บทที่ 944 กระจอกเหมือนน้องชายแกเลยนะ
by อาห่าว
08:01,Mar 31,2021
ทันทีที่หลินหยินพูดแบบนี้ออกมาสีหน้าของผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในชั้นสี่ก็เปลี่ยนไปหมดเลย
สีหน้าของเทพธิดาหลีเหมิงและคนอื่นๆดูย่ำแย่ลงส่วนคนอื่นๆที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างมองไปทางหลินหยินด้วยสายตาที่สงสัยขุนนางต่างดินแดนของตระกูลซวนหยวนหลงคนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้ที่อยู่ในระดับเดียวจำนวนมากขนาดนี้แล้วยังกล้าจองหองขณะนี้อีกหรือแต่ทว่าแค่ไม่รู้ว่าอวดดีไปเองหรือว่าจะมีปัหลินหยินาจริงๆ
ลูกหลานเชื้อสายหลักของเชื้อสายพระราชวงศ์และเชื้อสายราชาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโด่งดังในตึกเติงเทียนแต่ว่าผู้ที่สามารถขึ้นมายังชั้นสี่ของตึกเติงเทียนได้ต้องเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มีพรสวรรค์และอัจฉริยะคนหนึ่งในอาณาจักรลับคุนหลุนแน่นอนถึงแม้พวกเขาทุกคนต่างจะมีความเย่อหยิ่งในตัวเองแต่กลับไม่กล้าบอกว่าตัวเองสามารถปะทะกับหลายๆคนได้ในเวลาเดียวกัน
เพราะยังไงคนที่สามารถขึ้นมายังชั้นสี่ได้นั้นก็ถือว่าได้พิสูจน์พลังความสามารถของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เหอะ…..."
เร็วมากสีหน้าของหลี่เซียนก็ได้กลับมาเป็นปกติในสายตาของเขาหลินหยินก็เป็นแค่คนเล็กๆที่ซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยหามาจากเมืองเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรคนนึงเท่านั้นแหละจะเทียบกับคนอย่างเขาที่ได้เจริญเติบโตอยู่บนภูเขาคุนซวีตั้งแต่เล็กจนโตได้ยังไงในภูเขาคุนซวีนอกจากความโรคจิตของพวกคนในเชื้อสายพระราชวงศ์และเชื้อสายราชาแล้วเขาก็ไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อนเลย
"แกกล้าหาญมากๆแต่น่าเสียดายที่ใช้ความกล้าหาญนี้ผิดสถานที่!"
"พวกแกนี่พูดมากจริงๆเลยยังไม่ลงมืออีกหรอ?"หลินหยินมองหลี่เซียนพลางพูดอย่างเรียบนิ่ง
"โอหัง!"
"รนหาที่ตาย!"
หลี่เซียนยังไม่ทันได้ลงมือผู้พิทักษ์ที่เดินตามเทพธิดาหลีเหมิงทั้งสองนั้นก็ได้เปิดฉากลงมือก่อนแล้วตอนแรกเขาก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่ภาคภูมิใจในตัวเองมากๆคนนึงถึงแม้จะเทียบกับคนในเชื้อสายราชาและเชื้อสายพระราชวงค์ไม่ได้แต่ก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่เลื่องลือคนนึงเช่นกัน
เมื่อกี้ตอนที่อยู่หน้าประตูตึกเติงเทียนถูกฉินเฉาทำให้รู้สึกอับอายขายขี้หน้าต่อเทพธิดาหลีเหมิงมากๆตอนแรกก็มีไฟโกรธเต็มอกอยู่แล้วตอนนี้หลินหยินไม่มีฉินเฉาค่อยดูหนุนหลังให้แล้วแต่ยังกล้าจองหองขนาดนี้อีกนี่มันไม่ได้เอาพวกเขามาไว้ในสายตาชัดๆ
คำพูดยังไม่ทันได้พูดจบทั้งสองคนก็เหมือนดั่งสายฟ้าพุ่งเข้าไปโจมตีหลินหยินข้างซ้ายคนนึงข้างขวาคนนึง
ปัง!
ปัง!
ได้ยินแค่เสียงร้องในปากสองทีร่างกายของผู้พิทักษ์ทั้งสองคนของเทพธิดาหลีเหมิงบินลอยออกไปทันทีร่างกายได้ชนเข้ากับเสาของตึกเติงเทียนในชั้นสี่อย่างจัง
"อั่ก!"
"อั่ก!"
ทั้งสองคนต่างกระอั่กเลือดสดออกมาสติสมาธิเริ่มจางหายพลางจ้องมองหลินหยินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"อะไรเนี่ย!"
ผู้คนที่อยู่ในชั้นสี่อึ้งทึ่งไปเลยมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าอย่างเบิกตากว้างและอ้าปากค้าง
"นี่มันเป็นไปได้ยังไง!"
เทพธิดาหลีเหมิงก็ได้อ้าปากกว้างเล็กน้อยเช่นกันถึงแม้ว่าพลังความสามารถทั้งสองคนจะห่างจากพวกเขามากๆเทียบกับอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ที่แท้จริงไม่ได้แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีพลังความสามารถโดดเด่นในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาวของอาณาจักรลับคุนหลุนแล้วนะไม่ควรพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายๆแบบนี้สิถึงจะถูก
ส่วนหลี่เซียนนั้นยิ่งรู้สึกโกรธกริ้วมากเข้าไปใหญ่โกรธจนอกใกล้จะแตกออกมาแล้ว
พลางด่าไอ้กระจอกสองตัวนั่นในใจ
หลินหยินเอาชนะผู้พิทักษ์ทั้งสองของเทพธิดาหลีเหมิงต่อหน้าเขานี่มันกำลังดูถูกดูแคลนเขาชัดๆปกติเขาแทบจะไม่ได้ใช้ตาลงไปมองผผเลยด้วยซ้ำเขาเคยขายหน้าขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"ดีมากๆๆวันนี้ถ้าฉันไม่กำจัดแกให้สิ้นซากฉันว่าฉันน่าจะลืมชื่อเสียงอันน่าเกรงขามของฉันซวนหยวนหลงไปแล้วล่ะ!"
ซวนหยวนหลงตะคอกด้วยความโกรธกริ้วรอบกายมีสายฟ้าปรากฏวนอยู่รอบๆก่อนจะพุ่งกระโจนไปในทิศทางของหลินหยินอย่ากระทันหัน
‘สมแล้วที่เป็นตึกเติงเทียนมิน่าล่ะถึงอนุญาตให้มีการต่อสู้!’
หลินหยินถอนหายใจพลางคิดคาดว่าทั่วทั้งตึกเติงเทียนน่าจะมีคาถายันต์ที่คอยปกป้องอยู่การต่อสู้ระหว่างกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะของพวกเขาไม่สามารถทำลายคาถายันต์ต่างๆนี้ได้เลยด้วยซ้ำ
"กล้าดูถูกฉันงั้นหรอ!"
เมื่อหลี่เซียนเห็นว่าหลินหยินยังมีเวลามองนั่นมองนี่บนใบหน้ามีรอยยิ้มแห่งความโหดเหี้ยมเกิดขึ้นความเร็วในการเคลื่อนที่เร็วขึ้นอีกสามสิบเปอร์เซ็นภายในเวลาแค่ลมหายใจเดียวก็ได้ไปปรากฏอยู่ข้างกายหลินหยินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนคนนึงในชั้นสี่ส่ายหน้าไปมาพลางพูดอย่างน่าเสียดาย:
"พลังความสามารถของหลินหยินไม่ได้อ่อนไปกว่าหลี่เซียนเลยแต่น่าเสียดายที่เขาอวดดีเกินไปแล้ว!"
"หึต่างเป็นคนในตระกูลซวนหยวนกัดกันให้ตายกันไปทั้งตะกูลน่ะดีละ!"มีคนพูดขึ้นมาอย่างดูถูก
"ปัง!"
เสียงที่ดังสนั่นเกิดขึ้นแสงสายฟ้าสั่นสนั่นไปทั่วทั้งชั้นสี่
ผู้คนที่ดูการต่อสู้ก็ได้เบ่งพลังพิศวงเพื่อออกมาคุ้มกันตัวเองป้องกันสายไปที่สนั่นไปทั่วทั้งชั้นสี่
"อะไรนะ!"
"นี่มันเป็นไปได้ยังไง!"
ทุกคนต่างอุทานอย่างตะลึงพวกเขาเห็นอะไรไปหมัดที่เต็มแรงของหลี่เซียนนั่นถูกหยุดด้วยนิ้วนิ้วเดียวของหลินหยินงั้นหรอหลี่เซียนไม่ใช่ไอ้กระจอกสองตัวที่เพิ่งพ่ายแพ้ให้หลินหยินไปนะเขาไม่ได้อ่อนไปกว่าลูกหลานในเชื้อสายพระราชวงศ์ที่ถูกนำตัวไปอบรมฝึกฝนโดยเฉพาะเลยนะ
ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขาที่ต้องประลองกับหลี่เซียนนอกจากชายเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนที่เพิ่งพูดเมื่อกี้แล้วคนอื่นต่างรู้ดีว่าตัวเองเทียบกับหลี่เซียนไม่ได้แต่ตอนนี้หมัดสุดกำลังของหลี่เซียนถูกหยุดไปด้วยวิธีการแบบนี้เลยงั้นหรอ?
"แค่เนี่ยะ?"
"ยังกล้าบอกว่าตัวเองมีชื่อเสียงที่น่าเกรงขามอีกงั้นหรอ?"
หลินหยินนำสายตาจ้องมองไปบนตัวหลี่เซียนพลางถามอย่างเรียบนิ่ง
หลี่เซียนตะลึงหนักมากขนลุกซู่ไปทั้งตัวราวกับว่ากำลังถูกสัตว์ดุร้ายก่อนประวัติศาสตร์ตัวนึงจ้องมองยังไงยังงั้นเมื่อก่อนเขาเคยประลองกับลูกหลานในตระกูลเชื้อสายราชาอยู่บ่อยครั้งแต่ก็มีทั้งแท้ทั้งชนะ
เมื่อก่อนเขาเคยไปลองกับคุณชายใหญ่ในตระกูลซวนหยวนหลงอย่างซวนหยวนหลงมาทั้งหมดสามครั้งทุกครั้งต่างพ่ายแพ้ไปโดยที่ไม่ตายเลยยอมและเต็มใจที่จะเดินตามซวนหยวนหลงได้รับฉายาว่าเป็นผู้ที่สามารถหลุดรอดออกมาจากกำมือของดินแดนแห่งความเป็นอมตะได้แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลินหยินในใจเขากลับมีความรู้สึกที่หมดเรี่ยวแรงงั้นหรอ
"แย่แล้วรีบถอย!"
หลี่เซียนรู้สึกเชื่อมั่นในสัมผัสที่หกของตัวเองอยู่ก่อนที่จะขยับเงาร่างภายในพริบตาถอยกลับไปอย่างกระทันหัน
"ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลย!"
หลินหยินส่ายหน้าไปมาหลังจากที่ลงมือโจมตีเขาแล้วยังอยากถอยกลับไปแบบสมบูรณ์อีกจะดูถูกเขามากเกินไปหน่อยไหม
"ชิ่ว!"
หลินหยินขยับเงาร่างไล่ตามขึ้นไปความเร็วของเขามองดูแล้วไม่ได้เร็วแต่อย่างใดแต่ภาพที่ปรากฏอยู่ในสายตาของคนอื่นเสมือนเป็นภาพช้ายังไงอย่างงั้นแต่กลับเข้าไปปรากฏอยู่ข้างกายหลี่เซียนอย่างไม่คาดคิดประสานนิ้วให้กลายเป็นดาบจิ้มเข้าไปในตำแหน่งหน้าผากของหลี่เซียนอย่างกระทันหัน
"ไอ้หนุ่มแกกล้าหรือ!"
บริเวณชั้นห้ามีเสียงที่โกรธกริ้วของจินเซวียนดังขึ้น
"จินเซวียนนายเป็นคนพูดเองนะเรื่องของพวกวัยรุ่นก็ปล่อยให้พวกวัยรุ่นจัดการเองไปเถอะนายจะเข้าไปยุ่งด้วยทำไม"
จากนั้นบนก็มีเสียงการปะทะกันดังขึ้น
ณตอนนี้นิ้วที่เสมือนภาพดวงตาของหลินหยินก็ได้จิ้มไปที่หน้าผากของหลี่เซียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปัง!
หัวสมองของหลี่เซียนเหมือนดั่งลูกแตงโมลูกหนึ่งยังไงอย่างนั้นถูกหลินหยินจิ้มจนระเบิดแตกไปเลย
แต่บนใบหน้าของหลินหยินไม่ได้มีความสุขแต่อย่างใดหลี่เซียนที่ควรจะตายไปตั้งแต่แรกได้ปรากฏตัวอยู่ข้างกายของเทพธิดาหลีเหมิงและคนอื่นๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ตัวตายตัวแทน?"
หลินหยินขมวดคิ้ว
"แก…..แกกล้างั้นหรอ…..."
หลี่เซียนมองหลินหยินทั้งตะลึงทั้งโกรธเห็นได้ชัดเลยว่าเขารู้สึกหวาดกลัวกับการกระทำของหลินหยินแล้วไม่มีความกล้าที่จะประลองกับหลินหยินอีกต่อไป
ส่วนใบหน้าของผู้พิทักษ์ทั้งสองของเทพธิดาหลีเหมิงก็ได้ขาวซีดลงไปเช่นกันมองหลินหยินอย่างระแวดระวังภายในสายตาไม่มีความอวดดีเหมือนเมื่อกี้แล้ว
"ซีด!"
ผู้คนที่อยู่ชั้นสี่ต่างสูดหายใจเข้าทางปากมีคนบางส่วนที่จ้องมองหลินหยินและเทพธิดาหลีเหมิงอย่างเห็นใจ
ตอนแรกก็คิดว่าหลินหยินเป็นแค่ตัวเดียวที่ต้องรอรับบาปแต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้วนี่มันแพ้รับบาปที่ไหนนี่มันเสือที่ดุร้ายตัวนึงชัดๆ
"คุณหลินคะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นความผิดของพวกเราเองค่ะพวกเราเต็มใจที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ค่ะ!"
เทพธิดาหลีเหมิงก็เริ่มรู้สึกเสียใจทีหลังขึ้นมาเล็กน้อยแล้วไม่สมควรมีปัญหากับยอดฝีมืออย่างหลินหยินเพียงเพราะฮั้วซินเสียนคนเดียวแต่ตอนนี้เริ่มหวนกลับคืนไปได้ยากแล้วมีแค่พยายามโน้มน้าวหลินหยิน
หลินหยินไม่ไปสนใจเทพธิดาหลีเหมิงเลยด้วยซ้ำแต่เป็นการมองไปทางหลี่เซียนแทนแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง:
"แกเหมือนกับน้องชายแกเลยนะกระจอกเหมือนกัน!"
สีหน้าของเทพธิดาหลีเหมิงและคนอื่นๆดูย่ำแย่ลงส่วนคนอื่นๆที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างมองไปทางหลินหยินด้วยสายตาที่สงสัยขุนนางต่างดินแดนของตระกูลซวนหยวนหลงคนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้ที่อยู่ในระดับเดียวจำนวนมากขนาดนี้แล้วยังกล้าจองหองขณะนี้อีกหรือแต่ทว่าแค่ไม่รู้ว่าอวดดีไปเองหรือว่าจะมีปัหลินหยินาจริงๆ
ลูกหลานเชื้อสายหลักของเชื้อสายพระราชวงศ์และเชื้อสายราชาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโด่งดังในตึกเติงเทียนแต่ว่าผู้ที่สามารถขึ้นมายังชั้นสี่ของตึกเติงเทียนได้ต้องเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มีพรสวรรค์และอัจฉริยะคนหนึ่งในอาณาจักรลับคุนหลุนแน่นอนถึงแม้พวกเขาทุกคนต่างจะมีความเย่อหยิ่งในตัวเองแต่กลับไม่กล้าบอกว่าตัวเองสามารถปะทะกับหลายๆคนได้ในเวลาเดียวกัน
เพราะยังไงคนที่สามารถขึ้นมายังชั้นสี่ได้นั้นก็ถือว่าได้พิสูจน์พลังความสามารถของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เหอะ…..."
เร็วมากสีหน้าของหลี่เซียนก็ได้กลับมาเป็นปกติในสายตาของเขาหลินหยินก็เป็นแค่คนเล็กๆที่ซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยหามาจากเมืองเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรคนนึงเท่านั้นแหละจะเทียบกับคนอย่างเขาที่ได้เจริญเติบโตอยู่บนภูเขาคุนซวีตั้งแต่เล็กจนโตได้ยังไงในภูเขาคุนซวีนอกจากความโรคจิตของพวกคนในเชื้อสายพระราชวงศ์และเชื้อสายราชาแล้วเขาก็ไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อนเลย
"แกกล้าหาญมากๆแต่น่าเสียดายที่ใช้ความกล้าหาญนี้ผิดสถานที่!"
"พวกแกนี่พูดมากจริงๆเลยยังไม่ลงมืออีกหรอ?"หลินหยินมองหลี่เซียนพลางพูดอย่างเรียบนิ่ง
"โอหัง!"
"รนหาที่ตาย!"
หลี่เซียนยังไม่ทันได้ลงมือผู้พิทักษ์ที่เดินตามเทพธิดาหลีเหมิงทั้งสองนั้นก็ได้เปิดฉากลงมือก่อนแล้วตอนแรกเขาก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่ภาคภูมิใจในตัวเองมากๆคนนึงถึงแม้จะเทียบกับคนในเชื้อสายราชาและเชื้อสายพระราชวงค์ไม่ได้แต่ก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่เลื่องลือคนนึงเช่นกัน
เมื่อกี้ตอนที่อยู่หน้าประตูตึกเติงเทียนถูกฉินเฉาทำให้รู้สึกอับอายขายขี้หน้าต่อเทพธิดาหลีเหมิงมากๆตอนแรกก็มีไฟโกรธเต็มอกอยู่แล้วตอนนี้หลินหยินไม่มีฉินเฉาค่อยดูหนุนหลังให้แล้วแต่ยังกล้าจองหองขนาดนี้อีกนี่มันไม่ได้เอาพวกเขามาไว้ในสายตาชัดๆ
คำพูดยังไม่ทันได้พูดจบทั้งสองคนก็เหมือนดั่งสายฟ้าพุ่งเข้าไปโจมตีหลินหยินข้างซ้ายคนนึงข้างขวาคนนึง
ปัง!
ปัง!
ได้ยินแค่เสียงร้องในปากสองทีร่างกายของผู้พิทักษ์ทั้งสองคนของเทพธิดาหลีเหมิงบินลอยออกไปทันทีร่างกายได้ชนเข้ากับเสาของตึกเติงเทียนในชั้นสี่อย่างจัง
"อั่ก!"
"อั่ก!"
ทั้งสองคนต่างกระอั่กเลือดสดออกมาสติสมาธิเริ่มจางหายพลางจ้องมองหลินหยินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"อะไรเนี่ย!"
ผู้คนที่อยู่ในชั้นสี่อึ้งทึ่งไปเลยมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าอย่างเบิกตากว้างและอ้าปากค้าง
"นี่มันเป็นไปได้ยังไง!"
เทพธิดาหลีเหมิงก็ได้อ้าปากกว้างเล็กน้อยเช่นกันถึงแม้ว่าพลังความสามารถทั้งสองคนจะห่างจากพวกเขามากๆเทียบกับอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ที่แท้จริงไม่ได้แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีพลังความสามารถโดดเด่นในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาวของอาณาจักรลับคุนหลุนแล้วนะไม่ควรพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายๆแบบนี้สิถึงจะถูก
ส่วนหลี่เซียนนั้นยิ่งรู้สึกโกรธกริ้วมากเข้าไปใหญ่โกรธจนอกใกล้จะแตกออกมาแล้ว
พลางด่าไอ้กระจอกสองตัวนั่นในใจ
หลินหยินเอาชนะผู้พิทักษ์ทั้งสองของเทพธิดาหลีเหมิงต่อหน้าเขานี่มันกำลังดูถูกดูแคลนเขาชัดๆปกติเขาแทบจะไม่ได้ใช้ตาลงไปมองผผเลยด้วยซ้ำเขาเคยขายหน้าขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"ดีมากๆๆวันนี้ถ้าฉันไม่กำจัดแกให้สิ้นซากฉันว่าฉันน่าจะลืมชื่อเสียงอันน่าเกรงขามของฉันซวนหยวนหลงไปแล้วล่ะ!"
ซวนหยวนหลงตะคอกด้วยความโกรธกริ้วรอบกายมีสายฟ้าปรากฏวนอยู่รอบๆก่อนจะพุ่งกระโจนไปในทิศทางของหลินหยินอย่ากระทันหัน
‘สมแล้วที่เป็นตึกเติงเทียนมิน่าล่ะถึงอนุญาตให้มีการต่อสู้!’
หลินหยินถอนหายใจพลางคิดคาดว่าทั่วทั้งตึกเติงเทียนน่าจะมีคาถายันต์ที่คอยปกป้องอยู่การต่อสู้ระหว่างกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะของพวกเขาไม่สามารถทำลายคาถายันต์ต่างๆนี้ได้เลยด้วยซ้ำ
"กล้าดูถูกฉันงั้นหรอ!"
เมื่อหลี่เซียนเห็นว่าหลินหยินยังมีเวลามองนั่นมองนี่บนใบหน้ามีรอยยิ้มแห่งความโหดเหี้ยมเกิดขึ้นความเร็วในการเคลื่อนที่เร็วขึ้นอีกสามสิบเปอร์เซ็นภายในเวลาแค่ลมหายใจเดียวก็ได้ไปปรากฏอยู่ข้างกายหลินหยินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนคนนึงในชั้นสี่ส่ายหน้าไปมาพลางพูดอย่างน่าเสียดาย:
"พลังความสามารถของหลินหยินไม่ได้อ่อนไปกว่าหลี่เซียนเลยแต่น่าเสียดายที่เขาอวดดีเกินไปแล้ว!"
"หึต่างเป็นคนในตระกูลซวนหยวนกัดกันให้ตายกันไปทั้งตะกูลน่ะดีละ!"มีคนพูดขึ้นมาอย่างดูถูก
"ปัง!"
เสียงที่ดังสนั่นเกิดขึ้นแสงสายฟ้าสั่นสนั่นไปทั่วทั้งชั้นสี่
ผู้คนที่ดูการต่อสู้ก็ได้เบ่งพลังพิศวงเพื่อออกมาคุ้มกันตัวเองป้องกันสายไปที่สนั่นไปทั่วทั้งชั้นสี่
"อะไรนะ!"
"นี่มันเป็นไปได้ยังไง!"
ทุกคนต่างอุทานอย่างตะลึงพวกเขาเห็นอะไรไปหมัดที่เต็มแรงของหลี่เซียนนั่นถูกหยุดด้วยนิ้วนิ้วเดียวของหลินหยินงั้นหรอหลี่เซียนไม่ใช่ไอ้กระจอกสองตัวที่เพิ่งพ่ายแพ้ให้หลินหยินไปนะเขาไม่ได้อ่อนไปกว่าลูกหลานในเชื้อสายพระราชวงศ์ที่ถูกนำตัวไปอบรมฝึกฝนโดยเฉพาะเลยนะ
ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขาที่ต้องประลองกับหลี่เซียนนอกจากชายเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนที่เพิ่งพูดเมื่อกี้แล้วคนอื่นต่างรู้ดีว่าตัวเองเทียบกับหลี่เซียนไม่ได้แต่ตอนนี้หมัดสุดกำลังของหลี่เซียนถูกหยุดไปด้วยวิธีการแบบนี้เลยงั้นหรอ?
"แค่เนี่ยะ?"
"ยังกล้าบอกว่าตัวเองมีชื่อเสียงที่น่าเกรงขามอีกงั้นหรอ?"
หลินหยินนำสายตาจ้องมองไปบนตัวหลี่เซียนพลางถามอย่างเรียบนิ่ง
หลี่เซียนตะลึงหนักมากขนลุกซู่ไปทั้งตัวราวกับว่ากำลังถูกสัตว์ดุร้ายก่อนประวัติศาสตร์ตัวนึงจ้องมองยังไงยังงั้นเมื่อก่อนเขาเคยประลองกับลูกหลานในตระกูลเชื้อสายราชาอยู่บ่อยครั้งแต่ก็มีทั้งแท้ทั้งชนะ
เมื่อก่อนเขาเคยไปลองกับคุณชายใหญ่ในตระกูลซวนหยวนหลงอย่างซวนหยวนหลงมาทั้งหมดสามครั้งทุกครั้งต่างพ่ายแพ้ไปโดยที่ไม่ตายเลยยอมและเต็มใจที่จะเดินตามซวนหยวนหลงได้รับฉายาว่าเป็นผู้ที่สามารถหลุดรอดออกมาจากกำมือของดินแดนแห่งความเป็นอมตะได้แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลินหยินในใจเขากลับมีความรู้สึกที่หมดเรี่ยวแรงงั้นหรอ
"แย่แล้วรีบถอย!"
หลี่เซียนรู้สึกเชื่อมั่นในสัมผัสที่หกของตัวเองอยู่ก่อนที่จะขยับเงาร่างภายในพริบตาถอยกลับไปอย่างกระทันหัน
"ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลย!"
หลินหยินส่ายหน้าไปมาหลังจากที่ลงมือโจมตีเขาแล้วยังอยากถอยกลับไปแบบสมบูรณ์อีกจะดูถูกเขามากเกินไปหน่อยไหม
"ชิ่ว!"
หลินหยินขยับเงาร่างไล่ตามขึ้นไปความเร็วของเขามองดูแล้วไม่ได้เร็วแต่อย่างใดแต่ภาพที่ปรากฏอยู่ในสายตาของคนอื่นเสมือนเป็นภาพช้ายังไงอย่างงั้นแต่กลับเข้าไปปรากฏอยู่ข้างกายหลี่เซียนอย่างไม่คาดคิดประสานนิ้วให้กลายเป็นดาบจิ้มเข้าไปในตำแหน่งหน้าผากของหลี่เซียนอย่างกระทันหัน
"ไอ้หนุ่มแกกล้าหรือ!"
บริเวณชั้นห้ามีเสียงที่โกรธกริ้วของจินเซวียนดังขึ้น
"จินเซวียนนายเป็นคนพูดเองนะเรื่องของพวกวัยรุ่นก็ปล่อยให้พวกวัยรุ่นจัดการเองไปเถอะนายจะเข้าไปยุ่งด้วยทำไม"
จากนั้นบนก็มีเสียงการปะทะกันดังขึ้น
ณตอนนี้นิ้วที่เสมือนภาพดวงตาของหลินหยินก็ได้จิ้มไปที่หน้าผากของหลี่เซียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปัง!
หัวสมองของหลี่เซียนเหมือนดั่งลูกแตงโมลูกหนึ่งยังไงอย่างนั้นถูกหลินหยินจิ้มจนระเบิดแตกไปเลย
แต่บนใบหน้าของหลินหยินไม่ได้มีความสุขแต่อย่างใดหลี่เซียนที่ควรจะตายไปตั้งแต่แรกได้ปรากฏตัวอยู่ข้างกายของเทพธิดาหลีเหมิงและคนอื่นๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ตัวตายตัวแทน?"
หลินหยินขมวดคิ้ว
"แก…..แกกล้างั้นหรอ…..."
หลี่เซียนมองหลินหยินทั้งตะลึงทั้งโกรธเห็นได้ชัดเลยว่าเขารู้สึกหวาดกลัวกับการกระทำของหลินหยินแล้วไม่มีความกล้าที่จะประลองกับหลินหยินอีกต่อไป
ส่วนใบหน้าของผู้พิทักษ์ทั้งสองของเทพธิดาหลีเหมิงก็ได้ขาวซีดลงไปเช่นกันมองหลินหยินอย่างระแวดระวังภายในสายตาไม่มีความอวดดีเหมือนเมื่อกี้แล้ว
"ซีด!"
ผู้คนที่อยู่ชั้นสี่ต่างสูดหายใจเข้าทางปากมีคนบางส่วนที่จ้องมองหลินหยินและเทพธิดาหลีเหมิงอย่างเห็นใจ
ตอนแรกก็คิดว่าหลินหยินเป็นแค่ตัวเดียวที่ต้องรอรับบาปแต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้วนี่มันแพ้รับบาปที่ไหนนี่มันเสือที่ดุร้ายตัวนึงชัดๆ
"คุณหลินคะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นความผิดของพวกเราเองค่ะพวกเราเต็มใจที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ค่ะ!"
เทพธิดาหลีเหมิงก็เริ่มรู้สึกเสียใจทีหลังขึ้นมาเล็กน้อยแล้วไม่สมควรมีปัญหากับยอดฝีมืออย่างหลินหยินเพียงเพราะฮั้วซินเสียนคนเดียวแต่ตอนนี้เริ่มหวนกลับคืนไปได้ยากแล้วมีแค่พยายามโน้มน้าวหลินหยิน
หลินหยินไม่ไปสนใจเทพธิดาหลีเหมิงเลยด้วยซ้ำแต่เป็นการมองไปทางหลี่เซียนแทนแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง:
"แกเหมือนกับน้องชายแกเลยนะกระจอกเหมือนกัน!"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved