บทที่ 945 โอหยางเยว่

by อาห่าว 08:01,Mar 31,2021
หลังจากที่พูดจบหลินหยินก็ได้หันหลังเดินไปยังโต๊ะที่อยู่ไกลที่สุด

คำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดจากอารมณ์ชั่ววูบแต่เป็นความคิดที่แท้จริงในใจของหลินหยิน​บางทีพลังความสามารถของนักสู้ที่อยู่โลกภายนอกอาจจะเทียบกับคนในอาณาจักรลับไม่ได้แต่ว่าจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักสู้นั้นกลับไม่ได้ลดแผ่วลงเลย

ส่วนเหล่านักสู้ที่เขาเจอในอาณาจักรลับถ้าตัดเรื่องพลังความสามารถที่เคยฝึกฝนมาทั้งหมดมันก็กระจอกมากๆจริงๆไม่มีจิตวิญญาณแห่งการเป็นนักสู้ที่อยากพัฒนาความสามารถของตัวเองเลยแค่พึ่งพาเงื่อนไขและทรัพยากรที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็ยากที่จะได้กลายเป็นนักสู้ที่แท้จริงคนหนึ่ง

กระจอกแบบนี้จะฆ่าหรือไม่ฆ่าก็ส่งผลกระทบต่อภาครวมไม่ได้ด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นว่าหลินหยินจากไปแล้วหลี่เซียนและคนอื่นๆถึงจะถอนหายใจโล่งอกได้แต่หลังจากนั้นในใจก็มีความรู้สึกที่โดนเหยียดหยามขึ้นมาอีกครั้งตอนแรกหลินหยินสามารถคร่าชีวิตพวกเขาได้แต่ตอนนี้กลับปล่อยพวกเขาไปนี่ไม่ได้เอาพวกเขามาไว้ในสายตาเลยใช่ไหม?

"หึ!"

จินเซวียนเดินลงมาจากบันไดชั้นห้าทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงก่อนจะหันไปตวาดใส่หลี่เซียน:

"ไร้ประโยชน์ยังไม่ไปอีกจะขายขี้หน้าอยู่ที่นี่ต่อหรือ?"

หลังจากที่พูดจบก็ได้เดินลงไปจากบันได

หลี่เซียนมองหลินหยินด้วยสายตาที่อาฆาตแค้นทีนึงก่อนจะเดินลงจากบันไดตามหลังจินเซวียนไป

"ฮ่าๆๆ!"

บริเวณบันไดมีเสียงหัวเราะดังลั่นของฉินเฉาดังขึ้นฉินเฉารีบสับเท้าเดินไปหาหลินหยินยิ้มพลางพูด:"หลินหยินสงครามครั้งเดียวชื่อเสียงก็โด่งดังแล้วนะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผู้คนภายในตระกูลจะได้ไม่มีข้อโต้แย้งที่นายได้รับสิทธิ์นั่น"

เขาไม่ได้สงสัยต่อพลังความสามารถของหลินหยินแต่อย่างใดแต่ว่านายท่านสี่ได้มอบสิทธิ์โควต้านี้ให้หลินหยินโดยตรงเลยคนอื่นๆที่ไม่ได้รับสิทธิ์โควต้าดังกล่าวต้องไม่พอใจแน่นอนตอนนี้หลินหยินไก้เอาชนะหลี่เซียนที่เป็นรองซวนหยวนเผิงและซวนหยวนหลงได้แล้วถึงแม้จะเป็นผู้เฒ่าในตระกูลก็พูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว

"เมื่อกี้คนพวกนั้นทำให้ดวงซวยไปหมดเลยมาๆๆเราไปกินอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตึกเติงเทียนกัน"

ฉินเฉาเชิดหน้าแล้วเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหลินหยินก่อนจะบริการและสั่งอาหารจำนวนมากที่หลินหยินไม่รู้จัก

เร็วมากอาหารทั้งหมดก็ได้ขึ้นมาเสิร์ฟเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีกับข้าวหกและน้ำซุปหนึ่ง

ส่วนใหญ่มีเนื้อสัตว์เป็นวัตถุดิบหลัก

"รีบกินๆอาหารพวกนี้ถ้าไม่ใช่อยู่ในตึกเติงเทียนหากินไม่ได้นะก็แค่ราคาแอบแพงนิดหน่อยเท่านั้นเอง"ฉินเฉาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเสียดายเล็กน้อย

หลินหยินหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อมาชิ้นนึงก่อนจะใส่เข้าปาก

คุณภาพของตัวเนื้อเหนียวนุ่มมากสดหใม่และหอมมากด้วยเช่นกันด้านในของก้อนเนื้อมีน้ำซุปที่เข้มข้นไหลเยิ้มออกมาด้วย

"นี่คือเนื้ออะไรครับ?"

เนื้อชิ้นนี้ไม่เหมือนเนื้อทุกอย่างที่เขาเคยกินในโลกมนุษย์มาก่อนเลย

"นี่คือของเด็ดเลยนะเป็นเนื้อของกวางที่ชื่อว่ากวางไป๋ยวี่ซึ่งเป็นอาหารที่สามารถเสริมสร้างหลายๆส่วนของร่างกายได้เลยนะ"บนใบหน้าของฉินเฉามีความรู้สึกที่ผู้ชายต่างเข้าใจดี

หลินหยินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยวันนี้อารมณ์ของฉินเฉาดูค่อนข้างดีเลยตอนนี้เพิ่งเจอกันครั้งแรกฉินเฉาคัดค้านกับเขาไปซะทุกเรื่องเลยยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดเล่นอะไรแบบนี้เลย

"ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย"

หลินหยินส่ายหน้า

เขาเคยอ่านคัมภีร์ตำราในตระกูลหลิงมาไม่น้อยเลยและได้อ่านหนังสือตำราที่บันทึกเกี่ยวกับสัตว์แปลกๆที่หายากแต่ไม่เคยเห็นการแนะนำกวางไป๋ยวี่อะไรแบบนี้มาก่อนเลย

"การที่นายจะไม่เคยได้ยินก็ปกติมากขนของกวางไป๋ยวี่เป็นสีขาวหิมะและมีปีกสีขาวอีกคู่หนึ่งด้วยมาเที่ยวกับพวกวัวเหลืองแล้วก็ใหญ่กว่าไม่น้อยเลยมีฟันที่แหลมคมในปากอารมณ์ดุร้ายนักสู้ดินแดนอมตะทั่วไปไม่สามารถสยบมันได้เป็นสัตว์ที่หาได้ในเทียนหยวนเท่านั้นจึงมีแต่ที่นี่เท่านั้นแหละที่จะสามารถหากินได้"

ฉินเฉายิ้มพลางพูด:"และกวางตัวนี้เป็นกวางที่มีระดับขั้นกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะตัวนึงเลยนะราคาขายนี่แพงหูฉีกเลยหละแต่ว่าสิ่งของทุกอย่างก็มีราคาในตัวเหมือนกันทั้งนั้นแหละนายกินเยอะๆเดี๋ยวก็รู้เอง"

หลินหยินพยักหน้าหงึกๆ

ถึงแม้ฉินเฉาจะไม่พูดเขาก็สามารถสัมผัสได้แล้วเช่นกัน

เมื่อกี้เขาแค่กินเนื้อกวางนี้ไปแค่คำเดียวเท่านั้นแต่กลับสัมผัสได้ว่าร่างกายมีความรู้สึกที่ร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยแม้กระทั่งความเร็วในการเคลื่อนที่ของพลังพิศวงที่อยู่ในร่างกายก็เร็วขึ้นไม่น้อยเลย

ถ้าเกิดทานบ่อยๆคาดว่าความเร็วในการฝึกฝนก็ต้องเร็วขึ้นด้วยแน่นอน

แต่เมื่อเห็นสภาพของฉินเฉาที่ดูเจ็บปวดแล้วก็รู้เลยว่าราคาของอาหารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

หลินหยินก็ไม่ได้เกรงใจฉินเฉาอีกต่อไปก้มหน้าก่อนจะรีบกินอย่างมูมมาม

"เอ้ยนายเหลือให้ฉันกินบ้างสิ!"

เมื่อฉินเฉาเห็นแบบนี้จึงคีบกินคำใหญ่คำโตด้วยเช่นกัน

กินไปได้ครึ่งหนึ่งคนสนิทคนหนึ่งของฉินเฉาได้เดินขึ้นมาดึงดันที่จะลากตัวฉินเฉาขึ้นไปพูดคุยกันบนชั้นห้าฉินเฉาปฏิเสธไม่ได้จึงทำได้แค่ยิ้มกับหลินหยินอย่างเกรงใจก่อนจะเดินขึ้นไปพร้อมกับคนอื่น

ส่วนหลินหยินนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเลยถึงจะอยู่คนเดียวก็กินเหมือนปกติได้อยู่ดี

"เพื่อนหลินบังเอิญจังเลยนะคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่!"

ทันใดนั้นเองเราร่างที่สง่างามได้เดินเข้ามาด้านหน้าเขาบดบังจุดมองของเขาไป

หลินหยินเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะพบว่าเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างซวนหยวนเผิงในครั้งก่อน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้สง่างามมากเมื่อเทียบกับเทพธิดาหลีเหมิงแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยถึงแม้จะเป็นจางโม่ฉีที่ใช้น้ำพุแห่งชีวิตก็ตามหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ทัน

หลินหยินมองหญิงสาวก่อนจะถามเสียงเบา:"มาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?"

เมื่อเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่สง่างามพฤติกรรมของกลับดูเรียบนิ่งมากแต่ในทางกลับกันผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มไม่เรียบนิ่งแล้วต่างพากันลุกขึ้นยืนทักทายมาทางหญิงสาวที่สง่างามนี้

"เทพธิดาโอหยาง!"

"สวัสดีครับคุณเทพธิดาโอหยาง"

มีคนบางส่วนที่เริ่มพูดขึ้นมาอย่างสงสัย:

"คนในเชื้อสายพระราชวงศ์และเชื้อสายราชาที่อยู่ในตึกเติงเทียนนี้ก็มีไม่น้อยเลยนะเทพธิดาโอหยางคงไม่ได้มาที่นี่เพราะหลินหยินหรอกนะ!"

"ไอ้หมอนั่นนี่มันมีอะไรดีนะ…..."

ยังไม่ทันได้พูดจบเมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของหลินหยินแล้วก็รีบกลืนคำพูดของตัวเองลงไป

แม้กระทั่งเทพธิดาหลีเหมิงก็ได้มองเทพธิดาโอหยางด้วยสายตาที่เคร่งเครียดเช่นกันถึงแม้พวกเธอสองคนจะถูกขนานนามว่าเป็นสาวสวยแห่งอาณาจักรลับคุนหลุนแต่เธอรู้ดีอยู่ในใจว่าโอหยางเยว่ถือกำเนิดในตระกูลโอหยางหนึ่งในสี่ของตระกูลเชื้อสายพระราชวงศ์ซึ่งจุดนี้เธอเทียบเคียงกับโอหยางเยว่ไม่ได้เด็ดขาด

"ดิฉันโอหยางเยว่ค่ะเพื่อนหลินรังเกียจที่จะให้ดิฉันนั่งด้วยไหมคะ"โอหยางเยว่ยิ้มพลางพูด

"เทพธิดาโอหยางเชิญนั่งครับ"

หลินหยินพยักหน้าและเรีกยเทพธิดาโอหยางตามคนอื่นๆ

โอหยางเยว่นั่งอยู่ด้านซ้ายของหลินหยินยิ้มพลางพูด:"เพื่อนหลินต้องกำลังสงสัยอยู่ในแน่ๆใช่ไหมคะว่าทำไมฉันถึงมาหาคุณได้ไม่ปิดบังเพื่อนหลินนะคะดิฉันจะมาดึงตัวคุณเพราะพี่ในตระกูลค่ะ"

"ผมเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวนน่ะครับ"

หลินหยินใช้สายตาที่แปลกใจจ้องมองโอหยางเยว่ความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลซวนหยวนเป็นยังไงโอหยางเยว่รู้ดีอยู่อีกอย่างดูจากท่าแล้วความสัมพันธ์ของโอหยางเยว่และซวนหยวนเผิงก็ดีอยู่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาเลื่อยขาเก้าอี้เพื่อแย่งตัวเขาไป

บนใบหน้าของโอหยางเยว่มีความอดทนทางเกิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเบา:"เพื่อนหลินอาจจะยังไม่รู้ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆกับซวนหยวนเผิงน่ะค่ะเป็นพี่สาวต่างเชื้อสายของซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ย"

"ความสัมพันธ์ของพี่ในตระกูลฉันกับน้องเผิงไม่ค่อยดีน่ะค่ะทั้งสองมักจะโกรธกันแค่เรื่องเล็กๆอยู่บ่อยครั้งแต่ว่าฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าครั้งนี้พี่ในตระกูลจะเล่นโกงให้ฉันมาดึงตัวคุณน่ะค่ะ"

"อาจจะเป็นเพราะคิดว่าโอกาสที่ฉันจะดึงตัวคุณมาได้มีมากกว่ามั้งคะ"

หลินหยินก็รู้สึกแปลกใจแป๊บนึงเช่นกันคิดไม่ถึงเลยว่าโอหยางเยว่และซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมิน่าล่ะครั้งก่อนถึงได้ปรากฏตัวอยู่ในลานบ้านของตระกูลซวนหยวน

"โอหยางเยว่ให้อภัยผมด้วยนะครับผมได้ทำการตอบตกลงซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยไปก่อนแล้วครับ"หลินหยินคีบเนื้อเข้าปากชิ้นนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง

ถึงแม้โอหยางเยว่จะสวยงามแต่ไม่ได้เสแสร้งเหมือนหลีเหมิงแต่ว่าตัวเขาเองมีภรรยาอยู่ที่บ้านแล้วไม่อยากมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยอะไรกับพวกเทพธิดาเหล่านี้หรอกนะ

"ฉันรู้อยู่แล้วค่ะว่าเพื่อนหลินต้องปฏิเสธ"

บนใบหน้าของโอหยางเยว่ไม่ได้มีความไม่พอใจแต่อย่างใดแค่พูดเสียงเบาว่า"ที่ฉันมาก็เพราะพี่ในตระกูลใช้วิธีการที่แกมโกงต่อหน้าฉันเพื่อนหลินอย่าถือโทษดิฉันเลยนะคะ"

"แต่ว่าจากการโชว์ความสามารถในเมื่อกี้ของเพื่อหลินในเมื่อกี้นี้ช่วงนี้ต้องมีคนมาดึงตัวคุณแน่นอนค่ะบางทีอาจจะมาด้วยวิธีการต่างๆเพื่อนหลินระวังตัวเองด้วยนะคะ"

Download APP, continue reading

Chapters

1324