บทที่ 927 เดินทางไปยังอาณาจักรลับ
by อาห่าว
08:01,Mar 30,2021
"ทางเลือก?"ยวีเชี้ยนมองหลินหยินด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
"พวกคุณตามผมมา!"
หลินหยินมองยวีเชี้ยนและกงซุนชิวยู่รอบนึงก่อนจะย่างเท้าออกจากคาเฟ่
กงซุนชิวยู่และยวีเชี้ยนรีบเดินตามออกไปทันทีเซียงเซียงเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอจึงกัดฟันแล้วเดินตามออกไปด้วยเช่นกันนี่เป็นโชคชะตาครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งเลยนะถ้าพลาดครั้งนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะได้พบกันอีก
ตอนนี้เธอได้ทำการตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเข้าไปเกาะบารมียวีเชี้ยน
หนิงเชวียเป็นคนขับรถเองส่งหลินหยินและคนอื่นๆไปถึงวิลล่าบนยอดเขาภูเขาเซียงจากนั้นได้เฝ้ารออยู่ด้านหน้าวิลล่าพร้อมกันกับหูฉางไห่
บนยอดเขาของภูเขาเซียงมีวิวล่าอยู่แค่หลังนึงเท่านั้นในแวดวงของคนชนชั้นสูงในดิจิงต่างรู้หมดว่าวิลล่านั่นเป็นของคุณชายหยินไม่มีใครที่จะกล้าเดินขึ้นไปตามอำเภอใจ
อีกอย่างในวันธรรมดาทั่วไปบริเวณนั้นก็มีนักสู้ประมาณยี่สิบกว่าคนของหนิงเชวียคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่คนธรรมดาทั่วไปเข้าไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
บนยอดเขามีวิลล่าแค่หลังนึงลานหน้าบ้านกว้างขวางมากพื้นที่ใช้สอยมีมากกว่าหนึ่งพันตารางเมตร
หลินหยินพาผู้หญิงทั้งสามคนมาถึงลานหน้าบ้านก่อนจะพูดเสียงเบา:
"พวกคุณดูนี่นะ!"
หลินหยินชี้ไปตรงก้อนหินที่หนักประมาณห้าพันกิโลกรัมภายในลานบ้านก่อนจะดีดนิ้วทีนึง
"ปัง!"
เสียงที่ดังสนั่นเกิดขึ้นก้อนหินหนักห้าพันกิโลกรัมได้แตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงหายวับไปเลย
กงซุนชิวยู่ทั้งสามคนอ้าปากค้างเบิกตากว้างทั้งสองข้างภายในแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก้อนหินหนักประมาณห้าพันกิโลกรัมได้หายไปภายในพริบตานี่เป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ด้วยหรอ?
ถึงแม้กงซุนชิวยู่จะเกิดในครอบครัวตระกูลกงซุนพอรู้จักเรื่องราวในแวดวงคนสันโดษบ้างแต่ก็ไม่เคยเห็นคนที่แค่ดีดนิ้วก็สามารถทำเอาก้อนหินที่ใหญ่ขนาดนั้นกลายเป็นฝุ่นผงไปได้เลย
"นี่คือศิลปะการต่อสู้หรือ?"
กงซุนชิวยู่พูดพืชพึมพำ
หลินหยินมองกงซุนชิวยู่รอบนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง:"ถูกต้องนี่ก็คือศิลปะการต่อสู้ทางเลือกที่สองที่ผมเสนอให้พวกคุณก็คือฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ผมจะมอบทรัพยากรที่เพียงพอให้กับพวกคุณแต่ว่าจะสามารถก้าวขึ้นไปถึงขั้นไหนได้นั้นต้องดูที่ตัวพวกคุณอีกทีแล้วล่ะ!"
