดว่าพวกนั้นต้องตามมาด้วยแน่นอน!"
ถ้าเกิดอ้อมเส้นทางเดินนี้ไปการที่พวกเขาจะไปถึงจุดวาร์ปได้นั้นต้องใช้เวลาในการเดินทางอย่างน้อยหนึ่งวันอีกอย่างด้านหน้ามีโอกาสและโชคชะตาบางอย่างอยู่อีกด้วยเป็นสิ่งที่ทุกๆตระกูลใหญ่ต่างรู้กันดีตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันแล้วคาดว่าน่าจะได้รวมตัวกันอยู่ตรงนั้นหมดแล้ว
อีกอย่างตอนนี้ข้างกายเขามีผู้ที่สามารถฆ่ายอดฝีมือดินแดนแห่งความเป็นอมตะอย่างหลินหยินอยู่ด้วยทั้งคนบวกกับการฟื้นฟูพลังของตัวเองในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้พลังการต่อสู้ของเขาก็ฟื้นฟูขึ้นมาพอสมควรแล้วไม่ว่าจะเจอกับคนแบบไหนก็พอมีกำลังที่จะต่อสู้ได้อยู่
"ได้!"
หลินหยินพยักหน้าเขาแค่ต้องส่งไป๋ยวีไปถึงจุดวาร์ปก็ได้แล้วที่เขาช่วยชีวิตไป๋ยวีไว้นั้นก็ไม่ใช่เป็นเพราะอยากหาจะเรื่องตระกูลชิงแต่อย่างใดถ้าเกิดเขาประสบเจอภัยอันตรายที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้เขาก็จะทิ้งไป๋ยวีไว้แล้วหนีตัวรอดคนเดียวแน่นอน
ทั้งสองคนได้เดินทางต่อหลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดผู้คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ได้หยุดฝีเท้าลงสักทีและหลินหยินและไป๋ยวีก็ได้พบเจอกับผู้คนที่อยู่ด้านหน้าในที่สุด
คนกลุ่มนี้มีจำนวนคนประมาณหกเจ็ดคนหลังจากที่เห็นหลินหยินและไป๋ยวีใบหน้าของคนที่อยู่ด้านหน้าสุดมีรอยยิ้มแห่งความเลศนัยปรากฏ
"โอ๊ะนี่มันคุณชายใหญ่ตระกูลไป๋ไม่ใช่หรอกหรอ?"
คนที่อยู่ด้านหน้าสุดสำรวจไป๋ยวีตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า:"ปฏิบัติการในครั้งนี้สภาพของคุณชายไป๋ดูไม่ค่อยดีเลยนะกองที่กำลังถืออยู่ในมือคุณคืออะไรหรอครับ"
ผู้คนที่อยู่รอบๆเขาก็ได้ยิ้มเยาะเย้ยด้วยเช่นกัน
ไป๋ยวีไม่ไปสนใจคนพวกนี้เลยด้วยซ้ำหันไปพูดเสียงต่ำกับหลินหยิน:"ฝั่งนั้นคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดคือซ่งเจ๋อเป็นคนจากตระกูลซ่งคนที่อยู่ข้างๆคือขุนนางต่างแดนของตระกูลชิงชิงซิวจู๋แซ่ดั้งเดิมของคนดังกล่าวคืออีกแซ่นึงแต่เนื่องจากพลังความสามารถของเขาแค่เป็นรองชิงเซวียนจึงได้รับการแต่งตั้งให้แซ่ชิง"
เมื่อเห็นว่าไป๋ยวีไม่ตอบกลับรอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งเจ๋อลดน้อยลงก่อนจะค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาหลินหยินและไป๋ยวีแล้วพูดเสียงเบา:"ไป๋ยวีแกคิดว่าถ้าฉันฆ่าแกที่นี่เลยจะเป็นยังไงบ้าง?"
"หึ!"
ไป๋ยวีทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง:"ฉันกลัวว่าแกจะไม่มีปัญญานั้นอะสิ!"
ถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นเขาที่อยู่ที่นี่คนเดียวบางทีเขาอาจจะหันหน้าแล้วมีไปตั้งนานแล้วพลังความสามารถของซ่งเจ๋อสูสีกันกับเขาแต่ว่าจำนวนคนฝั่งของซ่งเจ๋อยังมีอีกหลายคน
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันข้างกายเขามีหลินหยินแม้กระทั่งชิงเซวียนยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินหยินเลยแล้วนับประสาอะไรกับพวกซ่งเจ๋อ?
หลินหยินยิ้มอ่อนพลางมองไป๋ยวีไป๋ยวีถูกเขาจ้องมองจนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเขาถึงจะหุบปากไป
สายตาของชิงซิวจู๋ที่ยืนอยู่ข้างๆซ่งเจ๋อมีรังสีแห่งความสงสัยแวบผ่านไปก่อนจะหันไปพูดเสียงเบากับซ่งเจ๋อ:"พวกเราไปที่แม่น้ำเสื่อก่อนไปเก็บทรัพยากรตรงนั้นให้ได้ก่อนค่อยว่ากันอีกทีอย่าให้มีปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามา"
"ทำไมล่ะ?นายไม่ชอบขี้หน้าไป๋ยวีมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ?นี่มันโอกาสที่ดีงามเลยนะ!"
ซ่งเจ๋อมองชิงซิวจู๋ด้วยสายตาที่แปลกใจในความเข้าใจของเขาชิงซิวจู๋ไม่ควรเป็นคนประเภทนี้สิถึงจะถูกตั้งแต่ที่เดินทางมาพวกเขาฟังคำสั่งและแผนการของชิงซิวจู๋มาตลอดเลยนะกำจัดจำนวนคนไปได้ไม่น้อยเลยมากไปกว่านั้นยังมีลูกหลานเชื้อสายตรงของเหล่าตระกูลใหญ่ๆอีก
ตอนนี้อยู่ในเทียนหยวนหลังจากที่ออกไปแล้วก็คงจะไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของพวกเขา
‘โง่เขลา!’
ชิงซิวจู๋ด่าคำว่าโง่เขลาคำนึงในใจก่อนจะพูดเสียงเบา:"ที่นี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำเสือมากๆทันทีที่มีการปะทะกันเกิดขึ้นต้องมีคนจากตระกูลอื่นๆมาแน่นอน"
ซ่งเจ๋อไตร่ตรองไปสักพักก่อนจะหันไปพูดกับไป๋ยวีอย่างดูหมิ่น:
"ถือว่าแกโชคดีไม่งั้นฉันจะสั่งสอนแกดีๆสักตั้ง!"
พูดจบก็ได้พาชิงซิวจู๋และคนอื่นๆมุ่งหน้าตรงไปยังแม่น้ำเสือ
"ถือว่าพวกมันโชคดี!"
ไป๋ยวีถอนหายใจก่อนจะพูดเขาคาดหวังให้พวกซ่งเจ๋อลงมืออยู่อย่างน้อยก็สามารถสั่งสอนพวกมันได้สักยก
"พวกมันไม่ได้โชคดีหรอกนะ!"
หลินหยินส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูด:"บางทีชิงซิวจู๋นั่นอาจจะรู้ว่าชิงเซวียนจะฆ่านายแต่ตอนนี้นายยังมีชีวิตอยู่เขาจะไม่กล้าลงมือต่อนายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว!"
"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!"
ไป๋ยวีพยักหน้าก่อนจะพูด:"เพื่อนหลินเดี๋ยวนายช่วยฉันฆ่าชิงซิวจู๋หน่อยนะไม่งั้นถ้าหลังจากที่ออกไปชิงเจ๋อเซียนรู้ว่าพวกเราเป็นคนฆ่าชิงเซวียนพวกเราสองคนจะไม่มีใครมีชีวิตต่อไปได้แน่นอน"
"ได้!"
หลินหยินตอบอย่างเรียบนิ่งแค่ชิงซิวจู๋คนเดียวเองในเมื่อเป็นคนของตระกูลชิงรวดฆ่าไปด้วยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
"งั้นพวกเราก็ไปแม่น้ำเสือกันเถอะ!"
………
รูปร่างของแม่น้ำเสือเหมือนเสือดุร้ายสองตัวกำลังแก่งแย่งอาหารกันอยู่ดังนั้นถึงได้มีชื่อว่าแม่น้ำเสือ
จากคำเล่าของไป๋ยวีได้ความมาว่าแม่น้ำเสือแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ถูกค้นพบจากเหล่าตระกูลเก่าแก่ที่ร่ำรวยต่างๆเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสมุนไพรยาวิเศษทุกๆร้อยปีเทียนหยวนจะถูกเปิดออกครั้งหนึ่งแล้วจะมีการมาเก็บเกี่ยวสมุนไพรยาวิเศษต่างๆภายในแม่น้ำเสือแห่งนี้
ตอนนี้ถึงแม้ว่าภายในแม่น้ำเสือจะไม่ค่อยมีพวกสมบัติล้ำค่าหรือผลไม้แปลกๆที่หายากต่างๆแล้วแต่ก็ยังมีพันธุ์ผลไม้แปลกที่หายากจะเจริญพันธุ์ทุกๆสิบปีอยู่ด้วย
เมื่อหลินหยินและไป๋ยวีไปถึงแม่น้ำเสือบริเวณด้านนอกของแม่น้ำเสือได้มีคนมาถึงประมาณยี่สิบกว่าคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนใหญ่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในอาณาจักรลับต่างรวมตัวกันอยู่ที่นี่มีแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง
ณตอนนี้คาถาเวทย์หน้าทางเข้าแม่น้ำเสือยังไม่ถูกเปิดออกทุกคนต่างเฝ้ารออยู่ด้านนอก
หลินหยินยืนอยู่ด้านนอกของคาถาเวทย์พลางจ้องมองผลไม้แปลกที่อยู่ภายในคาถาเวทย์แล้วยิ้มขึ้นมาที่มุมปากภายในนั้นมีผลไม้แปลกหลายประเภทที่อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อคนในอาณาจักรลับคุนหลุนแต่สำหรับเบื้องล่างของเขาที่อยู่ภายในโลกภายนอกนั้นถือว่าเป็นของเด็ดของดีที่สามารถพลิกผันชะตาชีวิตได้เลย
"หลินหยินในฐานะที่แกเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวนของฉันแต่ไปคลุกคลีอยู่กับคนในตระกูลไป๋จะให้คนนอกคิดยังไง?"
ยังไม่รอให้หลินหยินเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าก็ได้ยินเสียงของหลี่เซียนดังขึ้น
"แกทำตัวอุกอาจต่อหน้าฉันตั้งแต่อยู่ด้านนอกแล้วนะตอนแรกแกไม่มาทำให้ฉันโกรธฉันกะจะปล่อยให้แกรอดไปได้ครั้งนึงหรือว่าแกคิดจริงๆหรอว่าฉันหลินหยินเป็นคนที่กดขี่ข่มเหงได้ง่าย?"
หลินหยินมองหลี่เซียนพลางพูดอย่างเยือกเย็น
"กดขี่ข่มเหงแกแล้วจะทำไม?"
หลี่เซียนลุกขึ้นยืนอย่างอวดดีพลังพิศวงในร่างกายเป็นประกายขึ้นพลังออร่าพุ่งสูงขึ้นฟ้า
หลินหยินไม่ได้ตอบบทสนทนาของเขาแค่ยื่นมือออกไปข้างนึงแล้วจับไปที่หลี่เซียน
"โครม!"
พลังปราณที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีรูปร่างปรากฏขึ้นกลางอากาศหลี่เซียนเหมือนถูกำลังดูดวนถูกหลินหยินกระชากเข้ามาภายในพริบตา
"ผนึกสิ!"
หลี่เซียนตะคอกอย่างโกรธกริ้วพลังพิศวงที่อยู่รอบกายเริ่มไหลเวียนอย่างเร็วแรงพลังพิศวงทั้งร่างกายฉุดขึ้นมาถึงจุดสูงสุดอยากจะสลัดพลังกระชากที่ยิ่งใหญ่นี้ออกไป
แต่ทว่าบนใบหน้าของหลินหยินไม่มีทั้งความสุขและความทุกข์ยังคงคงท่าทางอยู่เหมือนเดิมแต่ว่าพลังในการดูดกลืนนั้นกลับมีเพิ่มแรงมากยิ่งขึ้น
หลี่เซียนสังเกตเห็นอย่างหวาดผวาว่าเขาสลัดพลังกระชากนี้หลุดออกไม่ได้งั้นหรอทำได้แค่มองดูร่างกายของตัวเองค่อยๆใกล้เข้าไปหาหลินหยิน
"ปัง!"
หลี่เซียนถูกหลินหยินจับไว้ตั้งแต่ระยะห่างร้อยฟุตร่างกายของเขาอยู่ในมือหลินหยินแล้ว
หลินหยินโยนตัวหลี่เซียนลงไปกับพื้นก่อนที่ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบไปที่หัวของหลี่เซียนแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง:"ตอนนี้ล่ะ?"
"ไอ้บ้าปล่อยฉันนะ!"
หลี่เซียนดิ้นรนอย่างสุดกำลังแต่กลับพบว่าสลัดดิ้นไม่ออกเลยด้วยซ้ำถูกหลินหยินเหยียบอยู่บนพื้นต่อหน้าผู้คนที่มากขนาดนี้ต่อไปจะให้เขายืนหยัดอยู่ในอาณาจักรลับคุนหลุนต่อยังไง?เขาพูดอย่างโกรธกริ้ว:"หลินหยินต่อไปแกอย่าได้ตกอยู่ในกำมือของฉันนะไม่งั้นฉันจะทำให้แกตายไปอย่างทุกข์ทรมาน!"
ซวนหยวนหลงก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าหลี่เซียนจะตกอยู่ในมือของหลินหยินทันทีแบบนี้เลยหรอเขาก้าวเดินขึ้นมาหนึ่งก้าวก่อนจะพูดอย่างเยือกเย็น:"หลินหยินในฐานะที่แกเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวนลงมือทำร้ายคนในตระกูลซวนหยวนยังไม่รีบปล่อยเขาอีก!"
"แกร๊ก!"
เมื่อหลินหยินได้ยินแบบนี้สีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆแค่เหยียบที่เท้าทีนึงทำให้หัวของหลี่เซียนจมลงไปบนพื้นดินทันทีเลยแม้กระทั่งกระดูกใบหน้าก็โดนเหยียบจนแตกสลายไปเลย
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved