บทที่ 5: ตระกูลจางตื่นตระหนก
by อาห่าว
10:23,Nov 30,2020
เมืองชิงหยุน ณ โรงพยาบาลอันดับหนึ่งของเมือง
หลินหยินรีบตรงไปที่ห้องพักเดี่ยว ห้อง608
“หลินหยิน เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่บ้าน แกช่างไม่สนใจอะไร หายไปไหนมา" ลู่หย่าฮุ่ยลุกขึ้น พร้อมกับสั่งสอนทันที
“แกดูสิ ดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้าน ทั้งหมดเป็นเพราะแกไปก่อเรื่อง!" ลู่หย่าฮุ่ยบ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
หลินหยินไม่พูดไม่จา ได้แต่มองไปที่เตียงในโรงพยาบาล เห็นพ่อตาจางซิ่วเฟิงหน้าตาดูเคร่งเครียด มีรอยฟกช้ำบนใบหน้า และมีผ้าก๊อซพันอยู่ที่มือ
ข้างเตียงคนไข้ จางฉีโม่นั่งอยู่ หน้าตาซีดเซียวที่ดูเหนื่อยมาก
“พ่อตา ฉีโม่ ได้รับเจ็บตรงไหนบ้าง?” หลินหยินถามอย่างจริงจัง
"เจ็บแค่ภายนอก มันไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก" จางซิ่วเฟิงตอบ
จางฉีโม่พูดต่อ: "ฉันไม่เป็นไร พ่อทะเลาะกับคนงาน แล้วถูกทำร้าย ตรวจเช็คแล้ว โชคดีที่ไม่เจ็บถึงกระดูก แค่การบาดเจ็บที่ภายนอก"
ในใจของหลินหยินโกรธจนลุกเป็นไฟ แต่ก็ถามอย่างใจเย็น “วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
จางฉีโม่ดูเหมือนจะไม่อยากพูดถึง เพียงแค่ถอนหายใจ
"วันนี้ พ่อของฉีโม่ไปโรงงานที่จะเคลียร์งาน ไม่รู้ว่าจางเทียนไห่ทำยังไงถึงได้ใบแจ้งหนี้ของโรงงานทั้งหมด กลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด จางเทียนไห่ยุยงให้คนงานรื้อถอนอุปกรณ์ทั้งหมดในโรงงาน พ่อของฉีโม่ไปต่อว่าและโดนคนงานสองคนทำร้ายร่างกาย” ลู่หย่าฮุ่ยพูดอย่างช้าๆ "ฉีโม่กับฉันไปถามจางเทียนไห่ เขายังเยาะเย้ยและเสียดสี ตอนนี้อุปกรณ์ทั้งหมดในโรงงานถูกพวกมันถอดย้ายออกไปหมดแล้ว"
“ตอนนี้โรงงานของพ่อฉีโม่ได้ถูกปิดตัวลงแล้ว ถึงขนาดบ้านก็โดนรื้อถอนพังยับเยิน!" ลู่หย่าฮุ่ยยิ่งพูดยิ่งรู้สึกโมโห "พวกเขาโหดร้ายมาก! หลินหยิน เพราะแกทำให้ครอบครัวพังแบบนี้! "
สายตาของหลินหยินเยือดเย็น เห็นได้ชัดว่า จางเทียนไห่เตรียมการมาแล้ว ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยม ไม่เพียงแต่ปิดโรงงานอัญมณีซึ่งเป็นรายได้ทางเดียวของครอบครัวฉีโม่แล้ว แม้แต่บ้านที่อาศัยก็ยังมายึดไป
ครั้งนี้คือตั้งใจจะเล่นงานครอบครัวกูลฉีโม่จริงๆ
“ใบจำนองแจ้งหนี้ของที่บ้านกับโรงงาน ตอนนี้อยู่ในมือของจางเทียนไห่ จางเทียนไห่บอกว่าเขาต้องการให้แกหย่ากับฉีโม่ ฉันได้ตกลงไปแล้ว หากแกยังละอายใจบ้าง ก็เซ็นต์ชื่อเถอะ" ลู่หย่าฮุ่ยอย่างไร้เยื่อใย
"ช่างมันเถอะ!" จางซิ่วเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มบนเตียงผู้ป่วย “หย่าฮุ่ย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผมไร้ความสามารถ ไม่สามารถดูแลครอบครัวนี้ได้
หยุดโทษคนอื่นเถอะนะ"
“ลูกชายของพี่สามทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่า อยากให้ครอบครัวเราอับอาย" จางซิ่วเฟิงพูดช้าๆ “คราวนี้ฟังความลูกสาวเถอะ อย่างมากเราแค่ไม่เอาโรงงานและบ้าน ออกจากเมืองชิงหยุน ไม่จำเป็นต้องอยู่ทนดูสีหน้าพวกเขา"
เวลานี้ ลู่หย่าฮุ่ยก็เงียบลง
"โย่ อยู่พร้อมหน้าทั้งครอบครัวเลย หลินหยินไอ่คนไร้ประโยชน์ ในที่สุดนายก็กล้าที่จะปรากฏตัว?"
เวลานี้ก็มีเสียงเยาะเย้ยมาจากนอกห้อง
จางเทียนไห่ที่สวมแว่นกันแดด สวมสูทสีสันสดใส มาพร้อมบอดี้การ์ดสองคน
“ข้อเสนอก่อนหน้านี้ของผม พวกท่านตัดสินใจยังไงครับ? อาสะใภ้ห้า อาห้า?" จางเทียนไห่พูดอย่างสบายใจ
“ต้องเข้าใจนะครับ ผมหวังดีกับครอบครัวของพวกท่าน ดูสิว่าหลินหยินเป็นคนไร้ประโยชน์แค่ไหน เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในโรงงานแต่เขากลับไม่กล้าโผล่หน้ามา" จางเทียนไห่พูดด้วยสีหน้าโอ้อวด “ถ้าวันนี้ผมไปช่วยไม่ทัน อาห้า อาว่าไอ่พวกคนงานไม่เอาชีวิตอาหรอกหรือ? "
"นายหุบปาก! ทั้งหมดนี้ก็ฝีมือของนาย อย่าแสร้งทำเป็นดี ทำตัวน่ารังเกียจที่นี่" จางฉีโม่พูดด้วยความโกรธ แสดงความรับเกียจออกมา
ใบหน้าของจางเทียนไห่ ไม่มีใครทนได้
“ช่างไม่เข้าใจคนที่เขาหวังดีด้วยเลยจริงๆ” จางเทียนไห่ถอนหายใจ “ผมช่วยลุงห้าเอาใบแจ้งหนี้จากคนอื่นมาได้ทั้งหมด นี่ไม่ใช่เพื่อปกป้องเขา? ถ้าเปลี่ยนเป็นคนนอกมาทวงหนี้ เกรงว่าอาห้าคงโดนซ้อมตายแล้วมั้ง!”
“ผมก็แค่คิดวิธีที่จะช่วยพวกคุณไม่ใช่เหรอ” จางเทียนไห่กล่าวช้าๆ “ฉีโม่วางใจได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีใครแต่งงานด้วย ลูกชายคนที่สามของตระกูลหลี่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับฉัน เขายังลืมฉีโม่ไม่ได้ ฉันจะช่วยให้เธอได้จัดงานแต่งนี้เอง”
"ออกไปจากที่นี่!" จางฉีโม่กล่าวอย่างโมโห ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธ ทนไม่ไหวกับคำสบประมาท
“ไปให้พ้น?” จางเทียนไห่หัวเราะ “อาห้า อย่าหาว่าผมไม่ให้โอกาสครอบครัวของอานะครับ พวกท่านต้องรู้จักคว้าโอกาส พรุ่งนี้ผมจะปล่อยใบแจ้งหนี้ออก เมื่อถึงเวลานั้น ครอบครัวของพวกท่านไม่เพียงแต่ไม่เหลืออะไร และยังต้องโดนคนติดตามทวงหนี้ทุกวิถีทางนะครับ?“
“นานกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร พ่อของฉันจำนองโรงงานจิวเวลรี่และบ้านออกไปก็จบปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอ หนี้สินอะไรกัน?” จางฉีโม่ถาม
"สิ่งที่เธอคิดมันง่ายเกินไป" จางเทียนไห่ยิ้มอย่างได้ใจ "โรงงานแปรรูปอัญมณีเก่าๆ ที่มีอุปกรณ์พังทั้งหมดแล้ว ไม่มีค่าอะไรแม้แต่น้อย จำนองชำระหนี้? เป็นไปไม่ได้! ประกอบกับค้างค่าเช่าสถานที่ หากไม่จัดการให้ดี อาห้าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงสัญญา ต้องติดคุกนะครับ”
"นาย!" จางฉีโม่กัดริมฝีปากของเธอแนบแน่น ในใจคิดอยากจะฆ่าคนให้ได้
นี่เป็นวิธีการทั่วไปในธุรกิจ ความมั่งคั่งของครอบครัวจางเทียนไห่นั้นมีช่องโหว่ ต้องการทำลายโรงงานอัญมณีให้ปิดตัวลง มีหลายวิธี ...
"คิดให้ดีๆ จะขอร้องผมหรือไม่" จางเทียนไห่ดูจากฉากนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาสะใจแค่ไหน
"พูดพอแล้วหรือยัง ถ้าพอแล้วก็ออกไป!"
หลินหยินมองไปที่จางเทียนไห่โดยไม่แสดงสีหน้าอะไร
“ไอ่คนไร้ประโยชน์ ยังกล้าที่จะบอกให้ฉันออกไปงั้นหรือ?” สีหน้าจางเทียนไห่เปลี่ยนไป เขามองไปที่หลินหยินอย่างเย็นชา
หลินหยินเชื่อฟังและอดทนในตระกูลจางมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะกล้าแกร่งต่อหน้าเขา
“เจ้าช่างกล้า!” จางเทียนไห่โกรธมาก ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นจะตบหน้าหลินหยิน
พรึบ!
หลินหยินยกมือขึ้นและจับข้อมือของจางเทียนไห่ได้ยินเสียงเหมือนบิดกระดูก
“เออ! อ้า!”
จางเทียนไห่กรีดร้องเหมือนหมูถูกเชือด จากความเจ็บปวดทำให้เหงื่อบนหน้าผากของเขาไหล่ออกมา เขามองไปที่หลินหยินด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาครึ่งคุกเข่าต่อหน้าหลินหยิน ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับว่าได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก
หลินหยินออกเสียงอย่างเย็นชาและปล่อยมือ
บูม.
จางเทียนไห่อ่อนตัวลงและล้มลงกับพื้นทันที แขนทั้งข้างเหมือนเป็นตะคริว ความเจ็บปวดทำให้เขาสั่นตลอด
“บ้าไปแล้ว! หลินหยินเจ้ายังกล้าทำร้ายข้า” จางเทียนไห่จ้องไปที่หลินหยิน “ฉันจะทำให้นายเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้!“
"บ้านพวกนายจบแล้ว! ไม่มีใครช่วยได้แล้ว ผมขอบอก!"
จางเทียนไห่ยืนขึ้นและพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“กูให้โอกาสพวกนาย ไม่รู้รักษา งั้นก็รอให้ครอบครัวนายพังพินาศเลยละกัน!"
หลังจากจางเทียนไห่ขู่ ก็จากไปอย่างโมโห
“หลินหยิน แกคิดว่าเรื่องยังใหญ่ไม่พอใช่หรือไม่? ถึงไปทำร้ายจางเทียนไห่!” ลู่หย่าฮุ่ยคร่ำครวญ
"ควรทำอย่างไงดี! ต้องตายเพราะแกจริงๆ! "
“คุณใจร้อนเกินไป การทำร้ายคน ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร" จางฉีโม่กล่าวช้าๆ
“เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง พวกคุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป" หลินหยินพูดอย่างใจเย็น "จางเทียนไห่ทำอะไรไม่ได้หรอก"
"ห๊ะ แกจะจัดการอะไรได้" ลู่หย่าฮุ่ยยิ้มเยาะ
"แกมีสิทธิอะไร..."
หลินหยินเหลือบมองไปที่ลู่หย่าฮุ่ย
เธอสะดุ้งตกใจ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่า หลินหยินแปลกกว่าที่ผ่านมา ดวงตาของเขาเฉียบคม คำพูดที่พร้อมจะตำหนิ พูดได้ครึ่งเดียวก็ต้องหยุดไป
หลินหยินมองไปที่จางฉีโม่ด้วยสายตาที่อ่อนโยนของเขา
"ไม่ต้องห่วง มีผมอยู่ที่นี่"
จางฉีโม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อยในใจ วันนี้หลินหยินทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสามารถพึ่งพาได้อย่างที่เธอไม่เคยมีมาก่อน
"ค่ะ" เธอพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
ในขณะเดียวกันกับอีกด้าน
Zhang's Jewelry Group, อาคารเป่าติ่ง
อาคารสูง 20ชั้นที่มีผู้คนเข้าออกทุกชั้น พนักงานกำลังเร่งรีบ สีหน้าออกกังวล มันเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้น
ชั้นที่ 23 ณ ห้องประชุม
คณะกรรมการบริหารจาง เรียกจัดการประชุมอย่างฉุกเฉิน
โต๊ะประชุมทั้งกว้างและยาว มีคนนั่งประจำอยู่ประมาณ 20กว่าคน
บุคคลที่ร่ำรวยและมีอำนาจทั้งหมดจากตระกูลจางในเมืองชิงหยุนอยู่ครบทุกคน
"มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมจู่ๆ กรุ๊ปถึงมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้? "
“พี่ใหญ่ นี่มันเรื่องอะไร ผมตีกอล์ฟอยู่ ได้รับสายหลายสาย ก็รีบกลับมาประชุม สายที่โทรมาล้วนแต่เป็นลูกค้ารายใหญ่ทั้งหมด ที่ต้องการถอนความร่วมมือกับกรุ๊ปของเรา!"
“ในกรุ๊ปเกิดความวุ่นวายขนาดนี้ หรือเพราะเราไปผิดใจกับใครหรือไม่? ไม่งั้นก็ไม่มีเหตุที่จะเกิดเรื่องแบบนี้! "
เสียงถกเถียงมากมายในห้องประชุม ผู้ถือหุ้นทุกคนต่างพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แลดูวิตกกังวลมาก
“แคะแคะ”
หัวหน้าตระกูลจาง กรรมการบริหารและประธาน Zhang Group จางหงจุน ทำเสียงไอแห้งสองครั้ง
"ทุกท่าน หยุดเถียงกันเถอะ มาคุยเรื่องสำคัญกันก่อน ทุกปัญหาต้องมีทางออกเสมอ"
สีหน้าของจางหงจุนดูไม่ได้เลย การดูแล Zhang Group มาหลายปีที่ผ่านมา มันราบรื่นมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เจอวิกฤตแบบนี้
ทันใดนั้นห้องประชุมก็เงียบลง ทุกคนมองไปที่จางหงจุนด้วยสีหน้ากังวล รอให้เขาพูด
"ท่านประธานคะ ผลสถิติที่ท่านต้องการออกมาแล้วค่ะ"
ในตอนนี้ เลขาหญิงสวมแว่นเดินเข้ามาพร้อมเอกสารสำคัญ
"แจ้งมาสิ ว่าวันนี้กรุ๊ปเราสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไปกี่ราย แล้วมีลูกค้าเก่ายกเลิกไปกี่ราย" จางหงจุนพูดอย่างหมดหนทาง สีหน้ากังวลเล็กน้อยเช่นกัน กรุ๊ปสูญเสียมากแค่ไหน เขาก็ไม่ชัดเจน
เลขาหญิงถือเอกสารและพูดอย่างจริงจังว่า "ท่านประธาน ตามสถิติ...เพียงแค่วันนี้ ตลาดหุ้นของ Zhang Group เราลดลงมากกว่า 30%... หุ้นตกอย่างมาก ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ผู้ถือหุ้นรายย่อย ต่างก็โทรมาถอนหุ้น"
“นอกจากนี้ ช่องทางการขายเครื่องประดับของเราในเมืองระดับจังหวัดหลายสิบแห่ง วันนี้ก็ถูกปฏิเสธ ถูกบังคับให้ยกเลิกสัญญาในเวลาเดียวกันเกือบหมด"
“อีกทั้ง อุตสาหกรรมอัญมณีในจังหวัดตงไห่ บริษัทที่มีชื่อเสียงมากกว่า 20แห่ง ตลอดจนสมาคมธุรกิจเครื่องประดับแห่งจังหวัดตงไห่ หอการค้าตงไห่ ทั้งหมดต่างประกาศว่าจะไม่ร่วมมือกับ Zhang's Jewelry Group ของเราอีกต่อไป... "
"กรุ๊ปของเรากำลังประสบกับวิกฤตความไว้วางใจ ... "
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เลขาหญิงก็ไม่สามารถรายงานต่อไปได้ เพราะถ้าพูดตรงๆ ออกไป ก็ไม่ควรรายงานตามตรงว่า กรุ๊ปได้ล้มละลายแล้ว...
หลินหยินรีบตรงไปที่ห้องพักเดี่ยว ห้อง608
“หลินหยิน เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่บ้าน แกช่างไม่สนใจอะไร หายไปไหนมา" ลู่หย่าฮุ่ยลุกขึ้น พร้อมกับสั่งสอนทันที
“แกดูสิ ดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้าน ทั้งหมดเป็นเพราะแกไปก่อเรื่อง!" ลู่หย่าฮุ่ยบ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
หลินหยินไม่พูดไม่จา ได้แต่มองไปที่เตียงในโรงพยาบาล เห็นพ่อตาจางซิ่วเฟิงหน้าตาดูเคร่งเครียด มีรอยฟกช้ำบนใบหน้า และมีผ้าก๊อซพันอยู่ที่มือ
ข้างเตียงคนไข้ จางฉีโม่นั่งอยู่ หน้าตาซีดเซียวที่ดูเหนื่อยมาก
“พ่อตา ฉีโม่ ได้รับเจ็บตรงไหนบ้าง?” หลินหยินถามอย่างจริงจัง
"เจ็บแค่ภายนอก มันไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก" จางซิ่วเฟิงตอบ
จางฉีโม่พูดต่อ: "ฉันไม่เป็นไร พ่อทะเลาะกับคนงาน แล้วถูกทำร้าย ตรวจเช็คแล้ว โชคดีที่ไม่เจ็บถึงกระดูก แค่การบาดเจ็บที่ภายนอก"
ในใจของหลินหยินโกรธจนลุกเป็นไฟ แต่ก็ถามอย่างใจเย็น “วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
จางฉีโม่ดูเหมือนจะไม่อยากพูดถึง เพียงแค่ถอนหายใจ
"วันนี้ พ่อของฉีโม่ไปโรงงานที่จะเคลียร์งาน ไม่รู้ว่าจางเทียนไห่ทำยังไงถึงได้ใบแจ้งหนี้ของโรงงานทั้งหมด กลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด จางเทียนไห่ยุยงให้คนงานรื้อถอนอุปกรณ์ทั้งหมดในโรงงาน พ่อของฉีโม่ไปต่อว่าและโดนคนงานสองคนทำร้ายร่างกาย” ลู่หย่าฮุ่ยพูดอย่างช้าๆ "ฉีโม่กับฉันไปถามจางเทียนไห่ เขายังเยาะเย้ยและเสียดสี ตอนนี้อุปกรณ์ทั้งหมดในโรงงานถูกพวกมันถอดย้ายออกไปหมดแล้ว"
“ตอนนี้โรงงานของพ่อฉีโม่ได้ถูกปิดตัวลงแล้ว ถึงขนาดบ้านก็โดนรื้อถอนพังยับเยิน!" ลู่หย่าฮุ่ยยิ่งพูดยิ่งรู้สึกโมโห "พวกเขาโหดร้ายมาก! หลินหยิน เพราะแกทำให้ครอบครัวพังแบบนี้! "
สายตาของหลินหยินเยือดเย็น เห็นได้ชัดว่า จางเทียนไห่เตรียมการมาแล้ว ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยม ไม่เพียงแต่ปิดโรงงานอัญมณีซึ่งเป็นรายได้ทางเดียวของครอบครัวฉีโม่แล้ว แม้แต่บ้านที่อาศัยก็ยังมายึดไป
ครั้งนี้คือตั้งใจจะเล่นงานครอบครัวกูลฉีโม่จริงๆ
“ใบจำนองแจ้งหนี้ของที่บ้านกับโรงงาน ตอนนี้อยู่ในมือของจางเทียนไห่ จางเทียนไห่บอกว่าเขาต้องการให้แกหย่ากับฉีโม่ ฉันได้ตกลงไปแล้ว หากแกยังละอายใจบ้าง ก็เซ็นต์ชื่อเถอะ" ลู่หย่าฮุ่ยอย่างไร้เยื่อใย
"ช่างมันเถอะ!" จางซิ่วเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มบนเตียงผู้ป่วย “หย่าฮุ่ย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผมไร้ความสามารถ ไม่สามารถดูแลครอบครัวนี้ได้
หยุดโทษคนอื่นเถอะนะ"
“ลูกชายของพี่สามทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่า อยากให้ครอบครัวเราอับอาย" จางซิ่วเฟิงพูดช้าๆ “คราวนี้ฟังความลูกสาวเถอะ อย่างมากเราแค่ไม่เอาโรงงานและบ้าน ออกจากเมืองชิงหยุน ไม่จำเป็นต้องอยู่ทนดูสีหน้าพวกเขา"
เวลานี้ ลู่หย่าฮุ่ยก็เงียบลง
"โย่ อยู่พร้อมหน้าทั้งครอบครัวเลย หลินหยินไอ่คนไร้ประโยชน์ ในที่สุดนายก็กล้าที่จะปรากฏตัว?"
เวลานี้ก็มีเสียงเยาะเย้ยมาจากนอกห้อง
จางเทียนไห่ที่สวมแว่นกันแดด สวมสูทสีสันสดใส มาพร้อมบอดี้การ์ดสองคน
“ข้อเสนอก่อนหน้านี้ของผม พวกท่านตัดสินใจยังไงครับ? อาสะใภ้ห้า อาห้า?" จางเทียนไห่พูดอย่างสบายใจ
“ต้องเข้าใจนะครับ ผมหวังดีกับครอบครัวของพวกท่าน ดูสิว่าหลินหยินเป็นคนไร้ประโยชน์แค่ไหน เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในโรงงานแต่เขากลับไม่กล้าโผล่หน้ามา" จางเทียนไห่พูดด้วยสีหน้าโอ้อวด “ถ้าวันนี้ผมไปช่วยไม่ทัน อาห้า อาว่าไอ่พวกคนงานไม่เอาชีวิตอาหรอกหรือ? "
"นายหุบปาก! ทั้งหมดนี้ก็ฝีมือของนาย อย่าแสร้งทำเป็นดี ทำตัวน่ารังเกียจที่นี่" จางฉีโม่พูดด้วยความโกรธ แสดงความรับเกียจออกมา
ใบหน้าของจางเทียนไห่ ไม่มีใครทนได้
“ช่างไม่เข้าใจคนที่เขาหวังดีด้วยเลยจริงๆ” จางเทียนไห่ถอนหายใจ “ผมช่วยลุงห้าเอาใบแจ้งหนี้จากคนอื่นมาได้ทั้งหมด นี่ไม่ใช่เพื่อปกป้องเขา? ถ้าเปลี่ยนเป็นคนนอกมาทวงหนี้ เกรงว่าอาห้าคงโดนซ้อมตายแล้วมั้ง!”
“ผมก็แค่คิดวิธีที่จะช่วยพวกคุณไม่ใช่เหรอ” จางเทียนไห่กล่าวช้าๆ “ฉีโม่วางใจได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีใครแต่งงานด้วย ลูกชายคนที่สามของตระกูลหลี่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับฉัน เขายังลืมฉีโม่ไม่ได้ ฉันจะช่วยให้เธอได้จัดงานแต่งนี้เอง”
"ออกไปจากที่นี่!" จางฉีโม่กล่าวอย่างโมโห ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธ ทนไม่ไหวกับคำสบประมาท
“ไปให้พ้น?” จางเทียนไห่หัวเราะ “อาห้า อย่าหาว่าผมไม่ให้โอกาสครอบครัวของอานะครับ พวกท่านต้องรู้จักคว้าโอกาส พรุ่งนี้ผมจะปล่อยใบแจ้งหนี้ออก เมื่อถึงเวลานั้น ครอบครัวของพวกท่านไม่เพียงแต่ไม่เหลืออะไร และยังต้องโดนคนติดตามทวงหนี้ทุกวิถีทางนะครับ?“
“นานกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร พ่อของฉันจำนองโรงงานจิวเวลรี่และบ้านออกไปก็จบปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอ หนี้สินอะไรกัน?” จางฉีโม่ถาม
"สิ่งที่เธอคิดมันง่ายเกินไป" จางเทียนไห่ยิ้มอย่างได้ใจ "โรงงานแปรรูปอัญมณีเก่าๆ ที่มีอุปกรณ์พังทั้งหมดแล้ว ไม่มีค่าอะไรแม้แต่น้อย จำนองชำระหนี้? เป็นไปไม่ได้! ประกอบกับค้างค่าเช่าสถานที่ หากไม่จัดการให้ดี อาห้าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงสัญญา ต้องติดคุกนะครับ”
"นาย!" จางฉีโม่กัดริมฝีปากของเธอแนบแน่น ในใจคิดอยากจะฆ่าคนให้ได้
นี่เป็นวิธีการทั่วไปในธุรกิจ ความมั่งคั่งของครอบครัวจางเทียนไห่นั้นมีช่องโหว่ ต้องการทำลายโรงงานอัญมณีให้ปิดตัวลง มีหลายวิธี ...
"คิดให้ดีๆ จะขอร้องผมหรือไม่" จางเทียนไห่ดูจากฉากนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาสะใจแค่ไหน
"พูดพอแล้วหรือยัง ถ้าพอแล้วก็ออกไป!"
หลินหยินมองไปที่จางเทียนไห่โดยไม่แสดงสีหน้าอะไร
“ไอ่คนไร้ประโยชน์ ยังกล้าที่จะบอกให้ฉันออกไปงั้นหรือ?” สีหน้าจางเทียนไห่เปลี่ยนไป เขามองไปที่หลินหยินอย่างเย็นชา
หลินหยินเชื่อฟังและอดทนในตระกูลจางมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะกล้าแกร่งต่อหน้าเขา
“เจ้าช่างกล้า!” จางเทียนไห่โกรธมาก ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นจะตบหน้าหลินหยิน
พรึบ!
หลินหยินยกมือขึ้นและจับข้อมือของจางเทียนไห่ได้ยินเสียงเหมือนบิดกระดูก
“เออ! อ้า!”
จางเทียนไห่กรีดร้องเหมือนหมูถูกเชือด จากความเจ็บปวดทำให้เหงื่อบนหน้าผากของเขาไหล่ออกมา เขามองไปที่หลินหยินด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาครึ่งคุกเข่าต่อหน้าหลินหยิน ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับว่าได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก
หลินหยินออกเสียงอย่างเย็นชาและปล่อยมือ
บูม.
จางเทียนไห่อ่อนตัวลงและล้มลงกับพื้นทันที แขนทั้งข้างเหมือนเป็นตะคริว ความเจ็บปวดทำให้เขาสั่นตลอด
“บ้าไปแล้ว! หลินหยินเจ้ายังกล้าทำร้ายข้า” จางเทียนไห่จ้องไปที่หลินหยิน “ฉันจะทำให้นายเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้!“
"บ้านพวกนายจบแล้ว! ไม่มีใครช่วยได้แล้ว ผมขอบอก!"
จางเทียนไห่ยืนขึ้นและพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“กูให้โอกาสพวกนาย ไม่รู้รักษา งั้นก็รอให้ครอบครัวนายพังพินาศเลยละกัน!"
หลังจากจางเทียนไห่ขู่ ก็จากไปอย่างโมโห
“หลินหยิน แกคิดว่าเรื่องยังใหญ่ไม่พอใช่หรือไม่? ถึงไปทำร้ายจางเทียนไห่!” ลู่หย่าฮุ่ยคร่ำครวญ
"ควรทำอย่างไงดี! ต้องตายเพราะแกจริงๆ! "
“คุณใจร้อนเกินไป การทำร้ายคน ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร" จางฉีโม่กล่าวช้าๆ
“เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง พวกคุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป" หลินหยินพูดอย่างใจเย็น "จางเทียนไห่ทำอะไรไม่ได้หรอก"
"ห๊ะ แกจะจัดการอะไรได้" ลู่หย่าฮุ่ยยิ้มเยาะ
"แกมีสิทธิอะไร..."
หลินหยินเหลือบมองไปที่ลู่หย่าฮุ่ย
เธอสะดุ้งตกใจ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่า หลินหยินแปลกกว่าที่ผ่านมา ดวงตาของเขาเฉียบคม คำพูดที่พร้อมจะตำหนิ พูดได้ครึ่งเดียวก็ต้องหยุดไป
หลินหยินมองไปที่จางฉีโม่ด้วยสายตาที่อ่อนโยนของเขา
"ไม่ต้องห่วง มีผมอยู่ที่นี่"
จางฉีโม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อยในใจ วันนี้หลินหยินทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสามารถพึ่งพาได้อย่างที่เธอไม่เคยมีมาก่อน
"ค่ะ" เธอพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
ในขณะเดียวกันกับอีกด้าน
Zhang's Jewelry Group, อาคารเป่าติ่ง
อาคารสูง 20ชั้นที่มีผู้คนเข้าออกทุกชั้น พนักงานกำลังเร่งรีบ สีหน้าออกกังวล มันเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้น
ชั้นที่ 23 ณ ห้องประชุม
คณะกรรมการบริหารจาง เรียกจัดการประชุมอย่างฉุกเฉิน
โต๊ะประชุมทั้งกว้างและยาว มีคนนั่งประจำอยู่ประมาณ 20กว่าคน
บุคคลที่ร่ำรวยและมีอำนาจทั้งหมดจากตระกูลจางในเมืองชิงหยุนอยู่ครบทุกคน
"มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมจู่ๆ กรุ๊ปถึงมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้? "
“พี่ใหญ่ นี่มันเรื่องอะไร ผมตีกอล์ฟอยู่ ได้รับสายหลายสาย ก็รีบกลับมาประชุม สายที่โทรมาล้วนแต่เป็นลูกค้ารายใหญ่ทั้งหมด ที่ต้องการถอนความร่วมมือกับกรุ๊ปของเรา!"
“ในกรุ๊ปเกิดความวุ่นวายขนาดนี้ หรือเพราะเราไปผิดใจกับใครหรือไม่? ไม่งั้นก็ไม่มีเหตุที่จะเกิดเรื่องแบบนี้! "
เสียงถกเถียงมากมายในห้องประชุม ผู้ถือหุ้นทุกคนต่างพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แลดูวิตกกังวลมาก
“แคะแคะ”
หัวหน้าตระกูลจาง กรรมการบริหารและประธาน Zhang Group จางหงจุน ทำเสียงไอแห้งสองครั้ง
"ทุกท่าน หยุดเถียงกันเถอะ มาคุยเรื่องสำคัญกันก่อน ทุกปัญหาต้องมีทางออกเสมอ"
สีหน้าของจางหงจุนดูไม่ได้เลย การดูแล Zhang Group มาหลายปีที่ผ่านมา มันราบรื่นมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เจอวิกฤตแบบนี้
ทันใดนั้นห้องประชุมก็เงียบลง ทุกคนมองไปที่จางหงจุนด้วยสีหน้ากังวล รอให้เขาพูด
"ท่านประธานคะ ผลสถิติที่ท่านต้องการออกมาแล้วค่ะ"
ในตอนนี้ เลขาหญิงสวมแว่นเดินเข้ามาพร้อมเอกสารสำคัญ
"แจ้งมาสิ ว่าวันนี้กรุ๊ปเราสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไปกี่ราย แล้วมีลูกค้าเก่ายกเลิกไปกี่ราย" จางหงจุนพูดอย่างหมดหนทาง สีหน้ากังวลเล็กน้อยเช่นกัน กรุ๊ปสูญเสียมากแค่ไหน เขาก็ไม่ชัดเจน
เลขาหญิงถือเอกสารและพูดอย่างจริงจังว่า "ท่านประธาน ตามสถิติ...เพียงแค่วันนี้ ตลาดหุ้นของ Zhang Group เราลดลงมากกว่า 30%... หุ้นตกอย่างมาก ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ผู้ถือหุ้นรายย่อย ต่างก็โทรมาถอนหุ้น"
“นอกจากนี้ ช่องทางการขายเครื่องประดับของเราในเมืองระดับจังหวัดหลายสิบแห่ง วันนี้ก็ถูกปฏิเสธ ถูกบังคับให้ยกเลิกสัญญาในเวลาเดียวกันเกือบหมด"
“อีกทั้ง อุตสาหกรรมอัญมณีในจังหวัดตงไห่ บริษัทที่มีชื่อเสียงมากกว่า 20แห่ง ตลอดจนสมาคมธุรกิจเครื่องประดับแห่งจังหวัดตงไห่ หอการค้าตงไห่ ทั้งหมดต่างประกาศว่าจะไม่ร่วมมือกับ Zhang's Jewelry Group ของเราอีกต่อไป... "
"กรุ๊ปของเรากำลังประสบกับวิกฤตความไว้วางใจ ... "
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เลขาหญิงก็ไม่สามารถรายงานต่อไปได้ เพราะถ้าพูดตรงๆ ออกไป ก็ไม่ควรรายงานตามตรงว่า กรุ๊ปได้ล้มละลายแล้ว...
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved