บทที่ 942 คนสตอขี้แอ๊บ
by อาห่าว
08:01,Mar 31,2021
"เอิ่มเริ่มไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแล้ว!"
น้าฉินก็ได้ส่ายหน้าตามเช่นกัน
"พวกแกสองคนมันรนหาที่ตาย!"
ฮั้วซินเสียนมองน้าฉินและหลินหยินรังสีแห่งความเยือกเย็นในแววตามีมากล้นถึงแม้ว่าเมื่อกี้เขาจะพูดจาโอหังแต่เขากลับไม่ได้ลงมือทำร้ายหัวหน้าองครักษ์ของตึกเติงเทียนแต่อย่างใด
ถึงแม้ว่าโชคชะตาชีวิตของเขาจะไม่ธรรมดาแต่เขาก็ทราบถึงความแข็งแรงของตึกเติงเทียนอยู่เหมือนกันบนตัวสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่มีกลิ่นอายของความเป็นยอดฝีมือเลยจะได้เป็นคู่ต่อสู้ที่เขาสามารถเผยความน่าเกรงขามของตัวเองออกมาได้พอดี
"ปัง!"
ยังไม่รอให้หลินหยินและน้าฉินได้พูดอะไรหัวหน้าองครักษ์ก็ได้ลงมือแล้วชกหมัดตรงไปที่ฮั้วซินเสียนอย่างกระทันหัน
ถึงแม้ว่าฮั้วซินเสียนจะตอบสนองได้ทันยกหมัดขึ้นมาบังแต่ก็ถูกหัวหน้าองครักษ์ชกจนถอยเซออกไปไกลสิบกว่าเมตรมุมปากมีเลือดไหลออกมาพลางจ้องมองหัวหน้าองครักษ์ด้วยสายตาที่หวาดผวา
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าองครักษ์ของตึกเติงเทียนจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้
"เด็กน้อยกล้ามาก่อรื่องที่ตึกเติงเทียนดูแล้วเหมือนแกจะไม่รู้นะว่าคำว่าตายสะกดยังไง!"
หัวหน้าองครักษ์มองหน้าฮั้วซินเสียนพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
หน้าประตูของตึกเติงเทียนในตอนนี้มีคนได้มาถึงไม่น้อยแล้วคนส่วนมากต่างใช้สายตาที่หยอกล้อจ้องมองฮั้วซินเสียนทุกปีมักจะมีคนจำนวนมากที่เหมือนคนโง่กล้ามาหาเรื่องที่หน้าประตูตึกเติงเทียนแต่สุดท้ายจบก็มักจะจบได้ไม่สวยเกือบจะทุกคนเลย
"แก......"
ฮั้วซินเสียนกระอักเลือดออกมาอีกครั้งหนึ่งสีหน้าแดงเถือกการมาตึกเติงเทียนของเขาในครั้งนี้ก็เพื่อมาสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองถ้าเกิดถูกเชื้อสายพระราชาและเชื้อสายพระราชวงศ์รับเป็นขุนนางต่างแดนงั้นก็จะยิ่งดี
แต่ว่าคิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่เขามาถึงตึกเติงเทียนก็ถูกหัวหน้าองครักษ์จัดการสั่งสอนไปเลยนี่จะทำให้คนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งอย่างเขาทนต่อได้ยังไง
"ผู้บังคับบัญชากู้คะได้โปรดช่วยไว้หน้าฉันแล้วปล่อยพ่อหนุ่มคนนี้ไปสักครั้งดีไหมคะ?"
และในตอนนี้เองเสียงที่ไพเราะเสนาะหูเหมือนนกร้องได้ดังขึ้นหญิงสาวที่หน้าตาสวยงามอย่างไร้ที่ติคนนึงพร้อมกับจำนวนผู้คนนับร้อยที่อยู่รอบรอบ
"นั่นมันเทพธิดาหลีเหมิง!"
"โอ้พระเจ้าช่วย!"
"คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้เจอหน้าเทพธิดาหลีเหมิงด้วยเหรอเนี่ยครั้งนี้ถึงแม้ชื่อเสียงของตัวเองจะไม่โด่งดังก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!"
ทันทีที่หญิงสาวคนนี้ปรากฏผู้คนที่อยู่รอบๆตึกเติงเทียนต่างเริ่มคึกคักขึ้นมาส่วนผู้หญิงบางส่วนได้ใช้สายตาที่อิจฉาจ้องมองไปที่เทพธิดาหลีเหมิง
"ในเมื่อเทพธิดาหลีเหมิงเอ่ยปากพูดต้องไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ!"
ผู้บังคับบัญชากู้ขมวดคิ้วแต่สุดท้ายก็ได้เอ่ยปากพูดชื่อเสียงและความโด่งดังของเทพธิดาหลีเหมิงมีอยู่สูงมากๆถ้าเขาปฏิเสธตอนนี้อาจจะทำให้เหล่าผู้คนที่เดินตามเทพธิดาหลีเหมิงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาได้โดยที่ไม่รู้ตัว
"งั้นต้องกราบขอบคุณผู้บังคับบัญชากู้มากเลยนะคะ!"
เทพธิดาหลีเหมิงยิ้มอย่างสง่างามผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆก็พากันยิ้มตามเช่นกัน
เธอเป็นคนที่สวยงามดั่งต้องมนต์กลิ่นอายออร่าโดดเด่นกว่าทุกคนมาก
กลุ่มหนุ่มสาวที่อยู่รอบๆเธอต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวแม้กระทั่งรองเท้าและถุงเท้าก็เป็นสีขาวด้วยเช่นกันไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดส่วนเทพธิดาหลีเหมิงกลับไม่ค่อยเหมือนกันเสื้อผ้าของเธอคือเดรสที่มีสีสันสดใสจากการเชิดชูของหนุ่มสาวที่ดูเฉยเมยรอบๆยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นมากเข้าไปใหญ่ดูเป็นเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ
สายตาของฮั้วซินเสียนที่มองไปทางเทพธิดาหลีเหมิงก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลเช่นกันมากไปกว่านั้นเขาได้คิดให้เธอว่าถ้าเกิดเทพธิดาหลีเหมิงยิ้มให้ตัวเองสักครั้งถึงแม้เขาจะตายไปก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
"คุณเพื่อนคุณว่ายังไงหละคะ?"
เทพธิดาหลีเหมิงเดินเข้าไปพูดอยู่ข้างกายหลินหยินน้ำเสียงของเธอเพราะเสนาะหูมากน่าฟังจนทำให้จิตใจหวั่นไหวแม้กระทั่งน้าฉินที่ยืนอยู่ข้างๆหลินหยินก็รู้สึกได้ว่าเหมือนกำลังมีลมที่แผ่วเบาพัดเข้ามาอย่างอ่อนโยน
"แล้วถ้าผมตอบว่าไม่ล่ะครับ!"
หลินหยินตอบอย่างเรียบนิ่ง
เขาหลินหยินจะปฏิบัติงานถึงคิวให้หญิงสาวคนนึงที่ไม่รู้จักมาจุกจิกจู้จี้แล้วหรือ
ความรู้สึกบนใบหน้าของเทพธิดาหลีเหมิงแข็งทื่อไปอย่างกระทันหันแต่เร็วมากก็ได้กลับมายิ้มเหมือนเดิมแววตาที่มองไปทางหลินหยินปนไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเบา:"เมื่อกี้เป็นความผิดของเพื่อนฮั้วคนนี้จริงๆหลีเหมิงขอกราบอภัยแทนเขามาณที่นี่ด้วยนะคะ"
สายตาของเหล่าผู้พิทักษ์เทพธิดาหลีเหมิงต่างจ้องมองหลินหยินด้วยความไม่เป็นมิตรถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้อยู่หน้าประตูตึกเติงเทียนพวกเขาลงมือโจมตีหลินหยินไปตั้งนานแล้ว
"ขอโทษให้มันมาพูดเอง!"
แววตาของหลินหยินเต็มไปด้วยความสงบนิ่งไม่ได้สนใจสายตาที่ดุร้ายของเหล่าผู้คนที่อยู่รอบๆเลย
เขาไม่ได้สนใจฮั้วซินเสียนเลยด้วยซ้ำแต่แค่ไม่ค่อยชอบการกระทำของเทพธิดาหลีเหมิงนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเธอไม่รู้จักกับฮั้วซินเสียนแต่ตอนนี้กลับตั้งใจมาขอโทษแทนฮั้วซินเสียนอยู่หน้าประตูตึกเติงเทียนนี่เพื่อดึงดูดความสนใจของคนอื่น
ถ้าอยู่ในโลกภายนอกนะนี่มันคนตอแหลขี้แอ๊วแบ๊วคนนึงชัดๆ
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืนแกอย่าเกินเลยมากไปกว่านี้นะ!"
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่หลังเทพธิดาหลีเหมิงพูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็น
เขาไม่ได้ปกปิดพลังออร่าบนตัวเขาเลยถึงแม้ว่าอายุจะยังไม่มากแต่ก็มีความสามารถอยู่ในระดับกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะแล้ว
"ที่หลีเหมิงคุยกับแกเพราะให้เกียรติแกแกอย่าได้คืบจะเอาศอก!"
มีผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวคนนึงเดินออกมาเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะคนหนึ่งเช่นกันพวกเขาทั้งสองคนนี้เป็นผู้พิทักษ์ของเทพธิดาหลีเหมิงที่มีพลังความสามารถแข็งแกร่งมากที่สุด
"นี่เป็นเรื่องของฉันกับไอ้หมอนั่นเกี่ยวอะไรกับมาสองตัวอย่างพวกแก!"
หลินหยินพูดอย่างเรียบนิ่ง
ในโลกภายนอกไม่ว่าจะเป็นโรคมนุษย์หรือว่าแวดวงสันโดษมีใครบ้างที่กล้ามาชี้แนะให้เขาทำนู่นทำนี่
"แกมันรนหาที่ตาย!"
ทั้งสองก้าวเดินขึ้นมาพร้อมกันพลังออร่าที่แกร่งกล้าทั้งสองพุ่งตรงมาในทิศทางของหลินหยิน
"หึ!"
ไม่รอให้หลินหยินลงมือน้าฉินได้ทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงก่อนจะเดินขึ้นไปหนึ่งก้าวปลดปล่อยพลังออร่าบนร่างกายออกมาหลินหยินเป็นคนที่ซฬหามาจะยอมปล่อยให้พวกหมูหมากาไก่นี้กดขี่ข่มเหงได้ยังไง
"อั่ก!"
ผู้พิทักษ์ทั้งสองของเทพธิดาหลีเหมิงกระอักเลือดออกมาทีนึงร่างกายถอยเซกลับไปหลายก้าวถึงจะหยุดลง
ทั้งสองต่างใช้สายตาที่เข้มงวดจ้องมองไปทางน้าฉินแค่ใช้พลังออร่าบนร่างกายอย่างเดียวก็ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแล้วชายวัยกลางคนตรงหน้านี้ต้องเป็นดินแดนแห่งความเป็นอมตะอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าพลังความสามารถของทั้งสองคนจะไม่แย่แต่ก็ไม่ได้บาตรใหญ่จนสามารถต่อกรกับยอดฝีมือดินแดนแห่งความเป็นอมตะคนหนึ่งได้อีกอย่างดูแล้วเหมือนน้าฉินจะไม่ใช่ดินแดนแห่งความเป็นอมตะทั่วไปอีกด้วย
"รุ่นพี่ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย!"
ร่างกายของเทพธิดาหลีเหมิงถอยกลับไปอย่างกระทันหันปกป้องทั้งสองคนอยู่ด้านหลังตัวเองพลางพูดเสียงเบาถึงแม้ว่าดินแดนแห่งความเป็นอมตะจะเก่งกาจมากแต่ในฐานะที่เธอเป็นลูกศิษย์ของดินแดนโลกอมตะเมื่อเผชิญหน้ากับดินแดนแห่งความเป็นอมตะก็พอมีความกล้าที่จะหนีรอดได้อยู่
"เทพธิดาหลีเหมิงคุณฉินเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวน!"ผู้บังคับบัญชากู้ยืนอยู่ข้างๆพลางพูดเสียงต่ำ
ถึงแม้เขาจะไม่พอใจเหมือนกันที่เทพธิดาหลีเหมิงเข้ามายุ่งแต่อย่างน้อยที่นี่ก็คือหน้าประตูตึกเติงเทียนถ้าเกิดมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นที่นี่เขาก็จะลำบากไปด้วยเช่นกัน
เมื่อได้ยินแบบนี้สีหน้าของเทพธิดาหลีเหมิงก็ดูย่ำแย่ลง
ถ้าเกิดเป็นตระกูลอื่นเธอยังสามารถตามเอาเรื่องได้อยู่แต่เธอไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกันกับตระกูลซวนหยวนเลยอีกอย่างถ้าจะเป็นศัตรูกับตระกูลซวนหยวนเพียงเพราะฮั้วซินเสียนคนเดียวนั้นมันไม่ค่อยคุ้มค่าจริงๆ
เทพธิดาหลีเหมิงหันหน้าเดินไปข้างกายฮั้วซินเสียนก่อนจะพูดเสียงเบา:"คุณฮั้วไปขอโทษจะดีกว่านะคะตระกูลซวนหยวนไม่ใช่ตระกูลที่เราจะไปมีปัญหาด้วยได้นะคะ"
สีหน้าของขาวซีดลงไปแต่สุดท้ายก็ได้ค่อยๆเดินเข้าไปหาหลินหยินก่อนจะพูดเสียงต่ำ:"ขอโทษ"
"ไสหัวไปซะ!"
หลังจากที่พูดหลินหยินก็ได้หันหลังแล้วเดินเข้าไปภายในตึกเติงเทียนทันทีเลย
สีหน้าของฮั้วซินเสียนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูดูย่ำแย่มากถึงมากที่สุดและไม่มีหน้าที่จะเข้าไปภายในตึกเติงเทียนอีกแล้วด้วยแต่ถ้าจะให้จากไปแบบนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย
"ถ้าเกิดเพื่อนฮั้วไม่รังเกียจก็เข้าไปพร้อมกันกับพวกฉันเถอะค่ะฉันมีเพื่อนอยู่ด้านในพอดีเลยทุกคนจะได้รวมตัวกันพอดีด้วยค่ะ"
เทพธิดาหลีเหมิงยิ้มพลางพูด
"การเคารพเทียบไม่ได้กับทำตามคำสั่ง"
น้าฉินก็ได้ส่ายหน้าตามเช่นกัน
"พวกแกสองคนมันรนหาที่ตาย!"
ฮั้วซินเสียนมองน้าฉินและหลินหยินรังสีแห่งความเยือกเย็นในแววตามีมากล้นถึงแม้ว่าเมื่อกี้เขาจะพูดจาโอหังแต่เขากลับไม่ได้ลงมือทำร้ายหัวหน้าองครักษ์ของตึกเติงเทียนแต่อย่างใด
ถึงแม้ว่าโชคชะตาชีวิตของเขาจะไม่ธรรมดาแต่เขาก็ทราบถึงความแข็งแรงของตึกเติงเทียนอยู่เหมือนกันบนตัวสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่มีกลิ่นอายของความเป็นยอดฝีมือเลยจะได้เป็นคู่ต่อสู้ที่เขาสามารถเผยความน่าเกรงขามของตัวเองออกมาได้พอดี
"ปัง!"
ยังไม่รอให้หลินหยินและน้าฉินได้พูดอะไรหัวหน้าองครักษ์ก็ได้ลงมือแล้วชกหมัดตรงไปที่ฮั้วซินเสียนอย่างกระทันหัน
ถึงแม้ว่าฮั้วซินเสียนจะตอบสนองได้ทันยกหมัดขึ้นมาบังแต่ก็ถูกหัวหน้าองครักษ์ชกจนถอยเซออกไปไกลสิบกว่าเมตรมุมปากมีเลือดไหลออกมาพลางจ้องมองหัวหน้าองครักษ์ด้วยสายตาที่หวาดผวา
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าองครักษ์ของตึกเติงเทียนจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้
"เด็กน้อยกล้ามาก่อรื่องที่ตึกเติงเทียนดูแล้วเหมือนแกจะไม่รู้นะว่าคำว่าตายสะกดยังไง!"
หัวหน้าองครักษ์มองหน้าฮั้วซินเสียนพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
หน้าประตูของตึกเติงเทียนในตอนนี้มีคนได้มาถึงไม่น้อยแล้วคนส่วนมากต่างใช้สายตาที่หยอกล้อจ้องมองฮั้วซินเสียนทุกปีมักจะมีคนจำนวนมากที่เหมือนคนโง่กล้ามาหาเรื่องที่หน้าประตูตึกเติงเทียนแต่สุดท้ายจบก็มักจะจบได้ไม่สวยเกือบจะทุกคนเลย
"แก......"
ฮั้วซินเสียนกระอักเลือดออกมาอีกครั้งหนึ่งสีหน้าแดงเถือกการมาตึกเติงเทียนของเขาในครั้งนี้ก็เพื่อมาสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองถ้าเกิดถูกเชื้อสายพระราชาและเชื้อสายพระราชวงศ์รับเป็นขุนนางต่างแดนงั้นก็จะยิ่งดี
แต่ว่าคิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่เขามาถึงตึกเติงเทียนก็ถูกหัวหน้าองครักษ์จัดการสั่งสอนไปเลยนี่จะทำให้คนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งอย่างเขาทนต่อได้ยังไง
"ผู้บังคับบัญชากู้คะได้โปรดช่วยไว้หน้าฉันแล้วปล่อยพ่อหนุ่มคนนี้ไปสักครั้งดีไหมคะ?"
และในตอนนี้เองเสียงที่ไพเราะเสนาะหูเหมือนนกร้องได้ดังขึ้นหญิงสาวที่หน้าตาสวยงามอย่างไร้ที่ติคนนึงพร้อมกับจำนวนผู้คนนับร้อยที่อยู่รอบรอบ
"นั่นมันเทพธิดาหลีเหมิง!"
"โอ้พระเจ้าช่วย!"
"คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้เจอหน้าเทพธิดาหลีเหมิงด้วยเหรอเนี่ยครั้งนี้ถึงแม้ชื่อเสียงของตัวเองจะไม่โด่งดังก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!"
ทันทีที่หญิงสาวคนนี้ปรากฏผู้คนที่อยู่รอบๆตึกเติงเทียนต่างเริ่มคึกคักขึ้นมาส่วนผู้หญิงบางส่วนได้ใช้สายตาที่อิจฉาจ้องมองไปที่เทพธิดาหลีเหมิง
"ในเมื่อเทพธิดาหลีเหมิงเอ่ยปากพูดต้องไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ!"
ผู้บังคับบัญชากู้ขมวดคิ้วแต่สุดท้ายก็ได้เอ่ยปากพูดชื่อเสียงและความโด่งดังของเทพธิดาหลีเหมิงมีอยู่สูงมากๆถ้าเขาปฏิเสธตอนนี้อาจจะทำให้เหล่าผู้คนที่เดินตามเทพธิดาหลีเหมิงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาได้โดยที่ไม่รู้ตัว
"งั้นต้องกราบขอบคุณผู้บังคับบัญชากู้มากเลยนะคะ!"
เทพธิดาหลีเหมิงยิ้มอย่างสง่างามผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆก็พากันยิ้มตามเช่นกัน
เธอเป็นคนที่สวยงามดั่งต้องมนต์กลิ่นอายออร่าโดดเด่นกว่าทุกคนมาก
กลุ่มหนุ่มสาวที่อยู่รอบๆเธอต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวแม้กระทั่งรองเท้าและถุงเท้าก็เป็นสีขาวด้วยเช่นกันไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดส่วนเทพธิดาหลีเหมิงกลับไม่ค่อยเหมือนกันเสื้อผ้าของเธอคือเดรสที่มีสีสันสดใสจากการเชิดชูของหนุ่มสาวที่ดูเฉยเมยรอบๆยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นมากเข้าไปใหญ่ดูเป็นเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ
สายตาของฮั้วซินเสียนที่มองไปทางเทพธิดาหลีเหมิงก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลเช่นกันมากไปกว่านั้นเขาได้คิดให้เธอว่าถ้าเกิดเทพธิดาหลีเหมิงยิ้มให้ตัวเองสักครั้งถึงแม้เขาจะตายไปก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
"คุณเพื่อนคุณว่ายังไงหละคะ?"
เทพธิดาหลีเหมิงเดินเข้าไปพูดอยู่ข้างกายหลินหยินน้ำเสียงของเธอเพราะเสนาะหูมากน่าฟังจนทำให้จิตใจหวั่นไหวแม้กระทั่งน้าฉินที่ยืนอยู่ข้างๆหลินหยินก็รู้สึกได้ว่าเหมือนกำลังมีลมที่แผ่วเบาพัดเข้ามาอย่างอ่อนโยน
"แล้วถ้าผมตอบว่าไม่ล่ะครับ!"
หลินหยินตอบอย่างเรียบนิ่ง
เขาหลินหยินจะปฏิบัติงานถึงคิวให้หญิงสาวคนนึงที่ไม่รู้จักมาจุกจิกจู้จี้แล้วหรือ
ความรู้สึกบนใบหน้าของเทพธิดาหลีเหมิงแข็งทื่อไปอย่างกระทันหันแต่เร็วมากก็ได้กลับมายิ้มเหมือนเดิมแววตาที่มองไปทางหลินหยินปนไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเบา:"เมื่อกี้เป็นความผิดของเพื่อนฮั้วคนนี้จริงๆหลีเหมิงขอกราบอภัยแทนเขามาณที่นี่ด้วยนะคะ"
สายตาของเหล่าผู้พิทักษ์เทพธิดาหลีเหมิงต่างจ้องมองหลินหยินด้วยความไม่เป็นมิตรถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้อยู่หน้าประตูตึกเติงเทียนพวกเขาลงมือโจมตีหลินหยินไปตั้งนานแล้ว
"ขอโทษให้มันมาพูดเอง!"
แววตาของหลินหยินเต็มไปด้วยความสงบนิ่งไม่ได้สนใจสายตาที่ดุร้ายของเหล่าผู้คนที่อยู่รอบๆเลย
เขาไม่ได้สนใจฮั้วซินเสียนเลยด้วยซ้ำแต่แค่ไม่ค่อยชอบการกระทำของเทพธิดาหลีเหมิงนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเธอไม่รู้จักกับฮั้วซินเสียนแต่ตอนนี้กลับตั้งใจมาขอโทษแทนฮั้วซินเสียนอยู่หน้าประตูตึกเติงเทียนนี่เพื่อดึงดูดความสนใจของคนอื่น
ถ้าอยู่ในโลกภายนอกนะนี่มันคนตอแหลขี้แอ๊วแบ๊วคนนึงชัดๆ
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืนแกอย่าเกินเลยมากไปกว่านี้นะ!"
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่หลังเทพธิดาหลีเหมิงพูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็น
เขาไม่ได้ปกปิดพลังออร่าบนตัวเขาเลยถึงแม้ว่าอายุจะยังไม่มากแต่ก็มีความสามารถอยู่ในระดับกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะแล้ว
"ที่หลีเหมิงคุยกับแกเพราะให้เกียรติแกแกอย่าได้คืบจะเอาศอก!"
มีผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวคนนึงเดินออกมาเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นกึ่งดินแดนแห่งความเป็นอมตะคนหนึ่งเช่นกันพวกเขาทั้งสองคนนี้เป็นผู้พิทักษ์ของเทพธิดาหลีเหมิงที่มีพลังความสามารถแข็งแกร่งมากที่สุด
"นี่เป็นเรื่องของฉันกับไอ้หมอนั่นเกี่ยวอะไรกับมาสองตัวอย่างพวกแก!"
หลินหยินพูดอย่างเรียบนิ่ง
ในโลกภายนอกไม่ว่าจะเป็นโรคมนุษย์หรือว่าแวดวงสันโดษมีใครบ้างที่กล้ามาชี้แนะให้เขาทำนู่นทำนี่
"แกมันรนหาที่ตาย!"
ทั้งสองก้าวเดินขึ้นมาพร้อมกันพลังออร่าที่แกร่งกล้าทั้งสองพุ่งตรงมาในทิศทางของหลินหยิน
"หึ!"
ไม่รอให้หลินหยินลงมือน้าฉินได้ทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีนึงก่อนจะเดินขึ้นไปหนึ่งก้าวปลดปล่อยพลังออร่าบนร่างกายออกมาหลินหยินเป็นคนที่ซฬหามาจะยอมปล่อยให้พวกหมูหมากาไก่นี้กดขี่ข่มเหงได้ยังไง
"อั่ก!"
ผู้พิทักษ์ทั้งสองของเทพธิดาหลีเหมิงกระอักเลือดออกมาทีนึงร่างกายถอยเซกลับไปหลายก้าวถึงจะหยุดลง
ทั้งสองต่างใช้สายตาที่เข้มงวดจ้องมองไปทางน้าฉินแค่ใช้พลังออร่าบนร่างกายอย่างเดียวก็ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแล้วชายวัยกลางคนตรงหน้านี้ต้องเป็นดินแดนแห่งความเป็นอมตะอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าพลังความสามารถของทั้งสองคนจะไม่แย่แต่ก็ไม่ได้บาตรใหญ่จนสามารถต่อกรกับยอดฝีมือดินแดนแห่งความเป็นอมตะคนหนึ่งได้อีกอย่างดูแล้วเหมือนน้าฉินจะไม่ใช่ดินแดนแห่งความเป็นอมตะทั่วไปอีกด้วย
"รุ่นพี่ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย!"
ร่างกายของเทพธิดาหลีเหมิงถอยกลับไปอย่างกระทันหันปกป้องทั้งสองคนอยู่ด้านหลังตัวเองพลางพูดเสียงเบาถึงแม้ว่าดินแดนแห่งความเป็นอมตะจะเก่งกาจมากแต่ในฐานะที่เธอเป็นลูกศิษย์ของดินแดนโลกอมตะเมื่อเผชิญหน้ากับดินแดนแห่งความเป็นอมตะก็พอมีความกล้าที่จะหนีรอดได้อยู่
"เทพธิดาหลีเหมิงคุณฉินเป็นขุนนางต่างแดนของตระกูลซวนหยวน!"ผู้บังคับบัญชากู้ยืนอยู่ข้างๆพลางพูดเสียงต่ำ
ถึงแม้เขาจะไม่พอใจเหมือนกันที่เทพธิดาหลีเหมิงเข้ามายุ่งแต่อย่างน้อยที่นี่ก็คือหน้าประตูตึกเติงเทียนถ้าเกิดมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นที่นี่เขาก็จะลำบากไปด้วยเช่นกัน
เมื่อได้ยินแบบนี้สีหน้าของเทพธิดาหลีเหมิงก็ดูย่ำแย่ลง
ถ้าเกิดเป็นตระกูลอื่นเธอยังสามารถตามเอาเรื่องได้อยู่แต่เธอไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกันกับตระกูลซวนหยวนเลยอีกอย่างถ้าจะเป็นศัตรูกับตระกูลซวนหยวนเพียงเพราะฮั้วซินเสียนคนเดียวนั้นมันไม่ค่อยคุ้มค่าจริงๆ
เทพธิดาหลีเหมิงหันหน้าเดินไปข้างกายฮั้วซินเสียนก่อนจะพูดเสียงเบา:"คุณฮั้วไปขอโทษจะดีกว่านะคะตระกูลซวนหยวนไม่ใช่ตระกูลที่เราจะไปมีปัญหาด้วยได้นะคะ"
สีหน้าของขาวซีดลงไปแต่สุดท้ายก็ได้ค่อยๆเดินเข้าไปหาหลินหยินก่อนจะพูดเสียงต่ำ:"ขอโทษ"
"ไสหัวไปซะ!"
หลังจากที่พูดหลินหยินก็ได้หันหลังแล้วเดินเข้าไปภายในตึกเติงเทียนทันทีเลย
สีหน้าของฮั้วซินเสียนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูดูย่ำแย่มากถึงมากที่สุดและไม่มีหน้าที่จะเข้าไปภายในตึกเติงเทียนอีกแล้วด้วยแต่ถ้าจะให้จากไปแบบนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย
"ถ้าเกิดเพื่อนฮั้วไม่รังเกียจก็เข้าไปพร้อมกันกับพวกฉันเถอะค่ะฉันมีเพื่อนอยู่ด้านในพอดีเลยทุกคนจะได้รวมตัวกันพอดีด้วยค่ะ"
เทพธิดาหลีเหมิงยิ้มพลางพูด
"การเคารพเทียบไม่ได้กับทำตามคำสั่ง"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved