บทที่ 926 เคารพบูชาเหมือนบรรพบุรุษ
by อาห่าว
08:01,Mar 30,2021
บรรยากาศภายในคาเฟ่ณตอนนี้นิ่งเงียบมาก
ในละแวกโรงเรียนนี้เติ้งเฟยแคุณชายเติ้งก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างตอนแรกก็คิดว่าแฟนหนุ่มตามข่าวลือของยวีเชี้ยนนั่นจะซวยแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าพี่ชายของคุณชายเติ้งเติ้งเฉิงจะมาแล้วและยังคุกเข่าต่อหน้าแฟนตามข่าวลือคนดังกล่าวของยวีเชี้ยนอีกด้วย
"เฮียเฮียทำอะไรอยู่เนี่ยรีบลุกขึ้นมา!"
เติ้งเฟยเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างยากลำบากขอให้พี่ชายตัวเองจำคนผิด
คนที่สามารถทำให้พี่ชายที่หยิ่งยโสของเขาคุกเข่าลงได้เห็นได้ชัดเลยว่าอิทธิพลอำนาจของฝ่ายตรงข้ามจะยิ่งใหญ่มากแค่ไหน
เซียงเซียงและยวีเชี้ยนยืนผงะอยู่กับที่เติ้งเฟยเป็นแค่ลูกคนรวยที่เอาแต่ใจคนเดียวเท่านั้นแต่เติ้งเฉิงไม่เหมือนกันตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการใหญ่ในกรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แล้วนะมีเพื่อนอยู่ด้านนอกเป็นจำนวนมากและนับว่าเป็นคุณชายใหญ่อันดับต้นๆของเมืองดิจิงด้วยแต่ตอนนี้เขากลับคุกเข่าอยู่หน้าหลินหยินงั้นหรอ
สำหรับเหตุการณ์นี้คนที่จิตใจได้รับผลกระทบมากที่สุดคือยวีเชี้ยนตอนแรกเธอก็คิดว่าพ่อของตัวเองถึงแม้จะพอมีอำนาจอยู่ในเมืองดิจิงบ้างแต่ก็เป็นแค่อำนาจที่น้อยนิดแต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้วเธอดูถูกพ่อตัวเองมากเกินไปถ้ามีอำนาจแค่น้อยนิดจริงๆผู้จัดการใหญ่ในกรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่โด่งดังจะคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลินหยินได้ยังไง
"โอ๊ะ?"
หลินหยินมองดูเติ้งเฉิงที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพลางพูดอย่างเรียบนิ่ง:"แกรู้จักฉันหรอ?"
เติ้งเฉิงยิ่งก้มหน้าต่ำมากเข้าไปใหญ่ก่อนจะพูดเสียงต่ำ:"ผมไม่มีสิทธิ์เงยหน้าขึ้นไปมองคุณชายหยินเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับแต่ว่าผมเคยโชคดีเคยเจอหน้าคุณชายหนิงเชวียบ้างในงานเลี้ยงอีกอย่างในเมืองดิจิงตำนานชื่อเสียงของคุณชายหยินอยู่ครับ"
ถึงแม้เขาจะมาอย่างเร่งรีบแล้วแต่สุดท้ายก็สายไปก้าวนึงแค่ดูจากสถานการณ์ของที่เกิดเหตุณตอนนี้ก็รู้แล้วว่าตอนนี้เติ้งเฟยได้รุกรานหลินหยินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้นคุกเข่ากราบขอโทษก่อนหวังว่าคุณชายหยินจะยอมปล่อยน้องชายตัวเองไปหนึ่งครั้งในฐานะที่ตัวเองรีบคุกเข่าขอโทษเขา
โครม!
ภายในสมองของเติ้งเฟยมีเสียงโครมดังขึ้นคำว่าคุณชายหยินคำนั้นทำให้ในใจเขามีลางสังหรณ์เกิดขึ้นชื่อนี้เคยเป็นที่พูดถึงอยู่บ่อยครั้งในแวดวงสังคมชนชั้นสูงเมื่อหลายวันก่อนเขาเหมือนได้ยินเสียงฟ้าร้องอยู่ตลอดเวลาได้ยินชื่อนี้ทุกวี่ทุกวันเลยภายในค่ำคืนนั้นจำนวนผู้กุมมหาอำนาจมากเท่าไหร่ในเมืองดิจิงได้แยกสลายแตกออกจากกันมหาอำนาจมากเท่าไหร่ที่ล้มลงไปแล้วลุกขึ้นมาไม่ได้อีกเลย
เติ้งเฟยในตอนนี้เริ่มยืนไม่ค่อยมั่นคงแล้วขาสั่นไปทั้งสองข้างถ้าเกิดเป็นคนที่เขาคิดจริงๆงั้นถึงแม้วันนี้จะฆ่าเขาไปก็คงจะไม่มีใครกล้าล้างแค้นให้เขา
"ในเมื่อพวกแกรู้จักฉันก็น่าจะรู้จุดจบที่มารุกรานฉันนะ"
นิ้วนิ้วนึงของหลินหยินค่อยๆเคาะบนผิวโต๊ะทุกครั้งที่เคาะเหมือนกำลังควักหัวใจของเติ้งเฉิงและเติ้งเฟยอยู่
เติ้งเฟยคนต่อไม่ไหวแล้วเสียง‘ปึก’ดังขึ้นคุกเข่าลงไปกับพื้นก่อนจะพูดเสียงสั่น:"คุณชายหยินครับผมเป็นคนมีตาแต่ไม่มีแววเองไม่รู้ว่ายวีเชี้ยนเป็นแฟนสาวของคุณขอให้คุณปล่อยผมไปสักครั้งด้วยนะครับกรีนแลนด์กรุ๊ปยอมที่จะสละทุกอย่างเพื่อมาชดใช้ให้คุณชายหยินครับ"
"ใช่ครับ"
เติ้งเฉิงก็ได้พูดเสียงเบาเช่นกันว่า:"ตระกูลเติ้งของเรายอมที่จะสละทุกอย่างเพื่อมาชดใช้ให้คุณชายหยินและคุณหนูยวีครับ"
"การที่จะให้โอกาสพวกแกหนึ่งครั้งก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้"หลินหยินมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่หยอกล้อพลางพูด:"ขอแค่พวกแกช่วยทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ฉันให้สำเร็จการจะปล่อยพวกแกไปนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้!"
"คุณชายหยินเชิญพูดเลยครับ!"เติ้งเฉิงกัดฟันแน่นขอแค่ได้รับการให้อภัยจากหลินหยินถึงแม้จะต้องสูญเสียเงินทองมากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร
"ง่ายมากพวกแกแค่ต้องถอนสัหลินหยินาในการทำงานร่วมกันกับยวีเชี้ยนแล้วเซ็นสัหลินหยินาฉบับใหม่ที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ"หลินหยินพูดอย่างเรียบนิ่ง
"เรื่องนี้ไม่มีปัญหาครับ"เติ้งเฉิงรีบพูดตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องแค่นี้เนี่ยนะตอนนี้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินหยินและยวีเชี้ยนแล้วถึงแม้จะให้ความกล้าเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าก็ไม่กล้าบีบบังคับให้ยวีเชี้ยนทำในสิ่งที่เธอไม่ชอบ
"ฉันยังพูดไม่จบเลย!"หลินหยินมองเติ้งเฉิงรอบนึงก่อนจะพูดต่อ:"กรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของพวกแกต้องมอบทรัพยากรที่ดีที่สุดให้ยวีเชี้ยนผู้จัดการที่ดีที่สุดบทละครที่ดีที่สุดเธออยากถ่ายทำหนังเรื่องอะไรก็ต้องทำให้เธอถ้าเกิดยวีเชี้ยนอยู่ในวงการบันเทิงแล้วรู้สึกไม่มีความสุขแม้แต่น้อยฉันก็จะไปคิดบัญชีกับตระกูลเติ้งของพวกแก"
เซียงเซียงและกงซุนชิวยู่ที่ยืนอยู่ข้างๆฟังจนเหม่อลอยไปเลยนี่มันคืนหนังสือสัหลินหยินาของศิลปินที่ไหนกันนี่มันเป็นการเชิญบรรพบุรุษที่ต้องคอยปรนิบัติดีๆชัดๆ
"ครับๆๆ!เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ"เติ้งเฉิงพยักหน้าหงึกๆพลางพูด
"ได้ละพวกแกไปได้แล้วเรื่องหนังสือสัหลินหยินารีบจัดการให้เสร็จให้ไวที่สุด!"หลินหยินดื่มกาแฟไปคำนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง
เติ้งเฉิงรีบดึงตัวเติ้งเฟยที่เหมือนเพิ่งตื่นจากความฝันออกไปอย่างไวส่วนพวกลูกน้องที่เติ้งเฟยพามาด้วยก็ได้รีบวิ่งตามออกมาเช่นกันแม้กระทั่งเติ้งเฉิงคุณชายใหญ่ในตระกูลเติ้งยังต้องคุกเข่าให้จะเป็นคนที่พวกเขาสามารถไปหาเรื่องได้ด้วยหรือ
ออกมาจากคาเฟ่จนกระทั่งได้ขับรถออกมาระยะหนึ่งแล้วเติ้งเฟยถึงจะพูดออกมาอย่างไม่พอใจ:"เฮียทำไมเฮียถึงต้องยอมตอบตกลงเงื่อนไขที่เกินเลยขนาดนั้นกับมันด้วยเรื่องนี้พ่อและฝ่ายบริหารต้องไม่ยอมตอบตกลงแน่นอน"
เติ้งเฉิงถลึงตาใส่เติ้งเฟยถอนหายใจก่อนจะพูด:"ไม่พ่อและฝ่ายบริหารต้องตอบตกลงแน่นอนพวกเขาเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของหลินหยินมากกว่าพวกเราอีกหลินหยินไม่ใช่คนที่เราจะไปมีปัญหาได้ด้วยซ้ำไม่พูดถึงหลินหยินถ้าเกิดหนิงเชวียอยากลงมือกับพวกเราบางทีกรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของเราแค่เดือนเดียวจะบริหารต่อไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย"
"อีกอย่างถ้าฉันไม่ตอบตกลงมันบางทีตอนนี้นายอาจจะได้กลายเป็นศพไปแล้ว!"
เติ้งเฉิงมองเติ้งเฟยก่อนจะพูดขึ้นมาอีกอย่างช้าๆ"หรือว่านายลืมเรื่องที่มีคนได้เสียชีวิตจำนวนมากในคืนนั้นไปแล้ว?คนที่ตายเป็นส่วนมากต่างเป็นคนที่ตระกูลเติ้งของเราไม่สามารถไปลุกล้ำได้ด้วยซ้ำแต่กลับถูกหลินหยินฆ่าไปหมดเลยตอนนี้หลินหยินยังไม่เป็นอะไรอีกด้วย"
"ต่อไปแค่ต้องจำไว้อย่างเดียวเลยว่าให้เคารพบูชายวีเชี้ยนเหมือนบรรพบุรุษคนนึงก็พอแล้วสิ่งใดที่เธอขอต้องทำให้เธอพึงพอใจให้ได้"
เติ้งเฟยนั่งอึ้งอยู่บนรถนานมากก็ไม่ได้สติกลับมา
……….
ภายในคาเฟ่
ยวีเชี้ยนมองหลินหยินด้วยสายตาที่ซับซ้อนพลางพูด:"ขอบคุณนะคะ!"
เซียงเซียงก็ได้มองหลินหยินอย่างเหม่อลอยเช่นกันคำพูดคำจาก็ไม่กล้าพูดอย่างไม่ระวังตัวเหมือนเมื่อกี้นี้แล้วแล้วรู้สึกช็อคในใจเบาๆตอนแรกก็คิดว่าคำพูดทั้งหมดที่หลินหยินพูดออกมาเป็นแค่คำโม้อวดแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นความจริงทั้งหมดเลย
"จากความสัมพันธ์ของผมกับคุณพ่อคุณเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผมควรทำอยู่แล้วครับ"หลินหยินพูดอย่างจริงจัง
หัวใจของซุนกงชิวยู่สั่นขึ้นมาเล่นน้อยดูจากท่าแล้วความสัมพันธ์ของหลินหยินและยวีเชี้ยนเหมือนจะไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เธอคิด
ทุกคนเผชิญหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไรนิ่งเงียบไปสักพักหลินหยินก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมา:"มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถจัดการได้คุณไปหาหนิงเชวียและถังฮุยได้เลยนะถังฮุยเป็นลูกน้องของพ่อคุณความสัมพันธ์ของทั้งสองดีมากๆคุณน่าจะรู้จัก"
"น้าถังมาเยี่ยมฉันทุกเดือนเลยค่ะ"ยวีเชี้ยนพยักหน้าพลางพูด
"อื้มตอนนี้เขาเป็นประธานหอการค้าเมืองดิจิงเรื่องบางอย่างที่คุณไม่สามารถจัดการได้คุณสามารถไปหาเขาได้เลย"หลินหยินพูดเสียงเบา
"อะไรนะคะ?น้าถังเป็นประธานหอการค้าเมืองดิจิงหรอคะ?"ยวีเชี้ยนถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"คุณไม่รู้หรือ?"หลินหยินก็ประหลาดใจเช่นกันก่อนจะพูด:"ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นกับพ่อคุณพ่อคุณเป็นประธานหอการค้าเมืองดิจิงคุณไม่รู้หรอ?"
"ฉันไม่รู้หนิ!"ยวีเชี้ยนตอบอย่างมึนๆ
เธอนึกว่าพ่อของเธอมีหน้าที่เป็นเหมือนนายหน้าคนนึงเสมอมาหลังจากนั้นได้เปิดบริษัทนึงแต่ไม่ได้เป็นบริษัทที่ใหญ่โตอะไรนักแต่ตอนนี้หลินหยินกลับบอกว่าพ่อของเธอคือประธานหอการค้าดิจิง
หลินหยินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อมองยวีเชี้ยนพลางพูดเสียงต่ำ:
"การที่คุณอยากเป็นดารานั้นก็เป็นได้อยู่แต่ตอนนี้ผมสามารถให้ทางเดินอีกทางเดินกับคุณได้คุณสามารถคิดพิจารณาดูได้ก่อน"
ในละแวกโรงเรียนนี้เติ้งเฟยแคุณชายเติ้งก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างตอนแรกก็คิดว่าแฟนหนุ่มตามข่าวลือของยวีเชี้ยนนั่นจะซวยแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าพี่ชายของคุณชายเติ้งเติ้งเฉิงจะมาแล้วและยังคุกเข่าต่อหน้าแฟนตามข่าวลือคนดังกล่าวของยวีเชี้ยนอีกด้วย
"เฮียเฮียทำอะไรอยู่เนี่ยรีบลุกขึ้นมา!"
เติ้งเฟยเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างยากลำบากขอให้พี่ชายตัวเองจำคนผิด
คนที่สามารถทำให้พี่ชายที่หยิ่งยโสของเขาคุกเข่าลงได้เห็นได้ชัดเลยว่าอิทธิพลอำนาจของฝ่ายตรงข้ามจะยิ่งใหญ่มากแค่ไหน
เซียงเซียงและยวีเชี้ยนยืนผงะอยู่กับที่เติ้งเฟยเป็นแค่ลูกคนรวยที่เอาแต่ใจคนเดียวเท่านั้นแต่เติ้งเฉิงไม่เหมือนกันตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการใหญ่ในกรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แล้วนะมีเพื่อนอยู่ด้านนอกเป็นจำนวนมากและนับว่าเป็นคุณชายใหญ่อันดับต้นๆของเมืองดิจิงด้วยแต่ตอนนี้เขากลับคุกเข่าอยู่หน้าหลินหยินงั้นหรอ
สำหรับเหตุการณ์นี้คนที่จิตใจได้รับผลกระทบมากที่สุดคือยวีเชี้ยนตอนแรกเธอก็คิดว่าพ่อของตัวเองถึงแม้จะพอมีอำนาจอยู่ในเมืองดิจิงบ้างแต่ก็เป็นแค่อำนาจที่น้อยนิดแต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้วเธอดูถูกพ่อตัวเองมากเกินไปถ้ามีอำนาจแค่น้อยนิดจริงๆผู้จัดการใหญ่ในกรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่โด่งดังจะคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลินหยินได้ยังไง
"โอ๊ะ?"
หลินหยินมองดูเติ้งเฉิงที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพลางพูดอย่างเรียบนิ่ง:"แกรู้จักฉันหรอ?"
เติ้งเฉิงยิ่งก้มหน้าต่ำมากเข้าไปใหญ่ก่อนจะพูดเสียงต่ำ:"ผมไม่มีสิทธิ์เงยหน้าขึ้นไปมองคุณชายหยินเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับแต่ว่าผมเคยโชคดีเคยเจอหน้าคุณชายหนิงเชวียบ้างในงานเลี้ยงอีกอย่างในเมืองดิจิงตำนานชื่อเสียงของคุณชายหยินอยู่ครับ"
ถึงแม้เขาจะมาอย่างเร่งรีบแล้วแต่สุดท้ายก็สายไปก้าวนึงแค่ดูจากสถานการณ์ของที่เกิดเหตุณตอนนี้ก็รู้แล้วว่าตอนนี้เติ้งเฟยได้รุกรานหลินหยินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้นคุกเข่ากราบขอโทษก่อนหวังว่าคุณชายหยินจะยอมปล่อยน้องชายตัวเองไปหนึ่งครั้งในฐานะที่ตัวเองรีบคุกเข่าขอโทษเขา
โครม!
ภายในสมองของเติ้งเฟยมีเสียงโครมดังขึ้นคำว่าคุณชายหยินคำนั้นทำให้ในใจเขามีลางสังหรณ์เกิดขึ้นชื่อนี้เคยเป็นที่พูดถึงอยู่บ่อยครั้งในแวดวงสังคมชนชั้นสูงเมื่อหลายวันก่อนเขาเหมือนได้ยินเสียงฟ้าร้องอยู่ตลอดเวลาได้ยินชื่อนี้ทุกวี่ทุกวันเลยภายในค่ำคืนนั้นจำนวนผู้กุมมหาอำนาจมากเท่าไหร่ในเมืองดิจิงได้แยกสลายแตกออกจากกันมหาอำนาจมากเท่าไหร่ที่ล้มลงไปแล้วลุกขึ้นมาไม่ได้อีกเลย
เติ้งเฟยในตอนนี้เริ่มยืนไม่ค่อยมั่นคงแล้วขาสั่นไปทั้งสองข้างถ้าเกิดเป็นคนที่เขาคิดจริงๆงั้นถึงแม้วันนี้จะฆ่าเขาไปก็คงจะไม่มีใครกล้าล้างแค้นให้เขา
"ในเมื่อพวกแกรู้จักฉันก็น่าจะรู้จุดจบที่มารุกรานฉันนะ"
นิ้วนิ้วนึงของหลินหยินค่อยๆเคาะบนผิวโต๊ะทุกครั้งที่เคาะเหมือนกำลังควักหัวใจของเติ้งเฉิงและเติ้งเฟยอยู่
เติ้งเฟยคนต่อไม่ไหวแล้วเสียง‘ปึก’ดังขึ้นคุกเข่าลงไปกับพื้นก่อนจะพูดเสียงสั่น:"คุณชายหยินครับผมเป็นคนมีตาแต่ไม่มีแววเองไม่รู้ว่ายวีเชี้ยนเป็นแฟนสาวของคุณขอให้คุณปล่อยผมไปสักครั้งด้วยนะครับกรีนแลนด์กรุ๊ปยอมที่จะสละทุกอย่างเพื่อมาชดใช้ให้คุณชายหยินครับ"
"ใช่ครับ"
เติ้งเฉิงก็ได้พูดเสียงเบาเช่นกันว่า:"ตระกูลเติ้งของเรายอมที่จะสละทุกอย่างเพื่อมาชดใช้ให้คุณชายหยินและคุณหนูยวีครับ"
"การที่จะให้โอกาสพวกแกหนึ่งครั้งก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้"หลินหยินมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่หยอกล้อพลางพูด:"ขอแค่พวกแกช่วยทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ฉันให้สำเร็จการจะปล่อยพวกแกไปนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้!"
"คุณชายหยินเชิญพูดเลยครับ!"เติ้งเฉิงกัดฟันแน่นขอแค่ได้รับการให้อภัยจากหลินหยินถึงแม้จะต้องสูญเสียเงินทองมากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร
"ง่ายมากพวกแกแค่ต้องถอนสัหลินหยินาในการทำงานร่วมกันกับยวีเชี้ยนแล้วเซ็นสัหลินหยินาฉบับใหม่ที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ"หลินหยินพูดอย่างเรียบนิ่ง
"เรื่องนี้ไม่มีปัญหาครับ"เติ้งเฉิงรีบพูดตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องแค่นี้เนี่ยนะตอนนี้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินหยินและยวีเชี้ยนแล้วถึงแม้จะให้ความกล้าเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าก็ไม่กล้าบีบบังคับให้ยวีเชี้ยนทำในสิ่งที่เธอไม่ชอบ
"ฉันยังพูดไม่จบเลย!"หลินหยินมองเติ้งเฉิงรอบนึงก่อนจะพูดต่อ:"กรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของพวกแกต้องมอบทรัพยากรที่ดีที่สุดให้ยวีเชี้ยนผู้จัดการที่ดีที่สุดบทละครที่ดีที่สุดเธออยากถ่ายทำหนังเรื่องอะไรก็ต้องทำให้เธอถ้าเกิดยวีเชี้ยนอยู่ในวงการบันเทิงแล้วรู้สึกไม่มีความสุขแม้แต่น้อยฉันก็จะไปคิดบัญชีกับตระกูลเติ้งของพวกแก"
เซียงเซียงและกงซุนชิวยู่ที่ยืนอยู่ข้างๆฟังจนเหม่อลอยไปเลยนี่มันคืนหนังสือสัหลินหยินาของศิลปินที่ไหนกันนี่มันเป็นการเชิญบรรพบุรุษที่ต้องคอยปรนิบัติดีๆชัดๆ
"ครับๆๆ!เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ"เติ้งเฉิงพยักหน้าหงึกๆพลางพูด
"ได้ละพวกแกไปได้แล้วเรื่องหนังสือสัหลินหยินารีบจัดการให้เสร็จให้ไวที่สุด!"หลินหยินดื่มกาแฟไปคำนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง
เติ้งเฉิงรีบดึงตัวเติ้งเฟยที่เหมือนเพิ่งตื่นจากความฝันออกไปอย่างไวส่วนพวกลูกน้องที่เติ้งเฟยพามาด้วยก็ได้รีบวิ่งตามออกมาเช่นกันแม้กระทั่งเติ้งเฉิงคุณชายใหญ่ในตระกูลเติ้งยังต้องคุกเข่าให้จะเป็นคนที่พวกเขาสามารถไปหาเรื่องได้ด้วยหรือ
ออกมาจากคาเฟ่จนกระทั่งได้ขับรถออกมาระยะหนึ่งแล้วเติ้งเฟยถึงจะพูดออกมาอย่างไม่พอใจ:"เฮียทำไมเฮียถึงต้องยอมตอบตกลงเงื่อนไขที่เกินเลยขนาดนั้นกับมันด้วยเรื่องนี้พ่อและฝ่ายบริหารต้องไม่ยอมตอบตกลงแน่นอน"
เติ้งเฉิงถลึงตาใส่เติ้งเฟยถอนหายใจก่อนจะพูด:"ไม่พ่อและฝ่ายบริหารต้องตอบตกลงแน่นอนพวกเขาเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของหลินหยินมากกว่าพวกเราอีกหลินหยินไม่ใช่คนที่เราจะไปมีปัญหาได้ด้วยซ้ำไม่พูดถึงหลินหยินถ้าเกิดหนิงเชวียอยากลงมือกับพวกเราบางทีกรีนแลนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของเราแค่เดือนเดียวจะบริหารต่อไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย"
"อีกอย่างถ้าฉันไม่ตอบตกลงมันบางทีตอนนี้นายอาจจะได้กลายเป็นศพไปแล้ว!"
เติ้งเฉิงมองเติ้งเฟยก่อนจะพูดขึ้นมาอีกอย่างช้าๆ"หรือว่านายลืมเรื่องที่มีคนได้เสียชีวิตจำนวนมากในคืนนั้นไปแล้ว?คนที่ตายเป็นส่วนมากต่างเป็นคนที่ตระกูลเติ้งของเราไม่สามารถไปลุกล้ำได้ด้วยซ้ำแต่กลับถูกหลินหยินฆ่าไปหมดเลยตอนนี้หลินหยินยังไม่เป็นอะไรอีกด้วย"
"ต่อไปแค่ต้องจำไว้อย่างเดียวเลยว่าให้เคารพบูชายวีเชี้ยนเหมือนบรรพบุรุษคนนึงก็พอแล้วสิ่งใดที่เธอขอต้องทำให้เธอพึงพอใจให้ได้"
เติ้งเฟยนั่งอึ้งอยู่บนรถนานมากก็ไม่ได้สติกลับมา
……….
ภายในคาเฟ่
ยวีเชี้ยนมองหลินหยินด้วยสายตาที่ซับซ้อนพลางพูด:"ขอบคุณนะคะ!"
เซียงเซียงก็ได้มองหลินหยินอย่างเหม่อลอยเช่นกันคำพูดคำจาก็ไม่กล้าพูดอย่างไม่ระวังตัวเหมือนเมื่อกี้นี้แล้วแล้วรู้สึกช็อคในใจเบาๆตอนแรกก็คิดว่าคำพูดทั้งหมดที่หลินหยินพูดออกมาเป็นแค่คำโม้อวดแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นความจริงทั้งหมดเลย
"จากความสัมพันธ์ของผมกับคุณพ่อคุณเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผมควรทำอยู่แล้วครับ"หลินหยินพูดอย่างจริงจัง
หัวใจของซุนกงชิวยู่สั่นขึ้นมาเล่นน้อยดูจากท่าแล้วความสัมพันธ์ของหลินหยินและยวีเชี้ยนเหมือนจะไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เธอคิด
ทุกคนเผชิญหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไรนิ่งเงียบไปสักพักหลินหยินก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมา:"มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถจัดการได้คุณไปหาหนิงเชวียและถังฮุยได้เลยนะถังฮุยเป็นลูกน้องของพ่อคุณความสัมพันธ์ของทั้งสองดีมากๆคุณน่าจะรู้จัก"
"น้าถังมาเยี่ยมฉันทุกเดือนเลยค่ะ"ยวีเชี้ยนพยักหน้าพลางพูด
"อื้มตอนนี้เขาเป็นประธานหอการค้าเมืองดิจิงเรื่องบางอย่างที่คุณไม่สามารถจัดการได้คุณสามารถไปหาเขาได้เลย"หลินหยินพูดเสียงเบา
"อะไรนะคะ?น้าถังเป็นประธานหอการค้าเมืองดิจิงหรอคะ?"ยวีเชี้ยนถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"คุณไม่รู้หรือ?"หลินหยินก็ประหลาดใจเช่นกันก่อนจะพูด:"ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นกับพ่อคุณพ่อคุณเป็นประธานหอการค้าเมืองดิจิงคุณไม่รู้หรอ?"
"ฉันไม่รู้หนิ!"ยวีเชี้ยนตอบอย่างมึนๆ
เธอนึกว่าพ่อของเธอมีหน้าที่เป็นเหมือนนายหน้าคนนึงเสมอมาหลังจากนั้นได้เปิดบริษัทนึงแต่ไม่ได้เป็นบริษัทที่ใหญ่โตอะไรนักแต่ตอนนี้หลินหยินกลับบอกว่าพ่อของเธอคือประธานหอการค้าดิจิง
หลินหยินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อมองยวีเชี้ยนพลางพูดเสียงต่ำ:
"การที่คุณอยากเป็นดารานั้นก็เป็นได้อยู่แต่ตอนนี้ผมสามารถให้ทางเดินอีกทางเดินกับคุณได้คุณสามารถคิดพิจารณาดูได้ก่อน"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved