บทที่ 945 โอหยางเยว่
by อาห่าว
08:01,Mar 31,2021
หลังจากที่พูดจบหลินหยินก็ได้หันหลังเดินไปยังโต๊ะที่อยู่ไกลที่สุด
คำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดจากอารมณ์ชั่ววูบแต่เป็นความคิดที่แท้จริงในใจของหลินหยินบางทีพลังความสามารถของนักสู้ที่อยู่โลกภายนอกอาจจะเทียบกับคนในอาณาจักรลับไม่ได้แต่ว่าจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักสู้นั้นกลับไม่ได้ลดแผ่วลงเลย
ส่วนเหล่านักสู้ที่เขาเจอในอาณาจักรลับถ้าตัดเรื่องพลังความสามารถที่เคยฝึกฝนมาทั้งหมดมันก็กระจอกมากๆจริงๆไม่มีจิตวิญญาณแห่งการเป็นนักสู้ที่อยากพัฒนาความสามารถของตัวเองเลยแค่พึ่งพาเงื่อนไขและทรัพยากรที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็ยากที่จะได้กลายเป็นนักสู้ที่แท้จริงคนหนึ่ง
กระจอกแบบนี้จะฆ่าหรือไม่ฆ่าก็ส่งผลกระทบต่อภาครวมไม่ได้ด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าหลินหยินจากไปแล้วหลี่เซียนและคนอื่นๆถึงจะถอนหายใจโล่งอกได้แต่หลังจากนั้นในใจก็มีความรู้สึกที่โดนเหยียดหยามขึ้นมาอีกครั้งตอนแรกหลินหยินสามารถคร่าชีวิตพวกเขาได้แต่ตอนนี้กลับปล่อยพวกเขาไปนี่ไม่ได้เอาพวกเขามาไว้ในสายตาเลยใช่ไหม?
"หึ!"
จินเซวียนเดินลงมาจากบันไดชั้นห้าทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงก่อนจะหันไปตวาดใส่หลี่เซียน:
"ไร้ประโยชน์ยังไม่ไปอีกจะขายขี้หน้าอยู่ที่นี่ต่อหรือ?"
หลังจากที่พูดจบก็ได้เดินลงไปจากบันได
หลี่เซียนมองหลินหยินด้วยสายตาที่อาฆาตแค้นทีนึงก่อนจะเดินลงจากบันไดตามหลังจินเซวียนไป
"ฮ่าๆๆ!"
บริเวณบันไดมีเสียงหัวเราะดังลั่นของฉินเฉาดังขึ้นฉินเฉารีบสับเท้าเดินไปหาหลินหยินยิ้มพลางพูด:"หลินหยินสงครามครั้งเดียวชื่อเสียงก็โด่งดังแล้วนะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผู้คนภายในตระกูลจะได้ไม่มีข้อโต้แย้งที่นายได้รับสิทธิ์นั่น"
เขาไม่ได้สงสัยต่อพลังความสามารถของหลินหยินแต่อย่างใดแต่ว่านายท่านสี่ได้มอบสิทธิ์โควต้านี้ให้หลินหยินโดยตรงเลยคนอื่นๆที่ไม่ได้รับสิทธิ์โควต้าดังกล่าวต้องไม่พอใจแน่นอนตอนนี้หลินหยินไก้เอาชนะหลี่เซียนที่เป็นรองซวนหยวนเผิงและซวนหยวนหลงได้แล้วถึงแม้จะเป็นผู้เฒ่าในตระกูลก็พูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว
"เมื่อกี้คนพวกนั้นทำให้ดวงซวยไปหมดเลยมาๆๆเราไปกินอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตึกเติงเทียนกัน"
ฉินเฉาเชิดหน้าแล้วเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหลินหยินก่อนจะบริการและสั่งอาหารจำนวนมากที่หลินหยินไม่รู้จัก
เร็วมากอาหารทั้งหมดก็ได้ขึ้นมาเสิร์ฟเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีกับข้าวหกและน้ำซุปหนึ่ง
ส่วนใหญ่มีเนื้อสัตว์เป็นวัตถุดิบหลัก
"รีบกินๆอาหารพวกนี้ถ้าไม่ใช่อยู่ในตึกเติงเทียนหากินไม่ได้นะก็แค่ราคาแอบแพงนิดหน่อยเท่านั้นเอง"ฉินเฉาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเสียดายเล็กน้อย
หลินหยินหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อมาชิ้นนึงก่อนจะใส่เข้าปาก
คุณภาพของตัวเนื้อเหนียวนุ่มมากสดหใม่และหอมมากด้วยเช่นกันด้านในของก้อนเนื้อมีน้ำซุปที่เข้มข้นไหลเยิ้มออกมาด้วย
"นี่คือเนื้ออะไรครับ?"
เนื้อชิ้นนี้ไม่เหมือนเนื้อทุกอย่างที่เขาเคยกินในโลกมนุษย์มาก่อนเลย
"นี่คือของเด็ดเลยนะเป็นเนื้อของกวางที่ชื่อว่ากวางไป๋ยวี่ซึ่งเป็นอาหารที่สามารถเสริมสร้างหลายๆส่วนของร่างกายได้เลยนะ"บนใบหน้าของฉินเฉามีความรู้สึกที่ผู้ชายต่างเข้าใจดี
หลินหยินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยวันนี้อารมณ์ของฉินเฉาดูค่อนข้างดีเลยตอนนี้เพิ่งเจอกันครั้งแรกฉินเฉาคัดค้านกับเขาไปซะทุกเรื่องเลยยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดเล่นอะไรแบบนี้เลย
"ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย"
หลินหยินส่ายหน้า
เขาเคยอ่านคัมภีร์ตำราในตระกูลหลิงมาไม่น้อยเลยและได้อ่านหนังสือตำราที่บันทึกเกี่ยวกับสัตว์แปลกๆที่หายากแต่ไม่เคยเห็นการแนะนำกวางไป๋ยวี่อะไรแบบนี้มาก่อนเลย
"การที่นายจะไม่เคยได้ยินก็ปกติมากขนของกวางไป๋ยวี่เป็นสีขาวหิมะและมีปีกสีขาวอีกคู่หนึ่งด้วยมาเที่ยวกับพวกวัวเหลืองแล้วก็ใหญ่กว่าไม่น้อยเลยมีฟันที่แหลมคมในปากอารมณ์ดุร้ายนักสู้ดินแดนอมตะทั่วไปไม่สามารถสยบมันได้เป็นสัตว์ที่หาได้ในเทียนหยวนเท่านั้นจึงมีแต่ที่นี่เท่านั้นแหละที่จะสามารถหากินได้"
ฉินเฉายิ้มพลางพูด:"และกวางตัวนี้เป็นกวางที่มีระดับขั้นกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะตัวนึงเลยนะราคาขายนี่แพงหูฉีกเลยหละแต่ว่าสิ่งของทุกอย่างก็มีราคาในตัวเหมือนกันทั้งนั้นแหละนายกินเยอะๆเดี๋ยวก็รู้เอง"
หลินหยินพยักหน้าหงึกๆ
ถึงแม้ฉินเฉาจะไม่พูดเขาก็สามารถสัมผัสได้แล้วเช่นกัน
เมื่อกี้เขาแค่กินเนื้อกวางนี้ไปแค่คำเดียวเท่านั้นแต่กลับสัมผัสได้ว่าร่างกายมีความรู้สึกที่ร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยแม้กระทั่งความเร็วในการเคลื่อนที่ของพลังพิศวงที่อยู่ในร่างกายก็เร็วขึ้นไม่น้อยเลย
ถ้าเกิดทานบ่อยๆคาดว่าความเร็วในการฝึกฝนก็ต้องเร็วขึ้นด้วยแน่นอน
แต่เมื่อเห็นสภาพของฉินเฉาที่ดูเจ็บปวดแล้วก็รู้เลยว่าราคาของอาหารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
หลินหยินก็ไม่ได้เกรงใจฉินเฉาอีกต่อไปก้มหน้าก่อนจะรีบกินอย่างมูมมาม
"เอ้ยนายเหลือให้ฉันกินบ้างสิ!"
เมื่อฉินเฉาเห็นแบบนี้จึงคีบกินคำใหญ่คำโตด้วยเช่นกัน
กินไปได้ครึ่งหนึ่งคนสนิทคนหนึ่งของฉินเฉาได้เดินขึ้นมาดึงดันที่จะลากตัวฉินเฉาขึ้นไปพูดคุยกันบนชั้นห้าฉินเฉาปฏิเสธไม่ได้จึงทำได้แค่ยิ้มกับหลินหยินอย่างเกรงใจก่อนจะเดินขึ้นไปพร้อมกับคนอื่น
ส่วนหลินหยินนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเลยถึงจะอยู่คนเดียวก็กินเหมือนปกติได้อยู่ดี
"เพื่อนหลินบังเอิญจังเลยนะคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่!"
ทันใดนั้นเองเราร่างที่สง่างามได้เดินเข้ามาด้านหน้าเขาบดบังจุดมองของเขาไป
หลินหยินเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะพบว่าเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างซวนหยวนเผิงในครั้งก่อน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้สง่างามมากเมื่อเทียบกับเทพธิดาหลีเหมิงแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยถึงแม้จะเป็นจางโม่ฉีที่ใช้น้ำพุแห่งชีวิตก็ตามหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ทัน
หลินหยินมองหญิงสาวก่อนจะถามเสียงเบา:"มาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?"
เมื่อเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่สง่างามพฤติกรรมของกลับดูเรียบนิ่งมากแต่ในทางกลับกันผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มไม่เรียบนิ่งแล้วต่างพากันลุกขึ้นยืนทักทายมาทางหญิงสาวที่สง่างามนี้
"เทพธิดาโอหยาง!"
"สวัสดีครับคุณเทพธิดาโอหยาง"
มีคนบางส่วนที่เริ่มพูดขึ้นมาอย่างสงสัย:
"คนในเชื้อสายพระราชวงศ์และเชื้อสายราชาที่อยู่ในตึกเติงเทียนนี้ก็มีไม่น้อยเลยนะเทพธิดาโอหยางคงไม่ได้มาที่นี่เพราะหลินหยินหรอกนะ!"
"ไอ้หมอนั่นนี่มันมีอะไรดีนะ…..."
ยังไม่ทันได้พูดจบเมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของหลินหยินแล้วก็รีบกลืนคำพูดของตัวเองลงไป
แม้กระทั่งเทพธิดาหลีเหมิงก็ได้มองเทพธิดาโอหยางด้วยสายตาที่เคร่งเครียดเช่นกันถึงแม้พวกเธอสองคนจะถูกขนานนามว่าเป็นสาวสวยแห่งอาณาจักรลับคุนหลุนแต่เธอรู้ดีอยู่ในใจว่าโอหยางเยว่ถือกำเนิดในตระกูลโอหยางหนึ่งในสี่ของตระกูลเชื้อสายพระราชวงศ์ซึ่งจุดนี้เธอเทียบเคียงกับโอหยางเยว่ไม่ได้เด็ดขาด
"ดิฉันโอหยางเยว่ค่ะเพื่อนหลินรังเกียจที่จะให้ดิฉันนั่งด้วยไหมคะ"โอหยางเยว่ยิ้มพลางพูด
"เทพธิดาโอหยางเชิญนั่งครับ"
หลินหยินพยักหน้าและเรีกยเทพธิดาโอหยางตามคนอื่นๆ
โอหยางเยว่นั่งอยู่ด้านซ้ายของหลินหยินยิ้มพลางพูด:"เพื่อนหลินต้องกำลังสงสัยอยู่ในแน่ๆใช่ไหมคะว่าทำไมฉันถึงมาหาคุณได้ไม่ปิดบังเพื่อนหลินนะคะดิฉันจะมาดึงตัวคุณเพราะพี่ในตระกูลค่ะ"
"ผมเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวนน่ะครับ"
หลินหยินใช้สายตาที่แปลกใจจ้องมองโอหยางเยว่ความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลซวนหยวนเป็นยังไงโอหยางเยว่รู้ดีอยู่อีกอย่างดูจากท่าแล้วความสัมพันธ์ของโอหยางเยว่และซวนหยวนเผิงก็ดีอยู่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาเลื่อยขาเก้าอี้เพื่อแย่งตัวเขาไป
บนใบหน้าของโอหยางเยว่มีความอดทนทางเกิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเบา:"เพื่อนหลินอาจจะยังไม่รู้ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆกับซวนหยวนเผิงน่ะค่ะเป็นพี่สาวต่างเชื้อสายของซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ย"
"ความสัมพันธ์ของพี่ในตระกูลฉันกับน้องเผิงไม่ค่อยดีน่ะค่ะทั้งสองมักจะโกรธกันแค่เรื่องเล็กๆอยู่บ่อยครั้งแต่ว่าฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าครั้งนี้พี่ในตระกูลจะเล่นโกงให้ฉันมาดึงตัวคุณน่ะค่ะ"
"อาจจะเป็นเพราะคิดว่าโอกาสที่ฉันจะดึงตัวคุณมาได้มีมากกว่ามั้งคะ"
หลินหยินก็รู้สึกแปลกใจแป๊บนึงเช่นกันคิดไม่ถึงเลยว่าโอหยางเยว่และซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมิน่าล่ะครั้งก่อนถึงได้ปรากฏตัวอยู่ในลานบ้านของตระกูลซวนหยวน
"โอหยางเยว่ให้อภัยผมด้วยนะครับผมได้ทำการตอบตกลงซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยไปก่อนแล้วครับ"หลินหยินคีบเนื้อเข้าปากชิ้นนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง
ถึงแม้โอหยางเยว่จะสวยงามแต่ไม่ได้เสแสร้งเหมือนหลีเหมิงแต่ว่าตัวเขาเองมีภรรยาอยู่ที่บ้านแล้วไม่อยากมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยอะไรกับพวกเทพธิดาเหล่านี้หรอกนะ
"ฉันรู้อยู่แล้วค่ะว่าเพื่อนหลินต้องปฏิเสธ"
บนใบหน้าของโอหยางเยว่ไม่ได้มีความไม่พอใจแต่อย่างใดแค่พูดเสียงเบาว่า"ที่ฉันมาก็เพราะพี่ในตระกูลใช้วิธีการที่แกมโกงต่อหน้าฉันเพื่อนหลินอย่าถือโทษดิฉันเลยนะคะ"
"แต่ว่าจากการโชว์ความสามารถในเมื่อกี้ของเพื่อหลินในเมื่อกี้นี้ช่วงนี้ต้องมีคนมาดึงตัวคุณแน่นอนค่ะบางทีอาจจะมาด้วยวิธีการต่างๆเพื่อนหลินระวังตัวเองด้วยนะคะ"
คำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดจากอารมณ์ชั่ววูบแต่เป็นความคิดที่แท้จริงในใจของหลินหยินบางทีพลังความสามารถของนักสู้ที่อยู่โลกภายนอกอาจจะเทียบกับคนในอาณาจักรลับไม่ได้แต่ว่าจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักสู้นั้นกลับไม่ได้ลดแผ่วลงเลย
ส่วนเหล่านักสู้ที่เขาเจอในอาณาจักรลับถ้าตัดเรื่องพลังความสามารถที่เคยฝึกฝนมาทั้งหมดมันก็กระจอกมากๆจริงๆไม่มีจิตวิญญาณแห่งการเป็นนักสู้ที่อยากพัฒนาความสามารถของตัวเองเลยแค่พึ่งพาเงื่อนไขและทรัพยากรที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็ยากที่จะได้กลายเป็นนักสู้ที่แท้จริงคนหนึ่ง
กระจอกแบบนี้จะฆ่าหรือไม่ฆ่าก็ส่งผลกระทบต่อภาครวมไม่ได้ด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าหลินหยินจากไปแล้วหลี่เซียนและคนอื่นๆถึงจะถอนหายใจโล่งอกได้แต่หลังจากนั้นในใจก็มีความรู้สึกที่โดนเหยียดหยามขึ้นมาอีกครั้งตอนแรกหลินหยินสามารถคร่าชีวิตพวกเขาได้แต่ตอนนี้กลับปล่อยพวกเขาไปนี่ไม่ได้เอาพวกเขามาไว้ในสายตาเลยใช่ไหม?
"หึ!"
จินเซวียนเดินลงมาจากบันไดชั้นห้าทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงก่อนจะหันไปตวาดใส่หลี่เซียน:
"ไร้ประโยชน์ยังไม่ไปอีกจะขายขี้หน้าอยู่ที่นี่ต่อหรือ?"
หลังจากที่พูดจบก็ได้เดินลงไปจากบันได
หลี่เซียนมองหลินหยินด้วยสายตาที่อาฆาตแค้นทีนึงก่อนจะเดินลงจากบันไดตามหลังจินเซวียนไป
"ฮ่าๆๆ!"
บริเวณบันไดมีเสียงหัวเราะดังลั่นของฉินเฉาดังขึ้นฉินเฉารีบสับเท้าเดินไปหาหลินหยินยิ้มพลางพูด:"หลินหยินสงครามครั้งเดียวชื่อเสียงก็โด่งดังแล้วนะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผู้คนภายในตระกูลจะได้ไม่มีข้อโต้แย้งที่นายได้รับสิทธิ์นั่น"
เขาไม่ได้สงสัยต่อพลังความสามารถของหลินหยินแต่อย่างใดแต่ว่านายท่านสี่ได้มอบสิทธิ์โควต้านี้ให้หลินหยินโดยตรงเลยคนอื่นๆที่ไม่ได้รับสิทธิ์โควต้าดังกล่าวต้องไม่พอใจแน่นอนตอนนี้หลินหยินไก้เอาชนะหลี่เซียนที่เป็นรองซวนหยวนเผิงและซวนหยวนหลงได้แล้วถึงแม้จะเป็นผู้เฒ่าในตระกูลก็พูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว
"เมื่อกี้คนพวกนั้นทำให้ดวงซวยไปหมดเลยมาๆๆเราไปกินอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตึกเติงเทียนกัน"
ฉินเฉาเชิดหน้าแล้วเดินเข้ามานั่งตรงข้ามหลินหยินก่อนจะบริการและสั่งอาหารจำนวนมากที่หลินหยินไม่รู้จัก
เร็วมากอาหารทั้งหมดก็ได้ขึ้นมาเสิร์ฟเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีกับข้าวหกและน้ำซุปหนึ่ง
ส่วนใหญ่มีเนื้อสัตว์เป็นวัตถุดิบหลัก
"รีบกินๆอาหารพวกนี้ถ้าไม่ใช่อยู่ในตึกเติงเทียนหากินไม่ได้นะก็แค่ราคาแอบแพงนิดหน่อยเท่านั้นเอง"ฉินเฉาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเสียดายเล็กน้อย
หลินหยินหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อมาชิ้นนึงก่อนจะใส่เข้าปาก
คุณภาพของตัวเนื้อเหนียวนุ่มมากสดหใม่และหอมมากด้วยเช่นกันด้านในของก้อนเนื้อมีน้ำซุปที่เข้มข้นไหลเยิ้มออกมาด้วย
"นี่คือเนื้ออะไรครับ?"
เนื้อชิ้นนี้ไม่เหมือนเนื้อทุกอย่างที่เขาเคยกินในโลกมนุษย์มาก่อนเลย
"นี่คือของเด็ดเลยนะเป็นเนื้อของกวางที่ชื่อว่ากวางไป๋ยวี่ซึ่งเป็นอาหารที่สามารถเสริมสร้างหลายๆส่วนของร่างกายได้เลยนะ"บนใบหน้าของฉินเฉามีความรู้สึกที่ผู้ชายต่างเข้าใจดี
หลินหยินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยวันนี้อารมณ์ของฉินเฉาดูค่อนข้างดีเลยตอนนี้เพิ่งเจอกันครั้งแรกฉินเฉาคัดค้านกับเขาไปซะทุกเรื่องเลยยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดเล่นอะไรแบบนี้เลย
"ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย"
หลินหยินส่ายหน้า
เขาเคยอ่านคัมภีร์ตำราในตระกูลหลิงมาไม่น้อยเลยและได้อ่านหนังสือตำราที่บันทึกเกี่ยวกับสัตว์แปลกๆที่หายากแต่ไม่เคยเห็นการแนะนำกวางไป๋ยวี่อะไรแบบนี้มาก่อนเลย
"การที่นายจะไม่เคยได้ยินก็ปกติมากขนของกวางไป๋ยวี่เป็นสีขาวหิมะและมีปีกสีขาวอีกคู่หนึ่งด้วยมาเที่ยวกับพวกวัวเหลืองแล้วก็ใหญ่กว่าไม่น้อยเลยมีฟันที่แหลมคมในปากอารมณ์ดุร้ายนักสู้ดินแดนอมตะทั่วไปไม่สามารถสยบมันได้เป็นสัตว์ที่หาได้ในเทียนหยวนเท่านั้นจึงมีแต่ที่นี่เท่านั้นแหละที่จะสามารถหากินได้"