"ศิลปะการต่อสู้สามารถทำให้อายุยืนได้ไหม?"กงซุนชิวยู่ถามเสียงเบา
"อายุขัยของยอดฝีมือดินแดนอมตะก็แค่อยู่ได้ไม่เกินสองร้อยปีพวกกลุ่มคนที่มีเชื้อสายที่พิเศษหน่อยอายุขัยอาจจะอยู่ได้ยาวกว่านี้อีก"หลินหยินส่ายหน้าไปมาพลางพูด
"ปัจจุบันในโลกนี้ยอดฝีมือดินแดนอมตะคาดว่าน่าจะมีไม่ถึงยี่สิบคน"
นี่หลินหยินได้พูดเผื่อไว้แล้วนะนอกจากพวกคนที่อยู่ในอาณาจักรลับการที่โลกมนุษย์สามารถมีดินแดนอมตะถึงยี่สิบคนนั้นถือว่าเยอะมากแล้วคนที่สามารถบรรลุถึงขั้นดินแดนอมตะในโลกมนุษย์ได้ถ้าถือกำเนิดอยู่ในอาณาจักรลับก็คงต้องเป็นอัจฉริยะคนนึงแน่นอน
"ยอดฝีมือระดับดินแดนอมตะสามารถเดินกลางอากาศได้ใช้พลังลมดัดแปลงให้กลายเป็นดาบเสียงถอนหายใจเป็นเสียงฟ้าร้องตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ในสายตาของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปไม่ต่างอะไรจากจอมเทพจอมมารเลย"
ภายในแววตาของเหล่าหญิงสาวมีความคาดหวังต่ออนาคตเกิดขึ้นจากการล่อใจของขั้นสูงสุดในศิลปะการต่อสู้เป้าหมายในชีวิตประจำวันพวกนั้นไม่มีค่าอะไรเลย
สุดท้ายทุกคนก็ได้ตัดสินใจที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หลินหยินฝากตัวพวกเขาให้กับหูฉางไห่ตอนนี้หูฉางไห่ก็เป็นยอดฝีมือในระดับขั้นแท่นสวรรค์คนนึงแล้วชี้แนะและสั่งสอนหญิงสาวพวกนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไร
หลินหยินได้เอาน้ำพุแห่งชีวิตให้ยวีเชี้ยนและกงซุนชิวยู่บ้างยังไงอายุของพวกเธอก็มากในระดับนึงแล้วถ้าไม่มีการฟื้นฟูจากน้ำพุแห่งชีวิตก็จะก้าวก้าวแรกออกไปได้อย่างลำบากม่ก
ส่วนเซียงเซียงหลินหยินแค่เอาน้ำพุแห่งชีวิตที่เจือจางลงไปแล้วให้เธอเขาไม่ได้เป็นทั้งเพื่อนและศัตรูกับเซียงเซียงที่ไม่ได้ไล่เธอกลับไปก็พอเพื่อให้เกียรติยวีเชี้ยนของล้ำค่าอย่างน้ำพุแห่งชีวิตไม่ใช่จะให้ใครก็ได้
………
หลังจากที่หลินหยินจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จจึงมุ่งหน้าตรงไปยังคุนหลุนต่อหยกชิ้นนั้นของวิหารหลิงเซียวหลินหยินได้เอามาจากมือจางฉีโม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วและบนแผนที่ที่เย่ท่าเทียนได้ทำเครื่องหมายกำกับไว้ก็อยู่บริเวณคุนหลุนนี่เอง
หลินหยินนั่งเครื่องบินมายังเมืองที่อยู่เข้าใกล้กับตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่มากที่สุดจากนั้นก็ได้ต่อรถจนกระทั่งมาถึงเขตเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง
เมื่อมาถึงฝั่งนี้ก็จะต้องใช้เท้าเป็นพาหะเดินทางอย่างเดียวแล้วไม่มีรถที่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายนั้นเลยแต่ถนนและภูเขาเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาต่อหลินหยินเลยสักนิด
หลินหยินเดินทางตามแผนที่ที่กำกับไว้เดินทางอยู่ภายในป่าลึกและวิ่งพุ่งส่งไปในทิศทางของป่าลึกอย่างไว
"มีคน?"
เดินทางอยู่ในป่าลึกไปได้ประมาณสามสิบกว่ากิโลเมตรสัมผัสเทพของหลินหยินสแกนได้ว่ามีกลุ่มคนขนาดใหญ่กลุ่มนึงกำลังมุ่งหน้าตรงเข้าไปภายในป่าลึกด้วยงั้นหรอ
หลินหยินขมวดคิ้วลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลงค่อยๆเดินตามขึ้นไปแผนที่ใบนี้เป็นแผนที่ที่ทำขึ้นมาเมื่อร้อยกว่าปีก่อนเส้นทางที่เคยบันทึกไว้เมื่อก่อนนี้ปัจจุบันมีหลายเส้นทางมากที่ไม่มีอยู่แล้วอีกอย่างรูปแบบของพื้นธรณีก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเช่นกันทำให้เขาไม่สามารถแยกแยะออกได้ภายในทันที
"ใคร?"
ภายในกลุ่มคนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้ามีคนสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านหลังเช่นกันชายชราท่านหนึ่งจ้องเขม่นมาทางป่าเขาที่อยู่ด้านหลังพลางตะคอกเสียงต่ำ
ร่องรอยการเคลื่อนไหวนั้นหลินหยินจงใจทำมันขึ้นมาเองไม่งั้นจากระดับความสามารถของเขากลุ่มคนพวกนี้คนที่เก่งที่สุดก็แค่อยู่ในระดับขั้นปฐพีจะมีทางสังเกตเห็นเขาได้ยังไง
หลินหยินมุดตัวออกมาจากป่าเขาปรากฏอยู่ตรงหน้ากลุ่มคนเหล่านี้คารวะก่อนจะพูด:"ข้าน้อยอยากไปสถานที่ใดสถานที่หนึ่งครับแต่ว่าเพิ่งหลงทางมาต้องรบกวนขอคำแนะนำทางจากท่านผู้เฒ่าด้วยนะครับข้าน้อยคงจะรู้สึกตื้นตันใจมากๆเลยครับ"
เสี้ยววินาทีแรกที่ชายชราเห็นหลินหยินรูม่านตาของเขาหดเล็กลงอย่างกระทันหันก่อนจะรีบพูด:"ไม่เป็นไรเลยครับไม่ทราบว่าคุณน้องจะไปที่ไหนหรือครับ?"
หลินหยินก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกันหยิบแผนที่ออกมายื่นให้ชายชราทันทีสถานที่แห่งนี้ก็แค่สถานที่ที่เปราะบางส่วนนึงของอาณาจักรลับเท่านั้นเองคนพวกนี้ไม่มีอาวุธเทพที่สามารถทำลายเกราะที่กั้นระหว่างอาณาจักรได้จึงจะเข้าไปในอาณาจักรลับไม่ได้เช่นกัน
"หุบเขาวิญญานงูนี่เองน้องจะไปเก็บสมุนไพรยาที่นั่นหรือ?"
ชายชรามองหลินหยินด้วยสายตาที่ประหลาดใจพลางถาม:"แผนที่นี้ของน้องอายุเก่าแก่เกินไปแล้วจุดหมายปลายทางของพวกเราต้องเดินทางผ่านหุบเขาวิญญาณงูพอดีเลยถ้าไม่ได้รังเกียจอะไรก็เดินทางไปพร้อมกันกับพวกเราเถอะ"
"งั้นรบกวนด้วยนะครับ!"หลินหยินพยักหน้าพลางพูด
จากการแนะนำตัวของชายชราชายชราชื่อ‘จู้ยวินเทา’ชนเผ่าตระกูลของพวกเขาได้ดำรงชีวิตอยู่ในระแวกภูเขาคุนหลุนตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนแล้วถือว่าเป็นตระกูลซ่อนเร้นอยู่แต่ว่าตลอดร้อยกว่าปีที่ผ่านมาได้ค่อยๆดับสลายไปแล้วคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลก็อยู่แค่ระดับปฐพีเท่านั้น
ในทุกๆปีพวกเขาจะเดินทางออกมาจากภูเขาคุนหลุนเพื่อทำการแลกเปลี่ยนสิ่งของบางอย่างกับคนในโลกภายนอก
พูดคุยกันไปได้สักพักชายชรากลับไปยังตำแหน่งด้านหน้าสุดของกลุ่มส่วนหลินหยินตามอยู่ด้านหลังกลุ่มอย่างติดๆ
จู้ยวินเทาเพิ่งกลับมาถึงในกลุ่มนักสู้ในช่วงวัยกลางคนคนนึงก็ได้ถามขึ้นมาเสียงเบา:"น้าเทาครับทำไมต้องพาคนนอกคนหนึ่งไปยังหุบเขาวิญญาณงูด้วยครับสมุนไพรยาที่อยู่ตรงนั้นมีเยอะขนาดนั้นถ้าเกิดคนในโลกภายนอกรู้ทรัพยากรเงินทองของเราก็จะลดลงเป็นจำนวนมากเลยนะครับ"
"หุบปาก!"
จู้ยวินเทาตะคอกเสียงต่ำทีนึง:"หวังแค่ว่ายอดฝีมือหนุ่มคนนี้คงจะไม่ได้มาเพราะพวกเรา!"
บทสนทนาของจู้ยวินเทาและนักสู้วัยกลางคนเขาได้ยินอยู่กับหูแต่ทว่าเขากลับไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลยสักนิดเป้าหมายในครั้งนี้ของเขาคือเดินทางไปยังอาณาจักรลับคุนหลุนบางทีบริเวณที่เข้าใกล้กับอาณาจักรลับคุนหลุนอาจจะมีพื้นที่ที่อัศจรรย์แต่นั่นมันเกี่ยวข้องอะไรกับเขาหรือ?
หลังจากที่เดินทางมาได้ครึ่งวันก็ได้มาถึงละแวกของหุบเขาวิญญาณงูหลังจากที่หลินหยินบอกลาจู้ยวินเทาก่อนจะวิ่งบินตรงไปภายในหุบเขาวิญญาณงู
จนกระทั่งมาถึงหุบเขาวิญญาณงูหลินหยินก็สามารถหาจุดอ่อนของอาณาจักรลับได้อย่างง่ายได้เลย
"ที่นี่แหละ!"
"พวกคุณตามผมมา!"
หลินหยินมองยวีเชี้ยนและกงซุนชิวยู่รอบนึงก่อนจะย่างเท้าออกจากคาเฟ่
กงซุนชิวยู่และยวีเชี้ยนรีบเดินตามออกไปทันทีเซียงเซียงเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอจึงกัดฟันแล้วเดินตามออกไปด้วยเช่นกันนี่เป็นโชคชะตาครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งเลยนะถ้าพลาดครั้งนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะได้พบกันอีก
ตอนนี้เธอได้ทำการตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเข้าไปเกาะบารมียวีเชี้ยน
หนิงเชวียเป็นคนขับรถเองส่งหลินหยินและคนอื่นๆไปถึงวิลล่าบนยอดเขาภูเขาเซียงจากนั้นได้เฝ้ารออยู่ด้านหน้าวิลล่าพร้อมกันกับหูฉางไห่
บนยอดเขาของภูเขาเซียงมีวิวล่าอยู่แค่หลังนึงเท่านั้นในแวดวงของคนชนชั้นสูงในดิจิงต่างรู้หมดว่าวิลล่านั่นเป็นของคุณชายหยินไม่มีใครที่จะกล้าเดินขึ้นไปตามอำเภอใจ
อีกอย่างในวันธรรมดาทั่วไปบริเวณนั้นก็มีนักสู้ประมาณยี่สิบกว่าคนของหนิงเชวียคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่คนธรรมดาทั่วไปเข้าไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
บนยอดเขามีวิลล่าแค่หลังนึงลานหน้าบ้านกว้างขวางมากพื้นที่ใช้สอยมีมากกว่าหนึ่งพันตารางเมตร
หลินหยินพาผู้หญิงทั้งสามคนมาถึงลานหน้าบ้านก่อนจะพูดเสียงเบา:
"พวกคุณดูนี่นะ!"
หลินหยินชี้ไปตรงก้อนหินที่หนักประมาณห้าพันกิโลกรัมภายในลานบ้านก่อนจะดีดนิ้วทีนึง
"ปัง!"
เสียงที่ดังสนั่นเกิดขึ้นก้อนหินหนักห้าพันกิโลกรัมได้แตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงหายวับไปเลย
กงซุนชิวยู่ทั้งสามคนอ้าปากค้างเบิกตากว้างทั้งสองข้างภายในแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก้อนหินหนักประมาณห้าพันกิโลกรัมได้หายไปภายในพริบตานี่เป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ด้วยหรอ?
ถึงแม้กงซุนชิวยู่จะเกิดในครอบครัวตระกูลกงซุนพอรู้จักเรื่องราวในแวดวงคนสันโดษบ้างแต่ก็ไม่เคยเห็นคนที่แค่ดีดนิ้วก็สามารถทำเอาก้อนหินที่ใหญ่ขนาดนั้นกลายเป็นฝุ่นผงไปได้เลย
"นี่คือศิลปะการต่อสู้หรือ?"
กงซุนชิวยู่พูดพืชพึมพำ
หลินหยินมองกงซุนชิวยู่รอบนึงก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง:"ถูกต้องนี่ก็คือศิลปะการต่อสู้ทางเลือกที่สองที่ผมเสนอให้พวกคุณก็คือฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ผมจะมอบทรัพยากรที่เพียงพอให้กับพวกคุณแต่ว่าจะสามารถก้าวขึ้นไปถึงขั้นไหนได้นั้นต้องดูที่ตัวพวกคุณอีกทีแล้วล่ะ!"
"ศิลปะการต่อสู้สามารถทำให้อายุยืนได้ไหม?"กงซุนชิวยู่ถามเสียงเบา
"อายุขัยของยอดฝีมือดินแดนอมตะก็แค่อยู่ได้ไม่เกินสองร้อยปีพวกกลุ่มคนที่มีเชื้อสายที่พิเศษหน่อยอายุขัยอาจจะอยู่ได้ยาวกว่านี้อีก"หลินหยินส่ายหน้าไปมาพลางพูด
"ปัจจุบันในโลกนี้ยอดฝีมือดินแดนอมตะคาดว่าน่าจะมีไม่ถึงยี่สิบคน"
นี่หลินหยินได้พูดเผื่อไว้แล้วนะนอกจากพวกคนที่อยู่ในอาณาจักรลับการที่โลกมนุษย์สามารถมีดินแดนอมตะถึงยี่สิบคนนั้นถือว่าเยอะมากแล้วคนที่สามารถบรรลุถึงขั้นดินแดนอมตะในโลกมนุษย์ได้ถ้าถือกำเนิดอยู่ในอาณาจักรลับก็คงต้องเป็นอัจฉริยะคนนึงแน่นอน
"ยอดฝีมือระดับดินแดนอมตะสามารถเดินกลางอากาศได้ใช้พลังลมดัดแปลงให้กลายเป็นดาบเสียงถอนหายใจเป็นเสียงฟ้าร้องตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ในสายตาของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปไม่ต่างอะไรจากจอมเทพจอมมารเลย"
ภายในแววตาของเหล่าหญิงสาวมีความคาดหวังต่ออนาคตเกิดขึ้นจากการล่อใจของขั้นสูงสุดในศิลปะการต่อสู้เป้าหมายในชีวิตประจำวันพวกนั้นไม่มีค่าอะไรเลย
สุดท้ายทุกคนก็ได้ตัดสินใจที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หลินหยินฝากตัวพวกเขาให้กับหูฉางไห่ตอนนี้หูฉางไห่ก็เป็นยอดฝีมือในระดับขั้นแท่นสวรรค์คนนึงแล้วชี้แนะและสั่งสอนหญิงสาวพวกนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไร
หลินหยินได้เอาน้ำพุแห่งชีวิตให้ยวีเชี้ยนและกงซุนชิวยู่บ้างยังไงอายุของพวกเธอก็มากในระดับนึงแล้วถ้าไม่มีการฟื้นฟูจากน้ำพุแห่งชีวิตก็จะก้าวก้าวแรกออกไปได้อย่างลำบากม่ก
ส่วนเซียงเซียงหลินหยินแค่เอาน้ำพุแห่งชีวิตที่เจือจางลงไปแล้วให้เธอเขาไม่ได้เป็นทั้งเพื่อนและศัตรูกับเซียงเซียงที่ไม่ได้ไล่เธอกลับไปก็พอเพื่อให้เกียรติยวีเชี้ยนของล้ำค่าอย่างน้ำพุแห่งชีวิตไม่ใช่จะให้ใครก็ได้
………
หลังจากที่หลินหยินจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จจึงมุ่งหน้าตรงไปยังคุนหลุนต่อหยกชิ้นนั้นของวิหารหลิงเซียวหลินหยินได้เอามาจากมือจางฉีโม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วและบนแผนที่ที่เย่ท่าเทียนได้ทำเครื่องหมายกำกับไว้ก็อยู่บริเวณคุนหลุนนี่เอง
หลินหยินนั่งเครื่องบินมายังเมืองที่อยู่เข้าใกล้กับตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่มากที่สุดจากนั้นก็ได้ต่อรถจนกระทั่งมาถึงเขตเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง
เมื่อมาถึงฝั่งนี้ก็จะต้องใช้เท้าเป็นพาหะเดินทางอย่างเดียวแล้วไม่มีรถที่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายนั้นเลยแต่ถนนและภูเขาเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาต่อหลินหยินเลยสักนิด
หลินหยินเดินทางตามแผนที่ที่กำกับไว้เดินทางอยู่ภายในป่าลึกและวิ่งพุ่งส่งไปในทิศทางของป่าลึกอย่างไว
"มีคน?"
เดินทางอยู่ในป่าลึกไปได้ประมาณสามสิบกว่ากิโลเมตรสัมผัสเทพของหลินหยินสแกนได้ว่ามีกลุ่มคนขนาดใหญ่กลุ่มนึงกำลังมุ่งหน้าตรงเข้าไปภายในป่าลึกด้วยงั้นหรอ
หลินหยินขมวดคิ้วลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลงค่อยๆเดินตามขึ้นไปแผนที่ใบนี้เป็นแผนที่ที่ทำขึ้นมาเมื่อร้อยกว่าปีก่อนเส้นทางที่เคยบันทึกไว้เมื่อก่อนนี้ปัจจุบันมีหลายเส้นทางมากที่ไม่มีอยู่แล้วอีกอย่างรูปแบบของพื้นธรณีก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเช่นกันทำให้เขาไม่สามารถแยกแยะออกได้ภายในทันที
"ใคร?"
ภายในกลุ่มคนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้ามีคนสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านหลังเช่นกันชายชราท่านหนึ่งจ้องเขม่นมาทางป่าเขาที่อยู่ด้านหลังพลางตะคอกเสียงต่ำ
ร่องรอยการเคลื่อนไหวนั้นหลินหยินจงใจทำมันขึ้นมาเองไม่งั้นจากระดับความสามารถของเขากลุ่มคนพวกนี้คนที่เก่งที่สุดก็แค่อยู่ในระดับขั้นปฐพีจะมีทางสังเกตเห็นเขาได้ยังไง
หลินหยินมุดตัวออกมาจากป่าเขาปรากฏอยู่ตรงหน้ากลุ่มคนเหล่านี้คารวะก่อนจะพูด:"ข้าน้อยอยากไปสถานที่ใดสถานที่หนึ่งครับแต่ว่าเพิ่งหลงทางมาต้องรบกวนขอคำแนะนำทางจากท่านผู้เฒ่าด้วยนะครับข้าน้อยคงจะรู้สึกตื้นตันใจมากๆเลยครับ"
เสี้ยววินาทีแรกที่ชายชราเห็นหลินหยินรูม่านตาของเขาหดเล็กลงอย่างกระทันหันก่อนจะรีบพูด:"ไม่เป็นไรเลยครับไม่ทราบว่าคุณน้องจะไปที่ไหนหรือครับ?"
หลินหยินก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกันหยิบแผนที่ออกมายื่นให้ชายชราทันทีสถานที่แห่งนี้ก็แค่สถานที่ที่เปราะบางส่วนนึงของอาณาจักรลับเท่านั้นเองคนพวกนี้ไม่มีอาวุธเทพที่สามารถทำลายเกราะที่กั้นระหว่างอาณาจักรได้จึงจะเข้าไปในอาณาจักรลับไม่ได้เช่นกัน
"หุบเขาวิญญานงูนี่เองน้องจะไปเก็บสมุนไพรยาที่นั่นหรือ?"
ชายชรามองหลินหยินด้วยสายตาที่ประหลาดใจพลางถาม:"แผนที่นี้ของน้องอายุเก่าแก่เกินไปแล้วจุดหมายปลายทางของพวกเราต้องเดินทางผ่านหุบเขาวิญญาณงูพอดีเลยถ้าไม่ได้รังเกียจอะไรก็เดินทางไปพร้อมกันกับพวกเราเถอะ"
"งั้นรบกวนด้วยนะครับ!"หลินหยินพยักหน้าพลางพูด
จากการแนะนำตัวของชายชราชายชราชื่อ‘จู้ยวินเทา’ชนเผ่าตระกูลของพวกเขาได้ดำรงชีวิตอยู่ในระแวกภูเขาคุนหลุนตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนแล้วถือว่าเป็นตระกูลซ่อนเร้นอยู่แต่ว่าตลอดร้อยกว่าปีที่ผ่านมาได้ค่อยๆดับสลายไปแล้วคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลก็อยู่แค่ระดับปฐพีเท่านั้น
ในทุกๆปีพวกเขาจะเดินทางออกมาจากภูเขาคุนหลุนเพื่อทำการแลกเปลี่ยนสิ่งของบางอย่างกับคนในโลกภายนอก
พูดคุยกันไปได้สักพักชายชรากลับไปยังตำแหน่งด้านหน้าสุดของกลุ่มส่วนหลินหยินตามอยู่ด้านหลังกลุ่มอย่างติดๆ
จู้ยวินเทาเพิ่งกลับมาถึงในกลุ่มนักสู้ในช่วงวัยกลางคนคนนึงก็ได้ถามขึ้นมาเสียงเบา:"น้าเทาครับทำไมต้องพาคนนอกคนหนึ่งไปยังหุบเขาวิญญาณงูด้วยครับสมุนไพรยาที่อยู่ตรงนั้นมีเยอะขนาดนั้นถ้าเกิดคนในโลกภายนอกรู้ทรัพยากรเงินทองของเราก็จะลดลงเป็นจำนวนมากเลยนะครับ"
"หุบปาก!"
จู้ยวินเทาตะคอกเสียงต่ำทีนึง:"หวังแค่ว่ายอดฝีมือหนุ่มคนนี้คงจะไม่ได้มาเพราะพวกเรา!"
บทสนทนาของจู้ยวินเทาและนักสู้วัยกลางคนเขาได้ยินอยู่กับหูแต่ทว่าเขากลับไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลยสักนิดเป้าหมายในครั้งนี้ของเขาคือเดินทางไปยังอาณาจักรลับคุนหลุนบางทีบริเวณที่เข้าใกล้กับอาณาจักรลับคุนหลุนอาจจะมีพื้นที่ที่อัศจรรย์แต่นั่นมันเกี่ยวข้องอะไรกับเขาหรือ?
หลังจากที่เดินทางมาได้ครึ่งวันก็ได้มาถึงละแวกของหุบเขาวิญญาณงูหลังจากที่หลินหยินบอกลาจู้ยวินเทาก่อนจะวิ่งบินตรงไปภายในหุบเขาวิญญาณงู
จนกระทั่งมาถึงหุบเขาวิญญาณงูหลินหยินก็สามารถหาจุดอ่อนของอาณาจักรลับได้อย่างง่ายได้เลย
"ที่นี่แหละ!"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.readmeapps.com All rights reserved