ฉินเฉายิ้มพลางพูด:"และกวางตัวนี้เป็นกวางที่มีระดับขั้นกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะตัวนึงเลยนะราคาขายนี่แพงหูฉีกเลยหละแต่ว่าสิ่งของทุกอย่างก็มีราคาในตัวเหมือนกันทั้งนั้นแหละนายกินเยอะๆเดี๋ยวก็รู้เอง"
หลินหยินพยักหน้าหงึกๆ
ถึงแม้ฉินเฉาจะไม่พูดเขาก็สามารถสัมผัสได้แล้วเช่นกัน
เมื่อกี้เขาแค่กินเนื้อกวางนี้ไปแค่คำเดียวเท่านั้นแต่กลับสัมผัสได้ว่าร่างกายมีความรู้สึกที่ร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยแม้กระทั่งความเร็วในการเคลื่อนที่ของพลังพิศวงที่อยู่ในร่างกายก็เร็วขึ้นไม่น้อยเลย
ถ้าเกิดทานบ่อยๆคาดว่าความเร็วในการฝึกฝนก็ต้องเร็วขึ้นด้วยแน่นอน
แต่เมื่อเห็นสภาพของฉินเฉาที่ดูเจ็บปวดแล้วก็รู้เลยว่าราคาของอาหารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
หลินหยินก็ไม่ได้เกรงใจฉินเฉาอีกต่อไปก้มหน้าก่อนจะรีบกินอย่างมูมมาม
"เอ้ยนายเหลือให้ฉันกินบ้างสิ!"
เมื่อฉินเฉาเห็นแบบนี้จึงคีบกินคำใหญ่คำโตด้วยเช่นกัน
กินไปได้ครึ่งหนึ่งคนสนิทคนหนึ่งของฉินเฉาได้เดินขึ้นมาดึงดันที่จะลากตัวฉินเฉาขึ้นไปพูดคุยกันบนชั้นห้าฉินเฉาปฏิเสธไม่ได้จึงทำได้แค่ยิ้มกับหลินหยินอย่างเกรงใจก่อนจะเดินขึ้นไปพร้อมกับคนอื่น
ส่วนหลินหยินนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเลยถึงจะอยู่คนเดียวก็กินเหมือนปกติได้อยู่ดี
"เพื่อนหลินบังเอิญจังเลยนะคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่!"
ทันใดนั้นเองเราร่างที่สง่างามได้เดินเข้ามาด้านหน้าเขาบดบังจุดมองของเขาไป
หลินหยินเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะพบว่าเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างซวนหยวนเผิงในครั้งก่อน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้สง่างามมากเมื่อเทียบกับเทพธิดาหลีเหมิงแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยถึงแม้จะเป็นจางโม่ฉีที่ใช้น้ำพุแห่งชีวิตก็ตามหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ทัน
หลินหยินมองหญิงสาวก่อนจะถามเสียงเบา:"มาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?"
เมื่อเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่สง่างามพฤติกรรมของกลับดูเรียบนิ่งมากแต่ในทางกลับกันผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มไม่เรียบนิ่งแล้วต่างพากันลุกขึ้นยืนทักทายมาทางหญิงสาวที่สง่างามนี้
"เทพธิดาโอหยาง!"
"สวัสดีครับคุณเทพธิดาโอหยาง"
มีคนบางส่วนที่เริ่มพูดขึ้นมาอย่างสงสัย:
"คนในเชื้อสายพระราชวงศ์และเชื้อสายราชาที่อยู่ในตึกเติงเทียนนี้ก็มีไม่น้อยเลยนะเทพธิดาโอหยางคงไม่ได้มาที่นี่เพราะหลินหยินหรอกนะ!"
"ไอ้หมอนั่นนี่มันมีอะไรดีนะ…..."
ยังไม่ทันได้พูดจบเมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของหลินหยินแล้วก็รีบกลืนคำพูดของตัวเองลงไป
แม้กระทั่งเทพธิดาหลีเหมิงก็ได้มองเทพธิดาโอหยางด้วยสายตาที่เคร่งเครียดเช่นกันถึงแม้พวกเธอสองคนจะถูกขนานนามว่าเป็นสาวสวยแห่งอาณาจักรลับคุนหลุนแต่เธอรู้ดีอยู่ในใจว่าโอหยางเยว่ถือกำเนิดในตระกูลโอหยางหนึ่งในสี่ของตระกูลเชื้อสายพระราชวงศ์ซึ่งจุดนี้เธอเทียบเคียงกับโอหยางเยว่ไม่ได้เด็ดขาด
"ดิฉันโอหยางเยว่ค่ะเพื่อนหลินรังเกียจที่จะให้ดิฉันนั่งด้วยไหมคะ"โอหยางเยว่ยิ้มพลางพูด
"เทพธิดาโอหยางเชิญนั่งครับ"
หลินหยินพยักหน้าและเรีกยเทพธิดาโอหยางตามคนอื่นๆ
โอหยางเยว่นั่งอยู่ด้านซ้ายของหลินหยินยิ้มพลางพูด:"เพื่อนหลินต้องกำลังสงสัยอยู่ในแน่ๆใช่ไหมคะว่าทำไมฉันถึงมาหาคุณได้ไม่ปิดบังเพื่อนหลินนะคะดิฉันจะมาดึงตัวคุณเพราะพี่ในตระกูลค่ะ"
"ผมเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวนน่ะครับ"
หลินหยินใช้สายตาที่แปลกใจจ้องมองโอหยางเยว่ความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลซวนหยวนเป็นยังไงโอหยางเยว่รู้ดีอยู่อีกอย่างดูจากท่าแล้วความสัมพันธ์ของโอหยางเยว่และซวนหยวนเผิงก็ดีอยู่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาเลื่อยขาเก้าอี้เพื่อแย่งตัวเขาไป
บนใบหน้าของโอหยางเยว่มีความอดทนทางเกิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเบา:"เพื่อนหลินอาจจะยังไม่รู้ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆกับซวนหยวนเผิงน่ะค่ะเป็นพี่สาวต่างเชื้อสายของซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ย"
"ความสัมพันธ์ของพี่ในตระกูลฉันกับน้องเผิงไม่ค่อยดีน่ะค่ะทั้งสองมักจะโกรธกันแค่เรื่องเล็กๆอยู่บ่อยครั้งแต่ว่าฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าครั้งนี้พี่ในตระกูลจะเล่นโกงให้ฉันมาดึงตัวคุณน่ะค่ะ"
"อาจจะเป็นเพราะคิดว่าโอกาสที่ฉันจะดึงตัวคุณมาได้มีมากกว่ามั้งคะ"
หลินหยินก็รู้สึกแปลกใจแป๊บนึงเช่นกันคิดไม่ถึงเลยว่าโอหยางเยว่และซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมิน่าล่ะครั้งก่อนถึงได้ปรากฏตัวอยู่ในลานบ้านของตระกูลซวนหยวน
"โอหยางเยว่ให้อภัยผมด้วยนะครับผมได้ทำการตอบตกลงซวนหยวนเสี่ยวเสวี่ยไปก่อนแล้วครับ"หลินหยินคีบเนื้อเข้าปากชิ้นนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง
ถึงแม้โอหยางเยว่จะสวยงามแต่ไม่ได้เสแสร้งเหมือนหลีเหมิงแต่ว่าตัวเขาเองมีภรรยาอยู่ที่บ้านแล้วไม่อยากมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยอะไรกับพวกเทพธิดาเหล่านี้หรอกนะ
"ฉันรู้อยู่แล้วค่ะว่าเพื่อนหลินต้องปฏิเสธ"
บนใบหน้าของโอหยางเยว่ไม่ได้มีความไม่พอใจแต่อย่างใดแค่พูดเสียงเบาว่า"ที่ฉันมาก็เพราะพี่ในตระกูลใช้วิธีการที่แกมโกงต่อหน้าฉันเพื่อนหลินอย่าถือโทษดิฉันเลยนะคะ"
"แต่ว่าจากการโชว์ความสามารถในเมื่อกี้ของเพื่อหลินในเมื่อกี้นี้ช่วงนี้ต้องมีคนมาดึงตัวคุณแน่นอนค่ะบางทีอาจจะมาด้วยวิธีการต่างๆเพื่อนหลินระวังตัวเองด้วยนะคะ"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved